อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 8 คุณหนูสามเดือดดาลแล้ว
คุณ……คุณหนูสาม…….คิดไม่ถึง……คิดไม่ถึงว่าจะตีอนุภรรยาห้า
โอ้สวรรค์ พวกเขาไม่ได้ดูผิดสินะ
อนุภรรยาห้าเป็นถึงอนุภรรยาที่นายท่านโปรดปรานเป็นที่สุดนะ
อนุภรรยาห้าถูกตบจนมึนงง แทบจะหกคะเมน นางกุมใบหน้าบวมแดงอย่างงงัน เห็นว่าบรรดาผู้คนมองดูนางด้วยสายตาที่แปลกประหลาด
อนุภรรยาห้าข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่ กล่าวด้วยความโกรธ “เจ้ากล้าตบข้างั้นหรือ?”
“ที่ตีก็คือท่าน”
“ต่อต้านและต่อต้านแล้ว เรียกคนมา จับคุณหนูสามไว้ วันนี้ข้าจะต้องสั่งสอนนางให้ดีๆ”
“ใครกล้า”
กู้ชูหน่วนเปลี่ยนจากอดีตที่เป็นคนขี้ขลาดอ่อนแอ ทั้งร่างแผ่พลังความน่าเกรงขามเป็นที่สุด
แววตาของนางเย็นยะเยือกเกินไป เย็นจนไม่มีร่องรอยความอบอุ่นอยู่ ถูกนางจับจ้อง เหล่าคนใช้ก็อดที่จะสั่นเทาไม่ได้ เหมือนดั่งขาข้างหนึ่งเหยียบลงไปในนรกเช่นนั้น
กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ท่านแม่ของข้าเป็นถึงน้องสาวที่อดีตฮ่องเต้ปกป้อง แต่งตั้งเป็นองค์หญิงจาวหลิง และข้าก็เป็นลูกสาวแท้ๆขององค์หญิงที่เป็นภรรยาหลวง เป็นคุณหนูสามลูกภรรยาหลวงแห่งจวนเฉิงเซี่ยง เป็นว่าที่พระชายาหาน อนุภรรยาห้านับว่าเป็นอะไรกัน? ก็เป็นแค่อนุภรรยาที่ต้อยต่ำของจวนเฉิงเซี่ยงผู้หนึ่ง ไม่ต้องพูดถึงวันนี้ที่ข้าตีท่าน แม้ว่าวันนี้ข้าจะฆ่าท่าน ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรข้า”
อึ้งตาค้าง
บรรดาผู้คนอึ้งตาค้าง
หากว่าก่อนหน้าที่จะปฏิเสธการแต่งงานกับท่านอ๋องหานเทพสงคราม นางเป็นโรคลมบ้าขึ้นมาชั่วขณะถึงได้กล้าบ้าบิ่นขนาดนี้
เช่นนั้นครั้งนี้นางตบหน้าอนุภรรยาห้าต่อหน้าบรรดาผู้คน ทั้งยังกล้าหยิ่งผยองขนาดนี้อีก ก็เป็นโรคลมบ้าชั่วขณะหรือ?
