อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 811 หยู่เย่เสียชีวิต
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 811 หยู่เย่เสียชีวิต
“ไม่ว่ามันจะเป็นใคร ขอเพียงกล้าแตะต้องเส้าหยี มันก็จะต้องตาย เอาชีวิตมา”
“ตาแก่หนังเหนียว ข้าเห็นเจ้ารกหูรกตามานานแล้ว วันนี้เจ้าก็ลงนรกไปกับเวินเส้าหยีเถอะ”
“โครม…”
เสียงระเบิดข้างหูทวีความรุนแรงมากขึ้น
รุนแรงจนแก้วหูกู้ชูหน่วนหวิดจะแตก
นางอยากพาเวินเส้าหยีไปจากสมรภูมินี้ ทว่าทั่วทั้งบริเวณกลับมีเศษกระเบื้องและลูกหลงปลิวว่อน นางจนหนทาง หากพลาดพลั้งไปก้าวเดียว พวกเขาก็ต้องตายอนาถอยู่ที่นี่
อยู่ที่เดิมอย่างนี้ยังมีการคุ้มกันจากสุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่
ไม่ทราบว่าสุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่กลัวเวินเส้าหยีจะบาดเจ็บหรืออย่างไร ดังนั้นจึงล่อฮัวอิ่งออกไป เสียงการต่อสู้ห่างจากนางไปทีละน้อย
และนี่กู้ชูหน่วนถึงพยุงเวินเส้าหยี พยุงเขาเดินไปหลบซ่อนตัวในที่ปลอดภัย
คนของเผ่าเทียนเฟิ่นที่ได้ยินความเคลื่อนไหวเร่งรุดมาต่างถูกลูกหลงของสองคนนั้นทำจนบาดเจ็บ เสียชีวิตในทันที ชนิดว่าแม้แต่ศพก็ไม่เหลือ
“เวินเส้าหยี เจ้าฟื้นสิ รีบฟื้นเร็วเข้า”
นางต้องอาศัยจังหวะนี้หนีออกไปให้เร็ว ไม่เช่นนั้นไม่ว่าจะเป็นหยู่เย่หรือคนเงาชนะ นางก็ต้องตายแน่
แต่หากนางไปแล้ว เวินเส้าหยีจะทำอย่างไร?
หากหยู่เย่ชนะย่อมเป็นผลดี แต่หากคนเงาชนะเล่า?
เช่นนั้นนางมิต้องตายสถานเดียวหรือ?
วรยุทธ์พวกเขาสูสีกัน อยู่เพดานระดับหกเหมือนกัน
ทว่าสุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่สูงวัยแล้ว ย่อมด้อยกว่าคนเงาในทุกด้าน แต่หากกล่าวถึงประสบการณ์เขาต้องเหนือชั้นกว่าคนเงาแน่นอน
มหาศึกครานี้ แพ้ชนะไม่แน่นอน
กู้ชูหน่วนครุ่นคิดแล้วจึงซ่อนตัวก่อนชั่วคราว รอดูสถานการณ์ก่อน หากสถานการณ์ไม่ดีนางค่อยพาเวินเส้าหยีหนีไป แล้วค่อยหาหนทางอื่น
แต่ที่ทำให้นางคิดไม่ถึงก็คือ ศึกใหญ่บทจะจบก็คือจบ ไม่มีลางบอกเหตุเลยสักนิด
สุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่เหยียดกระดูกสันหลังตรง ยืนอยู่ตรงหน้ามองนางด้วยความเย็นชา
หยู่เย่บาดเจ็บแล้ว แล้วยังเจ็บหนักอีกด้วย ใบหน้าชรานั้นถึงจะปกปิดอย่างไร อย่างมากก็ให้เพียงความรู้สึกอ่อนล้าต่อโลกบางส่วนเท่านั้น
กู้ชูหน่วนยังรู้สึกได้อีกว่าลมหายใจของเขาไม่เสถียร ทะลักขึ้นข้างบนอย่างรุนแรง เห็นชัดว่าบาดเจ็บถึงแก่น
ดวงตาสองคู่สบประสาน กู้ชูหน่วนไม่ทราบว่าควรเอ่ยอะไรชั่วขณะ
แต่หยู่เย่กลับทราบ “เจ้าก็คือหัวหน้าเผ่าคนใหม่ของเผ่าหยก?”
