อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 723 ศึกใหญ่นองเลือด
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 723 ศึกใหญ่นองเลือด
“ใช่”
“แม้จะเป็นขั้นสูงสุดระดับหกแล้วอย่างไร ไม่ว่าใครก็ห้ามแตะต้องพี่สาวของข้าอย่างเด็ดขาด”
“นี่……”
กู้ชูหน่วนอยากจะเตือนเขาให้ระวังหน่อย สองคนนี้มีพลังแข็งแกร่งมาก แต่จอมมารได้เข้าร่วมการต่อสู้เสียแล้ว
เมื่อมีจอมมารเข้าร่วม ความกดดันของผู้อาวุโสใหญ่ก็ลดลงไปมาก
การต่อสู้อันวุ่นวายครั้งนี้
ยิ่งวุ่นวายมากขึ้นเมื่อผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งของเผ่าเทียนเฟิ่นก็มาเข้าร่วมด้วย
เมื่อเห็นว่าสามรุมหนึ่ง
เดิมทีสถานการณ์ก็ไม่เข้าข้างพวกนางอยู่แล้ว กลุ่มกำลังหลักของเผ่าเทียนเฟิ่นก็เข้ามาเสริมอีก คนเหล่านี้ได้ทำการล้อมรอบตัวกู้ชูหน่วนเอาไว้
“โครมคราม……”
“กุบกับ……”
ที่ไกลออกไปมีเสียงควบม้ามากมายเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทำให้ป่าเหม็นเน่าแห่งนี้เกิดการสั่นสะเทือนไม่หยุด
รูปแบบนี้ พลังเช่นนี้ คนที่มาคงมีไม่น้อย
หัวใจของกู้ชูหน่วนเย็นเฉียบลงไปมากกว่าครึ่ง
เห็นที วันนี้คงจะจบไม่สวยแน่
“ปกป้องเจ้าสำนัก ปกป้องเจ้าหอ ปกป้องหัวหน้าเผ่า……”
เสียงที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยส่งมาจากที่ไกลออกไปและค่อยๆใกล้เข้ามา พร้อมกับไอสังหารที่คุกรุ่น
หางตาของกู้ชูหน่วนพบว่า กลุ่มคนที่เร่งเดินทางมาด้วยท่าทีดุดันนั้นไม่ใช่เป็นคนของเผ่าเทียนเฟิ่น แต่เป็นคนของนาง
คนที่เป็นผู้นำคือสีชิ่น เสี่ยวลู่ ไป๋จิ่น และยังมีผู้อาวุโสหกที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นต้น
พอพวกเขามาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงตรงเข้าไปต่อสู้ทันที เสี่ยวลู่กับไป๋จิ่นทิ้งม้าใช้วิชาตัวเบาเหาะข้ามไป คุ้มกันนางทั้งซ้ายขวา
“นายหญิง ข้าน้อยมาช่วยเหลือข้า ขอนายหญิงอภัยด้วย”
“ไม่ช้า มาได้พอดีเลย”
นี่เป็นศึกใหญ่ครั้งแรกของทั้งสองฝ่ายหลังจากที่กู้ชูหน่วนทะลุมิติมา ภาพการต่อสู้ได้ล้มล้างสิ่งที่นางเคยคิดเอาไว้
คนเหล่านี้รวมกันแล้วอย่างน้อยก็มีหลายพันคน แต่ละคนล้วนเป็นยอดฝีมือที่ถูกคัดเลือกมาแล้วอย่างดี การต่อสู้ระหว่างพวกเขา รุนแรงยิ่งกว่ากองทัพทหารนับหมื่นที่ต่อสู้อย่างสุดกำลัง
เสี่ยวลู่เอ่ยขึ้นว่า “นายหญิง ผู้อาวุโสใหญ่มีคำสั่ง ให้ข้าน้อยคุ้มกันท่านกลับเผ่าหยก”