ไม่ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
คุณหนูสามเปลี่ยนไปแล้ว
ไม่เหมือนอดีตที่อ่อนแอขี้ขลาดน่ารังแกอีกแล้ว
อนุภรรยาห้าถูกเพ่งมองจนพูดไม่ออก
หญิงสารเลวผู้นี้ วันนี้เจอผีแล้วหรือ? คิดไม่ถึงว่าจะถือดีได้เพียงนี้ แต่ที่นางพูด อีกทั้งแต่ละประโยคก็ทำให้นางไม่มีปัญญาจะโต้แย้ง
สาวรับใช้ข้างกายของอนุภรรยาห้าเห็นดังนั้น กล่าวด้วยความโกรธ “แม้ว่าจะเป็นคุณหนูสามลูกภรรยาหลวง ก็ไม่สามารถลงมือกับอนุภรรยาห้าอย่างไร้เหตุผลได้ ถึงอย่างไรนางก็เป็นผู้อาวุโส”
“เจ้านายพูดจา มีที่ให้เจ้าแทรกที่ไหนกัน จับนางไว้”
ทั้งเหตุการณ์เงียบกริบ ไม่มีคนฟังคำสั่งของนาง
อนุภรรยาห้าและสาวรับใช้เซี่ยหยู่ผยองขึ้นมา
ไม่ว่านางจะแข็งกร้าวแค่ไหน ในจวนก็ไม่มีใครฟังนาง
อนุภรรยาห้ากำลังรอจะสั่งสอนกู้ชูหน่วน แต่กลับเห็นกู้ชูหน่วนยิ้มอย่างชั่วร้าย แย่งท่อนไม้ในมือของคนรับใช้ ดั่งเสียงฟ้าร้องที่รวดเร็วจนไม่ทันได้ปิดหูเพี๊ยะเสียงหนึ่งตีลงไปบนร่างของเซี่ยหยู่อย่างรุนแรง
“ดูเหมือนว่าวันนี้ข้าจะต้องสั่งสอนๆเจ้าหน่อยแล้ว ไม่เช่นนั้นชั่วนิรันดรเจ้าก็จะไม่รู้ว่าทำไมดอกไม้ถึงได้เป็นสีแดงเช่นนี้”
เซี่ยหยู่เจ็บจนสูดหายใจลึกๆด้วยตกตะลึงและหวาดกลัว นางอยากจะตอบโต้ แต่ไม้ของกู้ชูหน่วนไม้หนึ่งต่อด้วยอีกไม้หนึ่งตีลงไปบนร่างของนางอย่างต่อเนื่องติดๆ ไม่ว่านางจะหลบอย่างไร ไม้ของกู้ชูหน่วนก็เหมือนกับมีตาจับจ้องไล่ตามนางไป ทำให้นางไม่มีปัญญาตอบโต้ได้
“เจ็บ……เจ็บจนข้าจะตายแล้ว อนุภรรยาห้า รีบช่วยข้าน้อยด้วยเจ้าค่ะ”
อนุภรรยาห้าโกรธหนัก “หยุดมือ รีบหยุดมือให้ข้า ให้คนเข้ามาสิ รีบหยุดนางไว้”
“ข้าเป็นถึงคุณหนูสามลูกภรรยาหลวง อีกทั้งยังเป็นพระชายาหานที่ฮ่องเต้พระราชทานการแต่งงานให้ด้วยพระองค์เอง ใครกล้าหยุดยั้งข้า”
เหล่าคนรับใช้ต่างพากันหยุดฝีเท้า
อ๋องหานเป็นผู้ใด นั่นเป็นถึงบุคคลที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจอิทธิพลเป็นที่สุดของแคว้นเย่ แม้แต่ฮ่องเต้ก็หวาดกลัว
แม้ว่าพวกเขาก็ดูแคลนคุณหนูสามเหมือนกัน แต่ฐานะของคุณหนูสามก็แสดงอยู่ตรงนั้น พวกนางไม่กล้ากระดิกจริงๆ
อนุภรรยาห้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
คนใช้เหล่านี้ในวันปกติแย่งกันประจบสอพลอนาง เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้พวกนาง แต่ละคนก็แกล้งตายแล้ว
