อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 821 เจ้าตาบอดหรือ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 821 เจ้าตาบอดหรือ
“ฟิ่วๆๆ…”
มือสังหารชุดดำนับสิบมาเสริมจากจุดไกลอีก มือสังหารเหล่านี้ต่างถือโซ่อยู่ในมือ ครั้นมาถึงก็สะบัดโซ่ออกไป หมายใช้โซ่พันธนาการเซียวหยู่เซวียนไว้
ระหว่างที่กู้ชูหน่วนกำลังจะยื่นมือเข้าช่วย
ปลายทวนของเซียวหยู่เซวียนก็ยกขึ้น ตวัดโซ่ที่ปกคลุมเขาหมุนอยู่กลางอากาศก่อนจะฟาดมือสังหารชุดดำนับสิบปลิวออกไป
ท่ามกลางพิรุณเลือดสายลมคาว เซียวหยู่เซวียนใช้ทวนเงินทะลวงหมื่นศัตรูอย่างองอาจ กระหน่ำฟาดฟัน ครั้นเสือกทวนไปชายชุดดำเป็นต้องล้มลงทุกครา
โลหิตแดงฉานไหลไปถึงปลายทวนของเขา รังสรรค์เป็นภาพความสมเพชเวทนาภาพหนึ่ง
ภายใต้การเข่นฆ่าอย่างบ้าคลั่งของเขา คนเหล่านี้เหมือนข้าวสาลีที่ถูกเกี่ยวโดยปราศจากกำลังต่อต้านอย่างไม่ต้องสงสัย
“ตุบ…”
อาวุธทั้งสองของเลว่อิ่งต้านทวนเงินหนักหมื่นชั่งไม่อยู่ ทรุดเข่าลงข้างหนึ่ง
ทวนเงินที่เสริมแรงอย่างต่อเนื่อง กดทับพื้นใต้ฝ่าเท้าของเลว่อิ่งจนแตกออกเป็นร่อง
ไหล่ของเขาก็บาดเจ็บเพราะทวนเงินด้วย โลหิตสีแดงทะลักหลั่งออกมา
เซียวหยู่เซวียนเข่นฆ่าจนคลุ้มคลั่ง เส้นผมปล่อยสยาย ในดวงตาเจือแสงเย็นกระหายเลือด
กู้ชูหน่วนไม่สงสัยเลยสักนิด ขอเพียงเซียวหยู่เซวียนออกแรงอีกหน่อย เลว่อิ่งต้องตายแน่
จากที่วรยุทธ์เลว่อิ่งไม่ด้อยไปกว่าเซียวหยู่เซวียน แต่ด้วยบาดแผลเดิมที่ยังไม่หายดี จึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
เมื่อเห็นเลว่อิ่งจวนจะถูกเซียวหยู่เซวียนสังหาร กู้ชูหน่วนก็ใช้ดาบอ่อนที่แฝงกำลังภายในของนางวาดแนวขวางออกไป กระแทกทวนเงินของเซียวหยู่เซวียน สกัดกระบวนท่าพิฆาตสุดท้ายของเขา
ร่างสีแดงเพลิงแวบเข้ามาบังอยู่ตรงหน้าเลว่อิ่งในฉับพลัน
“ซ่า…”
ฝนตกกระหน่ำ ร่วงพรูลงมาราวกับไข่มุกสายขาด แต่มิได้ทำให้จิตอันแจ่มชัดของพวกเขาเลือนราง
ครั้นสายฟ้าผ่าเปรี้ยงก็สาดส่องดวงตากังวลคู่นั้นของกู้ชูหน่วน
และสาดส่องสายตาเคียดแค้นไร้กำลังและโศกเศร้าของเซียวหยู่เซวียนด้วย
กู้ชูหน่วนเอ่ยเสียงสั่น “เสี่ยวเซวียนเซวียน…”
นางอยากปลอบเขา อยากเช็ดคราบเลือดบนใบหน้าเขา
แต่นางไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้ และไม่กล้าแตะตัวเขาด้วย
เซียวหยู่เซวียนในเวลานี้ราวกับตุ๊กตากระเบื้องที่เจียนจะพังทลาย หากแตะถูกก็จะพลังทลายในทันที
ครั้นเห็นกู้ชูหน่วน จิตสังหารของเซียวหยู่เซวียนก็ลดลงประมาณหนึ่ง ทว่าใบหน้ายังคงเคียดแค้นและโศกเศร้า
เขาเอ่ยเสียงเย็น “เจ้าหลีกไป”
กู้ชูหน่วนกวาดตามองเลว่อิ่งที่ล้มอยู่กับพื้น บาดแผลเต็มตัว ลมหายใจรวยริน ไม่มีกำลังต่อสู้อีก
นางพยายามทำเสียงให้นุ่มนวลอีกหน่อย “เสี่ยวเซวียนเซวียน นี่ต้องมีอะไรเข้าใจผิดแน่ เจ้าวางทวนเงินลงก่อน ข้าจะรักษาแผลให้เจ้า”
เซียวหยู่เซวียนสั่นเทิ้ม รูม่านตาพลันเบิกกว้าง
เขามองกู้ชูหน่วนด้วยสายตาที่แทบจะเป็นความเหลือเชื่อและผิดหวัง
“ข้าเห็นมันพาคนมาฆ่าพวกเราทั้งครอบครัว ฆ่าพี่ใหญ่ พี่รอง ฆ่าพี่หวั่นเอ๋อร์กับพี่เขยข้า แล้วยังมีผู้บริสุทธิ์ในจวนอีกสามร้อยสิบแปดชีวิต แต่ตอนนี้เจ้ากลับบอกข้าว่านี่เป็นความเข้าใจผิด…กู้ชูหน่วน เจ้าเอาตาไปไว้ที่ไหน? เจ้าไม่เห็นว่าจวนแม่ทัพข้ามีแต่ศพหรือ?”
กู้ชูหน่วนถูกไต่ถามจนไร้กำลังจะตอบโต้
เมื่อนั้นก็ปรากฏภาพนองเลือดที่เห็นตรงสระโลหิตออกมาสู่สายตานาง
นั่นเป็นคืนที่ฝนตก ท่ามกลางเสียงสายฟ้าผ่า นางแตกหักกับเซียวหยู่เซวียน สะบั้นความสัมพันธ์ จากนี้คือศัตรูมิใช่สหาย…
หรือว่า…
ภาพนี้จะเกิดขึ้นจริง?
กู้ชูหน่วนหน้าซีดขาวพลัน
ภาพที่สระโลหิตกลายเป็นจริงทีละเรื่อง
ที่นางหวั่นใจที่สุดก็คือการแตกหักกับเซียวหยู่เซวียน เดินสู่เส้นทางแปลกหน้านับแต่นี้ ดังนั้นจะตายจึงเร่งมาที่จวนแม่ทัพ อธิบายสาเหตุการตายที่แท้จริงของแม่ทัพใหญ่กับเซียวหยู่เซวียนก่อน
คิดไม่ถึง…
ครั้นเห็นกู้ชูหน่วนนิ่งเงียบ เซียวหยู่เซวียนก็ขวางทวนยาว ไม่คิดไว้ชีวิตเลว่อิ่ง
หางตาเขาเป็นประกาย แยกไม่ออกว่าเป็นหยาดน้ำฝนหรือหยดน้ำตา
“ถ้าเจ้ายังเห็นข้าเป็นเพื่อน ก็หลีกไปเสียเดี๋ยวนี้ เรื่องในคืนนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า”