อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 812 ช่วยไม่ได้
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 812 ช่วยไม่ได้
“ท่านปู่หยู่เย่…”
เวินเส้าหยีพยายามห้ามเลือดให้เขาสุดกำลัง แต่ตัวเขาก็ยังระเบิดหมอกโลหิตออกมาเป็นหนๆ หาใช่เรื่องที่เขาหยุดยั้งได้
เวินเส้าหยีลนลานหันไปขอความช่วยเหลือจากกู้ชูหน่วน
“ช่วยเขาได้ไหม เขาเพียงเจ้าช่วยเขาได้ ข้าจะพาคนของเผ่าเทียนเฟิ่นไปเดี๋ยวนี้ และรับรองว่าตราบเท่าที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ จะพยายามทุกวิถีทางไม่ให้คนของเผ่าเทียนเฟิ่นรุกล้ำเผ่าหยกอีก”
ครั้นเหล่าผู้อาวุโสเผ่าหยกที่มาถึงได้ยินคำพูดของเวินเส้าหยีก็อดถุยทีหนึ่งไม่ได้
“ข้าเชื่อเจ้าก็บ้าแล้ว เผ่าเทียนเฟิ่นไม่ฆ่าล้างเผ่าหยกสิแปลก ถึงพวกเจ้าจะรามือได้ พวกเราเผ่าหยกก็รามือไม่ได้”
“นั่นสิ ผู้อาวุโสใหญ่ ตอนนี้พวกมันยอดฝีมือระดับหกขั้นสูงตายไปแล้วสี่ เหลือคนเงาที่เจ็บหนักแค่คนเดียว พวกเรามิสู้ลุยกับพวกมันเลยดีกว่า”
“ก่อนหน้านี้คำนึงถึงยอดฝีมือระดับหกขั้นสูง ตอนนี้…เฮอะ…”
“ดีที่เจ้าหกฉลาด รู้ว่าคนเงาแค้นอดีตหัวหน้าเผ่าที่สุด จงใจปล่อยข่าวสุสานอดีตหัวหน้าเผ่าออกมา ล่อคนเงาเข้ากลไกที่ข้าจัดวางเอาไว้ล่วงหน้าแล้วถึงกักตัวนางเอาไว้ได้”
ผู้อาวุโสหกแย้มยิ้ม “เคราะห์ดี เคราะห์ดี เป็นพวกมันสุนัขกัดกันเอง ทำจนเพลี่ยงพล้ำทั้งสองฝ่าย ถึงทำให้ข้าฉวยโอกาสได้”
“ผู้อาวุโสใหญ่ เราจะปล่อยโอกาสไปไม่ได้ พวกเรากำจัดพวกมันเสียตอนนี้เถิด”
ด้วยเหตุนี้ศึกระหว่างทั้งสองฝ่ายจึงปะทุขึ้นอีกครั้ง
ถึงเผ่าเทียนเฟิ่นจะสูญเสียยอดฝีมือระดับหกขั้นสูงหลายคนติดต่อกัน แต่ผู้อาวุโสระดับสูงและคนที่พามาด้วยก็มีไม่น้อย ดังนั้นการจะกวาดล้างให้สิ้นซากในทันทีจึงไม่ง่ายเช่นนั้น
และแม้เผ่าหยกจะประสบเคราะห์กรรมหนักติดต่อกันหลายครั้ง แต่อย่างไรที่นี่เป็นถิ่นของพวกเขา อีกทั้งเผ่าหยกยังมีผู้มีความสามารถมาก ไม่เพียงผู้อาวุโสหลายคน ทั้งยังมีพลม้านิลและคนของสำนักอสุราด้วย
ดังนั้นการต่อสู้ในครั้งนี้จึงไม่แน่ว่าเผ่าเทียนเฟิ่นจะชนะ หรือเผ่าหยกจะแพ้
ผู้อาวุโสใหญ่แวบความแค้นและตามมาได้จิตสังหารเข้มข้น
เขาก็เกลียดแค้นคนของเผ่าเทียนเฟิ่นเหมือนกัน
ยามนี้เป็นโอกาสที่หาได้ยากจริง
หากเผ่าหยกยังเอาชนะพวกเจ้าไม่ได้ แล้วจะมีหน้าอยู่ต่อบนโลกนี้ได้อย่างไร
เมื่อนั้นผู้อาวุโสใหญ่จึงโบกมือ พลม้านิลจำนวนมากโผล่ออกมาจากที่ไกลๆ ทันที แล้วล้อมคนของเผ่าเทียนเฟิ่นไว้
เวินเส้าหยีมองสุดยอดผู้อาวุโสเผ่าหยกที่กำลังรักษาให้กู้ชูหน่วน กล่าวเสียงหนัก “เจ้าต้องให้เลือดนองแผ่นดินเผ่าหยกให้ได้ใช่ไหม? ผูกพยาบาทแก้แค้นแล้วเมื่อใดจะจบสิ้น”
“ถุย แล้วตอนที่พวกเจ้าสาปพวกเราล่ะ ไยจึงไม่คิดว่าผูกพยาบาทแก้แค้นแล้วเมื่อใดจะจบสิ้น? เมื่อครู่พวกเจ้ายังฆ่าล้างคนเผ่าหยกเราอยู่เลย ทำไมไม่คิดว่าผูกพยาบาทแก้แค้นแล้วเมื่อใดจะจบสิ้น? ผู้อาวุโสใหญ่ข้าของวิงวอนให้ลงมือฆ่าพวกมันให้สิ้นซากเดี๋ยวนี้เลย เห็นพวกมันแล้วข้าก็โมโหยิ่ง”
“ผู้อาวุโสใหญ่โปรดออกคำสั่งเถิด”
แต่ขณะที่ผู้อาวุโสใหญ่กำลังจะออกคำสั่ง กู้ชูหน่วนก็ตวาดเสียงเย็น “ในสายตาพวกเจ้ายังมีข้าเป็นหัวหน้าเผ่าหรือไม่?”
“หัวหน้าเผ่า…”
“จับพวกเขาเอาไว้ก่อน ห้ามทำร้ายถึงชีวิต เอาไว้ให้อาการสุดยอดผู้อาวุโสและผู้อาวุโสใหญ่หายดีแล้วค่อยว่ากัน”
“หัวหน้าเผ่า…”
ทุกคนต่างไม่พอใจ
เผ่าเทียนเฟิ่นมากเล่ห์เพทุบาย ใครจะรู้ว่าพวกมันจะก่อเรื่องอะไรอีก
ผู้อาวุโสใหญ่กล่าว “บาดแผลข้าไม่จำเป็นต้องรักษาแล้ว”
“แล้วสุดยอดผู้อาวุโสเล่า หากยังไม่รักษาเขาอีก ก็ไม่ต้องเอาชีวิตแล้ว”
ผู้อาวุโสรองจึงกล่าว “พวกเราฆ่าคนของเผ่าเทียนเฟิ่น ไม่ส่งผลกระทบกับการรักษาสุดยอดผู้อาวุโสสักหน่อย”
“อั๊ก…”
สุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่กระอักเลือดออกมาอีกคำ ลมหายใจรวยริน
เวินเส้าหยีร้อนใจ “จะช่วยท่านปู่หยู่เย่ก่อนได้หรือไม่? ความแค้นระหว่างพวกเราค่อยชำระทีหลังได้หรือไม่?” น้ำเสียงของเขาแฝงความวิงวอน
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้วมุ่น “เขาบาดเจ็บหนักเกินไป ข้าช่วยไม่ได้”