เมื่อเห็นว่าเซี่ยหยู่ถูกตีจนเลือดเนื้อปะปนกัน เฉิงเซี่ยงไปว่าการราชสำนักตอนเช้า ลูกสาวของตัวเองกู้ชูหลันก็ไปราชวิทยาลัยตั้งแต่เช้าแล้ว จวนเฉิงเซี่ยงใหญ่โตแต่กลับไม่มีที่พึ่งสักที่
อนุภรรยาห้ามองไปทางฮูหยินใหญ่ กล่าวขอร้อง “ฮูหยิน ท่านสามารถทำให้คุณหนูสามหยุดได้หรือไม่ ตีต่อไป เซี่ยหยู่ก็จะไม่มีชีวิตแล้ว”
แม้ว่าฮูหยินใหญ่จะตกตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงของกู้ชูหน่วน แต่นางได้เห็นอนุภรรยาห้าเสียหน้า จิตใจของนางกลับมีความสุขมาก
“เซี่ยหยู่เป็นเพียงสาวรับใช้ แต่กลับกระด้างกระเดื่องกับคุณหนูสามอย่างโจ่งแจ้ง คนใช้ในจวนก็ถึงเวลาต้องควบคุมให้ดีๆแล้ว ไม่เช่นนั้นก็จะไม่รู้ว่าในจวนนี้ใครเป็นเจ้านายที่แท้จริง”
อนุภรรยาห้ารู้สึกอัดอั้นไปด้วยความโกรธ
เห็นได้ชัดว่าฮูหยินใหญ่ตีวัวกระทบคราด ว่านางอนุภรรยาตัวเล็กๆผู้หนึ่งแต่กลับแย่งอำนาจของฮูหยินใหญ่อย่างนางไป
แต่ไหนแต่ไรนางมักจะไม่ลงรอยฮูหยินใหญ่เสมอ ฮูหยินใหญ่แทบอยากจะรีบไล่เซี่ยหยู่ออกไป ขอร้องนางไปก็ไร้ประโยชน์
อนุภรรยาห้าทำได้เพียงมองไปที่อนุภรรยาสาม “ท่านพี่สาม ท่านดูว่าจะสามารถช่วยเกลี้ยกล่อมคุณหนูสามได้หรือไม่”
เพราะเป็นอนุภรรยาเหมือนกัน กู้ชูหลันเข้าเรียนในราชวิทยาลัยได้ แต่ลูกสาวของนางกู้ชูฉิงกลับไม่สามารถเข้าเรียนในราชวิทยาลัยได้ อนุภรรยาสามที่กำลังอัดอั้นไปด้วยความโกรธอยู่ แทบอยากจะเหยียบย่ำอนุภรรยาห้าไว้ใต้เท้าอย่างรุนแรง แล้วจะตอบรับนางได้อย่างไร
นี่เจ้าไม่ได้ทำให้ข้าลำบากใจหรือ? ท้ายที่สุดข้าเป็นเพียงอนุภรรยาผู้หนึ่งน่ะ คุณหนูสามจะจัดการใคร ข้าจะมีสิทธิ์อะไรไปห้ามที่ไหน ลูกสาวของเจ้าไม่ใช่ว่าได้รับความเมตตา ได้รับการอนุญาตให้เข้าเรียนในราชวิทยาลัยแล้วหรือ?
อนุภรรยาห้าโกรธจนแทบจะหายใจไม่ออก
ไม่ใช่ว่าอนุภรรยาสามแสดงการเย้ยหยันนางอย่างชัดเจนหรือ?
ใครจะไม่รู้ว่าลูกสาวของนางเข้าไปในราชวิทยาลัยก็เพราะได้รับบุญวาสนาของกู้ชูหน่วน
อีกอย่าง ลูกสาวของนางก็เป็นเพียงแค่ลูกของอนุภรรยาผู้หนึ่ง แม้ว่าจะมาแล้ว กู้ชูหน่วนก็จะฉีกหน้าจริงๆ นางก็รับมือไม่ไหว เมียหลวงและเมียน้อยแม้ว่าจะต่างกันแค่อักษรเดียว แต่ฐานะกลับแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
“อนุภรรยาห้า ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วยเจ้าคะ…….”