กู้ชูหน่วนลังเลเล็กน้อย
ที่นี่ต่อสู้กันรุนแรงขนาดนี้ นางจะจากไปก่อนคนเดียวได้อย่างไร
“นายหญิง มุกมังกรสำคัญ ประชาชนของเผ่าหยกยังคงรอท่านและมุกมังกรกลับไป ขอเพียงมุกมังกรสามารถกลับไปถึงเผ่าหยกอย่างปลอดภัย แม้คนที่นี่ต้องตายกันหมด พวกเขาก็ยินดีเสียสละชีวิต ”
ไป๋จิ่นเอ่ยขอร้องว่า “หัวหน้าเผ่า ท่านกลับไปก่อนเถอะ ผู้อาวุโสทั้งหลายของเผ่าหยกกำลังเร่งเดินทางมา พวกเราไม่มีทางเสียเปรียบแน่”
“โครมคราม……”
ที่ไกลออกไปมีคนกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาอีกแล้ว
ที่นำหน้าคือรถม้าธรรมดาคันหนึ่งที่แฝงความหรูหราเอาไว้ กู้ชูหน่วนจำได้ รถม้าคันนั้นเป็นของเย่จิ่งหาน
ด้านหลังรถม้า ยังมีกองทัพทหารที่สวมชุดสีเขียว คนเหล่านี้ล้วนมีสายตาที่ยอดเยี่ยม ไอสังหารคุกรุ่น ดูก็รู้ว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการสู้รบมานาน
“ปกป้องพระชายา กำจัดเผ่าเทียนเฟิ่น”
ชิงเฟิงควบม้าอยู่ด้านหน้าสุด แค่ตวัดดาบออกไปทีเดียวก็สามารถฆ่าลูกศิษย์ของเผ่าเทียนเฟิ่นได้หนึ่งคน
“ไป……”
เจี่ยงเสวียฉวยโอกาสที่ชลมุนขับรถม้ามาตรงหน้ากู้ชูหน่วน เอ่ยเสียงร้อนใจว่า “พระชายา เชิญขึ้นรถม้าก่อน ท่านอ๋องบาดเจ็บสาหัสมาก ข้าเกรงว่าเขาจะทนต่อไปไม่ไหว”
คนของเย่จิ่งหานมาช่วยต่อสู้ และคนของนางก็มากันมากมาย การต่อสู้ครั้งนี้โอกาสที่พวกเขาจะชนะก็มีอยู่มากเหมือนกัน เพียงแต่……สามารถยับยั้งสุดยอดผู้อาวุโสทั้งสามได้เป็นการชั่วคราวเท่านั้น
เมื่อนึกถึงความสำคัญของมุกมังกรกับอาการบาดเจ็บของเย่จิ่งหาน กู้ชูหน่วนก็ดีดตัว กระโดดขึ้นไปบนรถม้า ทิ้งท้ายไว้คำหนึ่งว่า “อาโม่ ข้าจะกลับไปที่เผ่าหยกก่อน เจ้าระวังความปลอดภัยด้วย ถ้าเห็นท่าไม่ดีให้รีบเผ่นทันที อย่าได้เอาชีวิตตนเองไปล้อเล่นอย่างเด็ดขาด”
“พี่สาววางใจเถอะ ขอเพียงมีข้าอยู่ ใครก็ทำร้ายท่านไม่ได้”
“ไป๋จิ่น จับตัวเวินเส้าหยี ข้าต้องการจับเขาตัวเป็นๆ”
รถม้าได้ขับออกไปอย่างรวดเร็วแล้ว แต่คำพูดของกู้ชูหน่วนยังคงลอยผ่านหน้าต่างรถม้าออกมาอย่างชัดเจน
ไป๋จิ่นรับบัญชา แค่โบกมือคนของเผ่าน้ำแข็งจำนวนไม่น้อยได้ล้อมตัวเวินเส้าหยีเอาไว้
เวินเส้าหยีเป็นหัวหน้าเผ่าน้อยของเผ่าเทียนเฟิ่น เขาเป็นคนสำคัญที่เผ่าเทียนเฟิ่นต้องปกป้อง ไป๋จิ่นกลับดึงดันที่จะจับตัวเขาให้ได้
นี่ก็กลายเป็นศึกใหญ่ที่ต้องนองเลือดอีกแล้ว