อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 815 ราบเป็นหน้ากลอง
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 815 ราบเป็นหน้ากลอง
ดวงตะวันใกล้จะขึ้นขอบฟ้า
เผ่าเทียนเฟิ่นบาดเจ็บล้นตายจนจะหมดแล้ว เหลือคนที่ยังคุ้มครองเวินเส้าหยีสุดชีวิตเพียงไม่กี่คน
พวกเขามีบาดแผลทั้งตัว แทบเป็นการกัดฟันทนเฮือกสุดท้าย
“หัวหน้าเผ่าน้อย ขออภัยด้วย วันนี้พวกเราคงคุ้มครองท่านไม่ไหวแล้ว”
“หัวหน้าเผ่าน้อย หากท่านรอดไป โปรดแก้แค้นให้พวกเราด้วย”
“หัวหน้าเผ่าน้อย…ข้าไม่เสียใจ…ชาติหน้า…ชาติหน้าข้ายังขอติดตามท่าน…”
“เอื๊อก…”
ครั้นเวินเส้าหยีหลับตาลง หยาดน้ำตาก็ร่วงรินลงมาจากนัยน์ตาอันงดงามและเศร้าสลด
การห้ำหั่นตลอดทั้งคืน
การเสียสละตลอดทั้งคืน
เขาเจ็บปวดรวดร้าวจนด้านชาแล้ว
แต่เมื่อเห็นสองสามคนที่ถูกสังหารเป็นคนสุดท้ายตรงหน้าแล้ว เขาก็ยังรู้สึกเหมือนหัวใจถูกเชือดเฉือนอย่างไรอย่างนั้น
สนามรบอันกว้างใหญ่เต็มไปด้วยซากศพ โลหิตไหลบรรจบเป็นสายน้ำเลี้ยวลดคดเคี้ยว
ยามสายลมโชย กลิ่นคาวเลือดก็คละคลุ้งอยู่กลางอากาศและปลายจมูกของผู้คน
เวินเส้าหยีลืมตาขึ้น เผ่าเทียนเฟิ่นเหลือเพียงเขาคนเดียวแล้ว
คนของเผ่าหยกเข้าล้อมเขา
เวลานี้ต่อให้เขามีปีกก็หนีออกจากเผ่าหยกไม่ได้
เวินเส้าหยีมองมาทางกู้ชูหน่วน นัยน์ตาอบอุ่นใสแววคู่นั้นไม่เป็นมิตรและอบอุ่นอีกต่อไป ในทางกลับกันยังไม่คุ้นเคยจนทำให้กู้ชูหน่วนรู้สึกหวั่นเกรง
กู้ชูหน่วนนั่งกับเก้าอี้ที่บริวารนำมาให้อย่างไร้กำลัง
นางแทบไม่กล้าหันไปมองนัยน์ตาคู่นั้นของเวินเส้าหยี
นางเห็นเพียงแวบเดียวเท่านั้น
แม้เขาไม่ได้เอ่ยปาก
แต่นางก็รับรู้ได้ถึงความผิดหวังไร้เรี่ยวแรงจากส่วนลึกของเขา
“ท่านหัวหน้าเผ่า สุดยอดผู้อาวุโส คนของเผ่าเทียนเฟิ่นที่บุกเข้าเผ่าหยกนอกจากเวินเส้าหยี เจ้าสุนัขพวกนั้นกับคนเนรคุณคนเงาแล้ว นอกนั้นก็ตายหมดแล้วขอรับ ถูกพวกเราฆ่าพวกมันไปหมดแล้ว”
“ดี ดี ดี…จัดการเวินเส้าหยีเสียด้วย”
สุดยอดผู้อาวุโสกล่าวดีติดกันสามหน แล้วจึงสั่งสังหารในตอนท้าย ต้องการเอาชีวิตเวินเส้าหยี
กู้ชูหน่วนค้าน “สุดยอดผู้อาวุโส ท่านลืมที่ข้าเคยพูดแล้วหรือ?”
