อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 794 สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮย
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 794 สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮย
“ถือโอกาสตอนที่กองกำลังหลักและตาเฒ่าหนังเหนียวของเผ่าเทียนเฟิ่นถูกกักขัง ท่าน ท่าน และท่านด้วย พวกท่านรีบไปเคลื่อนพลม้านิลกลุ่มหนึ่งออกมาเดี๋ยวนี้ นำประชาชนของเผ่าที่ออกไปด้วยทางลับที่เร็วที่สุด”
“พลม้านิล?”
พลม้านิลจะถูกเคลื่อนออกมาก็ต่อเมื่อเผ่าหยกต้องเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย ไม่เช่นนั้นจะไม่ถูกเคลื่อนออกมาง่ายๆ
ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้เปรียบ ทำไมยังต้องเคลื่อนพลม้านิลออกมาอีก?
กู้ชูหน่วนกล่าวช้าๆประโยคหนึ่ง “สนามรบเปลี่ยนแปลงได้มากมายหลากหลายในชั่วพริบตา จะไม่คิดหาทางหนีทีไล่อื่นไว้ให้มากหน่อยได้อย่างไร”
ผู้ที่ถูกเรียกชื่อไม่กี่คนนั้นเข้าใจ รีบไปดำเนินการทันที
พวกเขาจากไปได้ไม่นาน คนรับใช้ผู้หนึ่งก็มารายงานด้วยความรีบร้อน
รายงาน……ในกองกำลังหลักของเผ่าเทียนเฟิ่นมียอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับหกแฝงตัวอยู่หนึ่งคน เขาทะลวงผ่านที่คุมขังของหุบเขาผีเสื้อสังหาร หนีออกมาแล้ว ผู้อาวุโสใหญ่ ผู้อาวุโสรองกำลังไล่ตามเขาขอรับ”
ขั้นสูงสุดระดับหกอีกคนแล้ว?
เผ่าเทียนเฟิ่นมีขั้นสูงสุดระดับหกมากมายเพียงใดกันแน่?
“เป็นสุดยอดผู้อาวุโสของเผ่าเทียนเฟิ่นหรือ?”
“น่าจะไม่ใช่ขอรับ ดูแล้วอายุไม่มาก”
ไม่ใช่สุดยอดผู้อาวุโส?
หรือจะเป็นเพียงผู้อาวุโสธรรมดาของเผ่าเทียนเฟิ่นเช่นนั้นหรือ?
ศักยภาพของผู้อาวุโสธรรมดาก็ถึงขั้นขั้นสูงสุดระดับหกได้ นี่จะต้องน่ากลัวมากเพียงใดกัน?
“รายงาน……สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยของเผ่าเทียนเฟิ่นได้บุกฝ่าพันธนาการ หลุดพ้นจากหุบเขาร้างแล้ว กำลังมุ่งหน้าไปทางเส้นทางลับขอรับ ผู้อาวุโสแปดและคนอื่นๆนำทุกคนไปถ่วงเวลาพวกเขาเข้าไว้แล้ว แต่เกรงว่าจะหยุดพวกเขาไม่ได้แล้วขอรับ”
ไป๋เฉ่าตกตะลึง
นี่เทียบเท่ากับการมีขั้นสูงสุดระดับหกสองคนพลัดหลงอยู่ในเผ่าของพวกเขาเชียวนะ
แม้ว่าผู้อาวุโสใหญ่และคนอื่นๆจะถ่วงรั้งไว้คนหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมีอีกคนหนึ่งที่ไม่มีผู้ใดถ่วงรั้งไว้
ศักยภาพของขั้นสูงสุดระดับหก คิดจะทำลายเผ่าหยกในชั่วพริบตา เดิมทีก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
“ไป๋เฉ่า ท่านพาคนอื่นๆเดินไปทางลับด้วยเส้นทางลัดที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยเร็ว อพยพคนในเผ่าออกไปด้วยเวลาอันรวดเร็วที่สุด”
“แล้วสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยล่ะจะทำอย่างไร?”
