อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 810 ทำไมเจ้าไม่ตายไปเสีย
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 810 ทำไมเจ้าไม่ตายไปเสีย
กู้ชูหน่วนตกใจ และแทบจะตวัดดาบบุปผาวาดไปทางฮัวอิ่งแบบอัตโนมัติ
ดาบบุปผามีลักษณะเป็นแปดทิศตามแบบของไทเก็ก แฝงด้วยค่ายกลสองลักษณ์
เดิมนี่เป็นกระบวนท่าแข็งแกร่ง ทว่านางบาดเจ็บหนัก กอปรกับศัตรูยังเป็นระดับหกขั้นสูง ด้วยเหตุนี้ส่งกระบวนนี้ไปจึงราวกับสะกิดฮัวอิ่ง ไม่เกิดเป็นผลอะไรมาก
กู้ชูหน่วนเห็นสภาพการณ์แล้วจึงเปลี่ยนกระบวน ใช้ดาบอ่อนแทงฮัวอิ่งเป็นครั้งๆ หมุนตัวเป็นเกลียวฟันแนวขวางเข้าไป ประสงค์ยับยั้งไม่ให้ฮัวอิ่งสังหารเวินเส้าหยี
“ฉับๆๆ…”
พริบตาเดียวทั้งสองก็ปะทะกันสิบกว่ากระบวนแล้ว กู้ชูหน่วนแพ้ แต่ก็ลุกขึ้นมาด้วยความรวดเร็วอีกครั้ง
นางรู้ตัวดีว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฮัวอิ่ง ดังนั้นจึงจงใจทำความเคลื่อนไหวครั้งแล้วครั้งเล่า หวังดึงดูดคนของเผ่าเทียนเฟิ่นมา
“ยังเด็กยังเล็ก วรยุทธ์ไม่เลวนี่ มีความสามารถแฝงจากนางแพศยานั่นบางส่วน หัวก็ดี แต่น่าเสียดาย…”
“คนของเผ่าเทียนเฟิ่นถูกข้าหลอกออกไปหมดแล้ว ที่นี่เหลือแต่พวกเราสามคน ไม่มีใครมาหรอก วันนี้พวกเจ้าสองคนอย่าได้คิดหนีเลย มาเป็นของเล่นในมือข้าเสียดีๆ เถิด”
“โครม…”
กู้ชูหน่วนชี้ดาบขึ้นท้องฟ้า คิดจะล่อสายอสนีเพลิงพิภพมา สร้างความวุ่นวายจนปั่นป่วน
ฮัวอิ่งยิ้มเย็นทีหนึ่ง “เผ่าหยกเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับเผ่าเทียนเฟิ่น แต่เจ้ากลับเอาแต่ปกป้องหัวหน้าเผ่าน้อยของเผ่าเทียนเฟิ่น น่าสนใจ น่าสนใจยิ่ง ฮ่าๆๆ…แต่เจ้ายิ่งปกป้องเขา ข้าก็ยิ่งอยากฆ่าเขาต่อหน้าเจ้า”
“แกรบ…”
เมื่อฮัวอิ่งออกแรงก็หักดาบอ่อนของกู้ชูหน่วนทันที ทำลายดาบอ่อนเป็นสองส่วน จากนั้นก็ซัดหน้าอกของนาง
“อั๊ก…”
กู้ชูหน่วนกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง
ฝ่ามือนี้เจียนทำให้นางหอบหายใจไม่ออก
หากมิใช่เพราะนางอยากเล่นเกมแมวจับหนูยั้งมือไว้ กลัวว่านางคงต้องตายตรงหน้านางไปนานแล้ว
ครั้นเงยหน้าขึ้นกลับเห็นฮัวอิ่งสับฝ่ามือลงไปตรงกระหม่อมของเวินเส้าหยีอย่างแรงแบบหมดความอดทนจะเล่นสนุกต่อ
“ไม่…”
กู้ชูหน่วนตะโกนด้วยความตกใจ
หากสับฝ่ามือนี้ลงไป เวินเส้าหยีจะรอดชีวิตได้อย่างไร