“ไม่ใช่ ข้าเป็นแค่คนเงาเท่านั้น”
“เผ่าหยกยกเลิกคนเงาไปนานแล้ว เผ่าหยกอันใหญ่โตไม่มีคนเงาให้พูดถึงอีก”
“เมื่อก่อนข้าเป็นคนเงา ไม่ใช่ตอนนี้”
“เฮอะ…นังหนู เจ้าเห็นข้าเป็นเด็กอมมือจริงหรือ?”
กู้ชูหน่วนแบมือ “เจ้าว่าอย่างไรก็อย่างนั้นเถอะ ถึงอย่างไรก็อยู่ในเงื้อมมือเจ้าแล้ว ข้าจะขัดขืนก็ไม่ได้ แต่…เจ้ามิใช่ควรตรวจดูอาการบาดเจ็บของเวินเส้าหยีก่อนหรือ”
“เห็นแก่ที่เจ้าช่วยเส้าหยีเมื่อกี้ ข้าจะละเว้นชีวิตสุนัขของเจ้าก่อนชั่วคราว บัญชีระหว่างเราค่อยๆ สะสางกันทีหลัง”
หยู่เย่นั่งยองลงประคองเวินเส้าหยีที่ยังคงไม่ได้สติ
ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนอย่างฉับพลัน ตกใจอย่างหนัก
“ถูกทำลายวรยุทธ์ ถูกเลาะกระดูกสะบักด้วย? ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ไปได้…ทำไมพวกเจ้าต้องเลาะกระดูกสะบักของเขา แล้วยังบาดแผลตามตัวเขาอีก ใครเป็นคนทำ? ใครกัดฉีดเนื้อของเขาเป็นชิ้นๆ?”
จิตสังหารรุนแรงปรากฏออกมาในพริบตา อบอวลไปทั่วเผ่าหยก
คนของเผ่าเทียนเฟิ่นที่เพิ่งมาถึงตัวสั่นพั่บ กระทั่งยังทรุดลงไปทันที
จิตสังหารรุนแรงเหลือเกิน
ความโกรธเกรี้ยวอันมหาศาล
สุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่ที่อารมณ์ดีมาแต่ไหนแต่ไรบันดาลโทสะแล้ว
“พึ่บ…”
จิตสังหารพุ่งมาทางกู้ชูหน่วน
กู้ชูหน่วนถอยไปหลายก้าว เอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรน “เขาบาดเจ็บสาหัสมาก หากไม่รักษาให้ดี กลัวว่าชีวิตน้อยๆ จะรักษาไม่ได้แล้ว ถ้าเจ้าห่วงใยเขาจริงก็มิสู้รักษาให้เขาก่อนเถิด ถึงอย่างไรข้าก็หนีไปไม่ได้”
“เส้าหยี…เส้าหยี…”
สุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่ร้อนใจจนดวงตาแดงก่ำ
เขาอยากฆ่าล้างเผ่าหยกเพื่อระบายความแค้น
แต่เขาตระหนักดี ว่าหากไม่ช่วยเวินเส้าหยีโดยทันที ชาตินี้เขาต้องจบสิ้นแล้ว
สุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่ลงนั่งขัดสมาธิ ประทับฝ่ามือตนเองกับแผ่นหลังของเวินเส้าหยี ออกคำสั่งเสียงเย็น “คุ้มกันให้ดี ไม่ว่าผู้ใดก็ห้ามเข้าใกล้เรา ข้าจะรักษาอาการบาดเจ็บให้หัวหน้าเผ่าน้อย”
“ขอรับ…”
สุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่ถ่ายกำลังภายในให้เวินเส้าหยีอย่างต่อเนื่อง เขาใช้กำลังภายในฟื้นฟูร่างกายที่บาดเจ็บของเวินเส้าหยี ฟื้นฟูอวัยวะต่างๆ รวมไปถึงเจ็ดเส้นเอ็นแปดชีพจรที่บอบช้ำ
และถึงขนาดช่วยเขาต่อกระดูกสะบักที่ถูกเลาะออกครั้งแล้วครั้งเล่า
กู้ชูหน่วนมองดูอยู่ข้างๆ รู้สึกทอดถอนใจเล็กน้อย
นางก็เป็นหมอคนหนึ่ง มีหรือจะมองไม่ออกว่าสุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่ใช้กำลังยุทธ์ทั้งหมดของตัวเองรักษาอาการบาดเจ็บให้เวินเส้าหยี
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาก็อาจสูญเสียพลังยุทธ์กลายเป็นคนพิการได้ ขั้นหนักก็อาจมีอันตรายถึงชีวิต
แม้หยู่เย่และอั้นเฮยจะน่าแค้น
แต่ต้องยอมรับว่าพวกเขาดีกับเวินเส้าหยีจากใจจริง