“ข้าจะไปจัดการเขา”
“จัดการ? จัดการอย่างไร อาหน่วน ตอนนี้เจ้าเป็นเพียงขั้นต้นระดับสี่ ขั้นต้นระดับสี่ยังห่างจากขั้นสูงสุดระดับหกอยู่ไกลมากเชียวนะ ข้าว่าเจ้าไปอพยพคนจะดีซะกว่า พวกสุนัขของเผ่าเทียนเฟิ่นเหล่านั้นมอบให้ข้าไปจัดการเถอะ”
“นี่คือคำสั่ง ดำเนินการเดี๋ยวนี้”
เสียงของกู้ชูหน่วนเฉียบขาด น้ำเสียงแข็งกร้าว ไม่อนุญาตให้สงสัย
ไป๋เฉ่าทำได้เพียงกระทืบเท้า แล้วมุ่งหน้าไปทางลับด้วยความเร็วเป็นที่สุด
ห้องประชุมอันกว้างใหญ่ ในชั่วพริบตาก็เหลือเพียงกู้ชูหน่วนและคนรับใช้ที่ฐานะไม่ได้สูงส่วนหนึ่งเท่านั้น
กู้ชูหน่วนถอนหายใจลมสกปรกออกมาเฮือกหนึ่ง
นางก็รู้ว่า สงครามสนามนี้ไม่ได้สู้ง่ายขนาดนั้น
กองกำลังหลักของเผ่าเทียนเฟิ่นไม่ได้น่ากลัว ที่น่ากลัวก็คือขั้นสูงสุดระดับหกไม่กี่คนนั้น
“หัวหน้าเผ่า พวกเราสาบานว่าจะอยู่ร่วมเป็นร่วมตายไปพร้อมกับเผ่าหยกขอรับ”
“สาบานว่าจะอยู่ร่วมเป็นร่วมตายไปพร้อมกับเผ่าหยกขอรับ”
“อย่างไรเสียเผ่าหยกก็มีรากฐานที่มั่นคงมานับพันปี คิดจะทำลายล้างเผ่าหยกให้สิ้นซาก ให้พวกเขาฝันไปซะเถอะ พวกเจ้าทำตามวิธีการของข้า ข้าจะไปเกลาฝีมือกับอั้นเฮยตาแก่หนังเหนียวนั่น”
“ท่านคนเดียวหรือ?”
“คนเดียวก็เพียงพอ”
กู้ชูหน่วนก้าวออกจากห้องประชุม มองดูท้องฟ้าอันมืดมน เพ่งเป้าไปในทิศทางหนึ่งแล้วรีบจากไปอย่างรวดเร็วที่สุด
สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยช่ำชองวิชาควบคุมฝน นางจำเป็นต้องรีบไปอยู่ต่อหน้าของอั้นเฮย หยุดเขาไว้ ไม่เช่นนั้นฝนที่กัดกร่อนตกลงมาฉาดหนึ่ง ก็ไม่รู้ว่าเผ่าหยกจะมีคนตายมากมายเพียงใด
สุดยอดผู้อาวุโสคนอื่นของเผ่าเทียนเฟิ่นนางไม่กระจ่าง แต่เทียบอั้นเฮยกับหยู่เย่แล้ว นางรู้สึกว่าวิชาควบคุมฝนของอั้นเฮยน่ากลัวยิ่งกว่า
กู้ชูหน่วนรีบวิ่งมุ่งไปทางพยับเมฆมืดครึ้ม ในที่สุดก็ได้เห็นสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยอยู่ไม่ไกลแล้ว
เขากำลังรวบรวมพลัง รวบรวมเมฆดำเป็นกลุ่มก้อนเข้าด้วยกัน ปรารถนาที่จะทำให้เกิดพายุฝนขนาดใหญ่ในเผ่าหยกฉาดหนึ่ง
ข้างๆเขา ยังมีผู้อาวุโสของเผ่าหยกหลายคนล้มอยู่ด้วย
จิตใจของกู้ชูหน่วนตึงเครียด คนยังไม่ถึงแต่เสียงมาถึงก่อนแล้ว
“ตาเฒ่า ท่านกำลังมองหาข้าอยู่หรือ? ข้าอยู่ตรงนี่แน่ะ…..”