นางอยากขัดขวาง แต่ร่างกายกลับเสียการควบคุม นางมิอาจหยุดยั้งได้แต่มองฝ่ามือนั้นตกลงไปต่อหน้าต่อตา
ก็ขณะที่กู้ชูหน่วนนึกว่าเวินเส้าหยีต้องตายแน่แล้ว ก็มีเสียงตวาดด้วยโทสะดังมาไกลๆ
“ฮัวอิ่ง เจ้ากล้านักนะ ถึงกับคิดจะฆ่าหัวหน้าเผ่าน้อยเผ่าเทียนเฟิ่นของพวกเขา จงเอาชีวิตมา”
เสียงมาถึงก่อนตัว ฝ่ามืออันหนักหน่วงก็มาถึงด้วย
“โครม…”
ฝ่ามือของสุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่ที่แฝงด้วยจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัวสูงเทียมฟ้าโจมตีฮัวอิ่งโดยตรง เป็นท่วงท่าซึ่งสามารถสยบหกด้านแปดทิศให้ราบคาบได้
ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างทราบว่าสุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่เดือดดาลแล้ว เนื่องจากเก็บกดเพลิงโทสะที่ก้นบึ้งหัวใจมาตลอด ดังนั้นเมื่อลงมือจึงไม่ยั้งมือ
กระบวนนี้ร้ายกาจยิ่ง ร้ายกาจจนอากาศรอบบริเวณจับตัวบิดเบี้ยว
ฮัวอิ่งไม่กล้ามองข้าม ดังนั้นจึงได้แต่ปล่อยเวินเส้าหยี แล้วรับฝ่ามือสุดแกร่งของสุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่อย่างเต็มกำลัง
“โครม”
ครั้นสุดยอดกระบวนปะทะกัน ตำหนักที่อยู่ห่างออกไปจึงระเบิดเป็นแถบๆ ส่งเสียงดังกัมปนาท
กู้ชูหน่วนอดกลั้นต่อความเจ็บปวดคลานไปตรงข้างเวินเส้าหยี กอดร่างที่เย็นเยียบไปทีละน้อยของเขา ใช้ร่างกายของตัวเองป้องกันไม่ให้เศษกระเบื้องที่ระเบิดถูกตัวเขา
ข้างใบหูเป็นเสียงปะทะฝ่ามือเป็นครั้งๆ เสียงมหาสงคราม รวมไปถึงเสียงระเบิดพังทลายของต้นไม้บ้านเรือน
กระแสลมแรงทำให้กู้ชูหน่วนไม่สามารถลืมตาได้ ได้แต่หลับตาปกป้องเวินเส้าหยีอยู่อย่างนั้น
การปะทะกันระหว่างยอดฝีมือระดับนี้ มิใช่สถานการณ์ที่นางสามารถควบคุมได้
นางเพียงคลับคล้ายคลับคลาเหมือนได้ยินเสียงก่นด่าของสุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่ “ใครทำให้เจ้าถึงกับกล้าฆ่าหัวหน้าเผ่าน้อย? เจ้ามีจุดประสงค์อื่นตั้งแต่แรกแล้วใช่หรือไม่”
“ตาแก่หนังเหนียว เจ้าก็อายุปูนนี้แล้ว ทำไมยังไม่ไปตายอีก? ในเมื่อเจ้าก็มองออกแล้ว เช่นนั้นข้าก็ไม่ต้องปกปิดอะไรอีก ถูกต้อง อีกจุดประสงค์หนึ่งที่เข้ามาเผ่าหยกก็เพื่อฆ่าเวินเส้าหยี กำจัดว่าที่ผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่น”
บทที่ 809 นางคิดสังหารเวินเส้าหยี