เซี่ยหยู่ถูกตีจนเลือดเนื้อปะปนกัน เสียงที่เฉียบคมค่อยๆอ่อนแรง เหงื่อเย็นๆและเลือดค่อยๆไหลลงพื้น แต่กู้ชูหน่วน เหมือนไม่ได้รู้สึก ตีลงไปบนร่างของนางต่อทีละไม้ๆ ทุกไม้ที่ลงไป บรรดาผู้คนสามารถได้ยินเสียงกระดูกหักได้
ตื้ด……
คุณหนูสามที่ปกติทำตามคำพูดของคนอื่นนี้ คิดไม่ถึงว่าเมื่อโมโหขึ้นมาจะน่ากลัวขนาดนี้ ดูเหมือนว่าหลังจากนี้พวกเขาจะต้องระมัดระวังหน่อย จะรังแกนางได้เหมือนเมื่อก่อนเช่นนั้นอีกไม่ได้
เซี่ยหยู่เป็นข้าทาสที่ติดตามอนุภรรยาห้ามาจากนอกจวนตอนแต่งงาน เติบโตมาพร้อมกับนาง บอกว่าเป็นเจ้านายและคนใช้ ความเป็นจริงเป็นเหมือนพี่สาวน้องสาวมากกว่า หลายปีที่ผ่านมาก็ช่วยทำธุระแทนนางไม่น้อย
หากนางตาย อนุภรรยาห้าก็เท่ากับแขนหักไปข้างหนึ่ง อนุภรรยาห้าจะยอมได้อย่างไร นางเดินเข้าไปขวางอยู่ด้านหน้าเซี่ยหยู่
อนุภรรยาห้าคิดว่า ไม่ว่ากู้ชูหน่วนจะอวดดีเพียงไร ก็ไม่กล้าตีนางอย่างแน่นอน แต่อย่างไรนางก็คิดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนกลับเพี๊ยะเสียงหนึ่ง ตีเข้าที่หลังของนางอย่างรุนแรง นางได้ยินแม้กระทั่งเสียงกระดูกที่แตกแล้ว
“อ้า……กู้ชูหน่วน คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้าใช้ไม้ตีข้า”
ฮูหยินใหญ่และคุณหนูสามก็คิดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนจะแข็งกร้าวขนาดนั้น อนุภรรยาห้าล้วนใช้ร่างกายปกป้องแล้ว นางกลับกล้าลงมือต่ออนุภรรยาห้าอีก
อีกทั้ง กู้ชูหน่วนไม่ได้ตีเพียงแค่ทีเดียว นางตีติดต่อกันไปสองไม้เต็มๆ ตีจนอนุภรรยาห้าเกือบจะเป็นลมหมดสติไปแล้ว ถึงได้อุทานด้วยความตกใจอย่างคนที่ไม่ได้ทำผิด
“อุ๊ย ท่านป้าห้า ข้าสั่งสอนคนใช้ ท่านวิ่งเข้ามาทำอะไร ไม้ไม่มีตา ดูซิ ไม่ทันได้ระวังมันก็ไปทักทายบนตัวของท่านแล้ว”
อนุภรรยาห้าขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธ จ้องมองกู้ชูหน่วนอย่างดุดัน ราวกับว่านางจะกลืนนางทั้งเป็นเช่นนั้น
ฮูหยินใหญ่เห็นว่าเซี่ยหยู่หายใจออกมาก หายใจเข้าน้อย อนุภรรยาห้าก็ถูกตีสามไม้แล้ว จึงได้พูดออกมาอย่างช้าๆสบายๆ
“คุณหนูสามเอ๋ย สาวใช้ชั้นต่ำนี่ก็ได้รับการทำโทษแล้ว ข้าคิดว่าหลังจากนี้นางก็ไม่กล้าทำผิดแล้ว ไม่เช่นนั้นก็พอเถอะนะ”
กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างดื้อรั้น ไม่ไว้หน้าฮูหยินใหญ่แม้แต่น้อย “พอแล้ว? ข้าเป็นถึงลูกภรรยาหลวง เสื้อผ้าที่สวมใส่กลับยังเทียบไม่ได้แม้แต่กับพวกสาวใช้และคนรับใช้ หลายปีมานี้ แม้แต่เงินเหวินเดียวข้าก็ไม่ได้รับ ฮูหยินใหญ่ ท่านควรให้คำอธิบายแก่ข้าใช่หรือไม่”