อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 802 เพลี่ยงพล้ำทั้งสองฝ่าย
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 802 เพลี่ยงพล้ำทั้งสองฝ่าย
“โครม…”
ขณะที่ดาบอ่อนชี้ขึ้นท้องฟ้าก็มีประกายไฟแปลบปลาบพุ่งออกมาทุกทิศทุกทาง ท้องนภาราวกับจะถูกแทงทะลุอย่างนั้น บังเกิดรอยแยกเป็นสายๆ
สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยขมวดคิ้วมุ่น
กำลังภายในทรงพลังยิ่ง
จิตสังหารรุนแรงยิ่ง
ความมั่นใจเปี่ยมล้นยิ่ง
นี่…แค่ระดับสี่ขั้นต้นจริงหรือ?
เผ่าหยกต้องคำสาปโลหิตนับร้อยนับพันปี คิดไม่ถึงว่ายังบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ที่เยี่ยมยอดเช่นนี้ได้
การเลือกนางเป็นหัวหน้าเผ่า เผ่าหยกช่าง…ตาแหลมคมนัก
ว่าไม่กู้ชูหน่วนหรือจะเป็นสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮย จิตสังหารบนตัวก็ล้วนเด่นชัดโดยมิต้องสงสัย
หากอีกฝ่ายไม่ตาย เผ่าของพวกเขาต้องมีความยุ่งยากไม่จบไม่สิ้นแน่ และจะมีผู้คนนับไม่ถ้วนต้องตายอย่างอนาถในเงื้อมมือของอีกฝ่ายด้วย
วันนี้แม้นต้องมอดม้วยก็ต้องสังหารอีกฝ่ายให้จงได้
“โครม…”
กู้ชูหน่วนชักนำอสนีบาตฟ้าเพลิงปฐพี ดึงพระพายแห่งนภา
สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยควบคุมพายุฝนบ้าคลั่ง พาลให้เกิดวังวนแห่งห่าฝน
ท่าร้ายปะทะบังเกิดเป็นเสียงกัมปนาทส่งผลให้เหวลึกอนันต์สั่นคลอน
เผ่าหยกก็สะเทือนเลือนลั่นไปด้วย
ความเคลื่อนไหวของพวกเขาครึกโครมมาก เกรงว่าเผ่าหยกจะทราบว่ามีศึกใหญ่แห่งยุคกำลังดำเนินอยู่ที่เหวลึกอนันต์
สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยล่าถอยไปสองสามก้าว ตรงมุมปากมีโลหิตล้นออกมาสายหนึ่ง สีหน้าซีดกว่าเดิมสามส่วน
บนดวงหน้าชราย่นยู่ เปื้อนไปด้วยความเหลือเชื่อ
ส่วนกู้ชูหน่วนกลับกระเด็นปลิวไป ร่างกายกระแทกกับผนังหินอย่างแรง อยู่นานก็ยังคลานขึ้นมาไม่ได้ อวัยวะภายในในตัวปั่นป่วนอย่างหนัก
นางยื่นมือออกมาเช็ดรอยเลือดตรงมุมปาก แล้วถุยเลือดสดออกมา
นางค้ำยันดาบอ่อนลุกขึ้นมาด้วยความลำบากยิ่ง สบสายตาทั้งคู่กับสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยแล้วกล่าวด้วยความทะนงตัว
“ระดับหกชั้นสูงก็เพียงเท่านี้”
พรึบ…
เพลิงพิโรธของสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยถูกจุดขึ้นอีกครั้ง
เขาในเพดานแห่งระดับหก อีกก้าวเดียวก็จะข้ามขึ้นสู่ระดับเจ็ดแล้ว
ระดับเจ็ดนั้นคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหล้า
กี่ปีมาแล้วที่คนทั่วหล้าพบเห็นเขาเป็นต้องยกย่องคารวะ อยู่ต่อหน้าเขายังถึงขั้นไม่กล้าหอบหายใจแรง
นางนับเป็นอะไร ถึงกับกล้ากำแหงต่อหน้าเขาเช่นนี้
หากมิใช่เพราะเขาเคยบาดเจ็บหนัก ท่านี้นางรับได้ก็ผีหลอกแล้ว
“นังหนู เจ้าควรตาย”
สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยจู่โจมอีกหน วังวนห่าฝนกลายเป็นแท่งคมน้ำแข็ง พุ่งเข้าหากู้ชูหน่วนจากทุกทิศ
คมน้ำแข็งทั้งแข็งและคมยิ่ง หนำซ้ำความเร็วยังเหนือกว่ากระแสไฟ
หลังจากกู้ชูหน่วนถูกคมน้ำแข็งปกคลุมแล้วก็รู้สึกเหมือนเลือดทั่วร่างของตัวเองจับตัว ไม่สามารถเดินได้
นางพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการ แต่กลับไม่มีเวลาเหลือให้ทัดทานคมน้ำแข็งที่พุ่งมาจากทั่วสารทิศได้
ชั่วขณะนั้น นางเสียวซ่านในใจเล็กน้อย
หรือต้องจบชีวิตที่นี่จริงแล้ว?
นางไม่ยอม
นางยังมีเรื่องต้องทำอีกมาก
ครั้นนึกถึงการตายอย่างอเนจอนาถของอี้เฉินเฟย ไป๋จิ่นและคนอื่นๆ
นึกถึงประชาชนนับพันนับหมื่นของเผ่าหยกที่รอให้นางรวบรวมมุกมังกร
นึกถึงเย่จิ่งหานที่ต้องคำสาปโลหิต เยว่เยว่ที่รับกับความทรมานเมื่อคำสาปโลหิตกำเริบแล้ว ไม่ทราบกู้ชูหน่วนก็ว่าเอาพละกำลังมาจากไหน พยายามดิ้นให้หลุดจากพลังที่พันธนาการนางไว้
“อ้า…”
นางคำรามเสียงหนึ่ง ระเบิดพลังอันแรงกล้าออกมาจากกาย พลันปรากฏลวดลายดอกบัวสีขาวหิมะตรงกลางหน้าผากดอกหนึ่ง
พลังมหาศาลสะเทือนคมน้ำแข็งปลิวออกไปจำนวนไม่น้อย
กู้ชูหน่วนไม่เพียงแต่ไม่ล่าถอยแต่ยังบุกขึ้นหน้า คมน้ำแข็งที่เหลือฝังเข้าร่างนางส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งนางก็หลบไปได้
ชั่วแวบประกายแสงขาว กู้ชูหน่วนก็ประสานคนกับดาบเป็นความชดช้อยสายหนึ่งแทงสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยโดยตรง
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเหลือเกิน
แม้สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยจะตื่นตะลึงในพลังของกู้ชูหน่วน ทว่าสุดท้ายก็ยังประเมินศัตรูต่ำเกินไป
ดาบนี้ เขาถูกแทงทะลุทรวงอกในดาบเดียว
“อั่ก…”
“อั่ก…”
ทั้งสองกระอักเลือกออกมาในคราวเดียวกัน