น้ำเสียงนางราบเรียบ นัยน์ตาทั้งคู่ก็นิ่งดุจสายน้ำ
ทว่าความหมายที่แฝงอยู่กลับเต็มไปด้วยการข่มขู่
คนอื่นอาจไม่เข้าใจ แต่สุดยอดผู้อาวุโสกลับเข้าใจดี
กู้ชูหน่วนคิดควักเลือดในหัวใจเป็นเครื่องสังเวย แต่นางมีเงื่อนไขหนึ่ง ก็คือละเว้นชีวิตของเวินเส้าหยีกับเย่จิ่งหาน
ก่อนหน้านั้นพวกเขารับปากแล้ว แต่…
ครั้งนี้เผ่าเทียนเฟิ่นบุกรุกเข้าเผ่าหยก สังหารคนในเผ่าพวกเขามากเหลือเกิน เขาไม่อาจอภัยได้จริงๆ
คนของเผ่าเทียนเฟิ่นตายอนาถต่อหน้าเวินเส้าหยีเช่นนั้น หากเวินเส้าหยีหลุดรอดไปได้จะไม่แก้แค้นพวกเขาอย่างบ้าคลั่งหรือ
พวกเขาเคยเสียทีให้กับการแก้แค้นของคนเงา จะเกิดเป็นซ้ำสองไม่ได้
ก็ขณะที่สุดยอดผู้อาวุโสกำลังลังเลว่าจะจัดการเวินเส้าหยีอย่างไร จู่ๆ บนท้องฟ้าก็มีเมฆดำเข้าปกคลุมหนาแน่นก่อนจะมีฝนกรดตกลงมา
ฝนกรดเริ่มจากตกปรอยๆ เป็นตกหนัก คนเผ่าหยกที่สัมผัสถูกฝนกรดต่างโอดร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด เนื้อตัวเน่าเปื่อยไม่หยุดกระทั่งเสียชีวิต ไม่เหลือแม้แต่กระดูก
ทันใดนั้นก็ไม่ทราบว่าผู้ใดตะโกนขึ้น “รีบหลบเร็ว ฝนนี้มีฤทธิ์กัดกร่อน จะทำให้ตัวเน่าจนตายได้”
ซ่า…
เผ่าหยกเกิดความโกลาหลขึ้นทันใด ผู้คนทั้งหลายต่างหาที่หลบฝน กลัวว่าหากช้าไปอีกนิด ชีวิตน้อยๆ ของตัวเองจะจบสิ้นแล้ว
ขณะเดียวกันก็มีลมฝ่ามือโจมตีเข้ามาด้วยพลังที่แข็งแกร่ง บีบให้ทุกคนจำต้องถอยไปข้างหลัง
สีหน้ากู้ชูหน่วนและเหล่าผู้อาวุโสเปลี่ยนโดยพลัน
พลังฝ่ามือร้ายกาจมาก
จิตสังหารน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน
นี่…ต้องเป็นพลังที่มีแต่ยอดฝีมือระดับหกขั้นสูงถึงทำได้กระมัง
“พึ่บๆๆ…”
กระเบื้องหลังคาตำหนักลอกออกมาเป็นแผ่น จากนั้นก็เข้าโจมตีพวกเขาราวกับศิลาทรายบินก็มิปาน
กระเบื้องแต่ละแผ่นต่างพกพาพลังเทียมฟ้ามาด้วย หากต้องโดนถูกต้องตายอย่างแน่นอน ดังนั้นทุกคนจึงจำเป็นต้องล่นถอยอีกครั้ง
ในจังหวะนี้เองก็มีแสงขาวแวบเข้ามาสายหนึ่ง รัดเอวเวินเส้าหยีแล้วม้วนออกไปด้วยความรวดเร็ว
สุดยอดผู้อาวุโสทั้งร้อนรนทั้งเดือดดาล “ตามไป”
ครั้นเห็นสายฝนที่มีฤทธิ์กัดกร่อน สมองกู้ชูหน่วนก็ปรากฏบุคคลหนึ่งขึ้นมาทันใด สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮย
บทที่ 814 น่าเศร้า
บทที่ 816 ไปจากเหวลึกอนันต์ได้