ด้วยการรักษาอย่างสุดกำลังของสุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่ สีหน้าเวินเส้าหยีจึงค่อยๆ ดีขึ้นมาก อวัยวะที่บอบช้ำก็คืนสภาพอย่างช้าๆ
มีเพียงกระดูกสะบักของเขาที่ต่อไม่ติด
ไม่ว่าสุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่จะถ่ายทอดกำลังภายในมากเท่าไร หรือใช้วิธีอะไรก็ไม่สามารถทำให้กระดูกสะบักของเขากลับคืนดังเดิมได้
กู้ชูหน่วนกล่าวเตือนเขา “หากเจ้ายังทำเช่นนี้ต่อไป ตัวเองก็จะต้องตายด้วย ยอมแพ้เสียเถอะ กระดูกสะบักของเขากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว”
“พวกเจ้ากล้าทรมานเส้าหยีของข้าจนเป็นเช่นนี้ นังหนู ถึงเมื่อครู่เจ้าจะช่วยเขา ข้าก็จะไม่ไว้เจ้า จะโทษก็ต้องโทษที่เจ้าเป็นหัวหน้าเผ่าหยก เจ้าไปพบยมบาลในนรกเถิด”
เวินเส้าหยีที่ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาลืมตาอันมึนงง
ขณะที่เขายังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นก็เห็นสุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่ใช้พลังยุทธ์ทั้งหมด ควบคุมเถาวัลย์เขียวสิบเส้นไปทางกู้ชูหน่วน เถาวัลย์เขียวแต่ละเส้นกลายเป็นคมดาบ จะแทงเข้าหัวใจของกู้ชูหน่วน
ฝั่งทางกู้ชูหน่วนก็คล้ายบาดเจ็บหนัก ไม่สามารถหลบการโจมตีนี้พ้นได้ ได้แต่ปล่อยให้เถาวัลย์เขียวพุ่งเข้าสู่หัวใจของนาง
“ไม่…”
เวินเส้าหยีพลันตะโกน เขาอยากห้าม แต่พอขยับบาดแผลบนกายก็เจ็บจนตะเกียกตะกายขึ้นไม่ไหว
รอจนเขาคลานขึ้นมาได้อีกครั้ง ก็มีกระบี่แหลมพุ่งเข้ามาเป็นประกายนับพันนับหมื่นจากทั่วสารทิศจากที่ไกลๆ ทันที กระบี่แต่ละเล่มราวกับดอกบัวหิมะที่บานสะพรั่ง ฉับเสียงหนึ่ง หมื่นกระบี่รวมเป็นหนึ่ง แทงทะลุหัวใจของสุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่จากด้านหลัง
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วเหลือเกิน
เร็วจนทุกคนไม่ทันคิด
แม้แต่สุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่ก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะตนเองจดจ่ออยู่แต่กับกู้ชูหน่วนและเวินเส้าหยี หรือเพราะเขารักษาเวินเส้าหยีสูญเสียกำลังภายในมากเกินไป
การโจมตีนี้เขาไม่อาจหลีกหนี
กระบี่ทะลุทรวงอก โลหิตไหลออกมาติ๋งๆ
กู้ชูหน่วนเงยพลันเงยหน้า เห็นผู้ที่ช่วยนางก็คือเหล่าสุดยอดผู้อาวุโสของเผ่าหยก
สุดยอดผู้อาวุโสเสือกกระบี่นี้ออกไปด้วยกำลังทั้งหมดแล้วตัวเองก็ล้มลง สิ้นเรี่ยวแรง
เวินเส้าหยีแทบคลานไปถึงตัวสุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่
“ท่านปู่หยู่เย่ ข้าจะรักษาให้ท่าน ท่านอดทนเอาไว้ก่อน”
“อั๊ก…”
สุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่ล้มตัวลง ร่างกายคล้ายระเบิดหมอกโลหิตออกมา ทำให้พื้นดินบริเวณนั้นแดงฉาน
“ผู้อาวุโส…” บรรดาคนของเผ่าเทียนเฟิ่นต่างตะโกนด้วยความตะลึงกลัว
สุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่ลูบศีรษะของเวินเส้าหยี ยิ้มพลางกล่าวอย่างอ่อนแรง “เห็นเจ้าไม่เป็นไร ข้าก็วางใจแล้ว ข้าไม่เอาไหน ปกป้องเจ้าไม่ได้ เจ้าต้องรับปากข้านะ ต้องรอดออกไปจากเผ่าหยกให้ได้”