อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 826 รับเลว่อิ่งเป็นพวก
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 826 รับเลว่อิ่งเป็นพวก
สองเข่าเลว่อิ่งทรุดลงกับพื้น โขกศีรษะแรงสามครั้งตรงหน้ากู้ชูหน่วน
“แม่นางกู้ ข้าผิดไปแล้วที่ฆ่าล้างตระกูลเซียวสามร้อยกว่าชีวิต โปรดให้เวลาข้าสักหน่อยเถิด เอาไว้ให้ข้าฆ่าตาเฒ่าโฉดชั่วซือคงแล้ว ข้าจะถือศีรษะตัวเอง ให้ท่านนำไปมอบให้เซียวหยู่เซวียน หวังว่าจะพอสลายความโกรธของเขาและ…พอคลี่คลายความสัมพันธ์พวกท่านได้บ้าง”
ยากนักที่เลว่อิ่งจะกล่าววาจาหนักเช่นนี้ได้
หนนี้เขาไม่ได้ติดอ่าง แต่กล่าวออกมาอย่างราบรื่น
กู้ชูหน่วนหัวเราะเย็นเสียงหนึ่ง “ที่เจ้าติดค้างไม่ได้มีแค่สามร้อยกว่าชีวิตของตระกูลเซียว หลายปีมานี้คนที่เจ้าฆ่าคนนับไม่ถ้วน ถึงเจ้าจะมีพันหมื่นชีวิตก็ไม่อาจชดใช้”
ดวงตาเลว่อิ่งดับวูบ
เมื่อก่อนเขารู้เพียงทำตามคำสั่ง เห็นการสังหารคนเป็นแค่ภารกิจหนึ่ง ไม่เคยคิดมากกว่านั้น
ครั้นนึกย้อนถึงเรื่องราวเหล่านั้นแล้วก็พลันเสียใจ เขาเสียใจที่ไม่ควรทำเช่นนั้น
สองมือของเขาเปื้อนโลหิตนับไม่ถ้วน เป็นเรื่องที่เขาไม่สามารถชดเชยได้ตลอดชีวิต
ไม่ทราบเพราะเลว่อิ่งตำหนิตัวเองมากเกินไปหรืออย่างไร กู้ชูหน่วนกลัวว่าเขาจะคิดไม่ตกแล้วจบชีวิตตัวเอง
ดังนั้นจึงกล่าวอย่างเย็นชา “ถ้าเจ้าสำนึกผิดจริง ก็ชดใช้ด้วยชีวิตที่เหลือ ทำความดีให้มากเถอะ”
“ข้าทราบแล้ว…”
แต่เมื่อกู้ชูหน่วนก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าอย่างไร้กำลัง
เลว่อิ่งก็โขกศีรษะแรงอีกสามครั้งก่อนจะเปล่งเสียง
“หากท่านไม่รังเกียจ ต่อไปข้าจะขอติดตามเป็นมือเป็นเท้าท่าน จะไม่คิดคดทรยศตลอดชีวิต ข้าจะฟังคำสั่งของท่านเพียงผู้เดียว”
กู้ชูหน่วนไม่ได้ตอบเขา เพียงแต่ย่างเท้าต่อไปข้างหน้า
มีเพียงฝนที่ตกหนักตอบรับเขาเท่านั้น
ฝูกวงถอนหายใจก่อนจะตามกู้ชูหน่วน
ในที่ไกลๆ
เย่จิ่งหานพิงกับกิ่งไม้อย่างอ่อนแรง ปล่อยให้หยาดฝนตกใส่กายเขา
“ท่านอ๋อง…ฝนตกหนักมาก ข้าน้อยจะส่งท่านกลับไปก่อนเถิด” ชิงเฟิงเอ่ยขึ้น
เย่จิ่งหานมองฝนที่ตกหนักอยู่กลางอากาศ เอ่ยเสียงแข็งเย็น “โยกย้ายกำลังคนทั้งหมด เตรียมบุกเผ่าเทียนเฟิ่นตลอดเวลา”
ชิงเฟิงตกใจ
“บุกเผ่าเทียนเฟิ่น? แต่เผ่าเทียนเฟิ่นมียอดฝีมือระดับหกมากขนาดนั้น เกรงว่าคนของพวกเรา…”
“ในเมื่อนางอยากสู้ตายกับเผ่าเทียนเฟิ่น ข้าก็จะเป็นแนวหน้าให้นาง ขจัดอุปสรรคส่วนหนึ่งให้นางก่อน”
“ท่านอ๋อง แบบนี้คนของพวกเขาจะเพลี่ยงพล้ำมากนะขอรับ”
“เผ่าเทียนเฟิ่นเสียยอดฝีมือรับหกขั้นสูงหลายคนติดต่อกัน กำลังของพวกเขาลดลงมาก กำลังใจคนก็ด้วย ตอนนี้เป็นช่วงเวลาโจมตีที่ดีที่สุด อีกอย่าง…อย่างไรบางเรื่องก็ควรสะสางแล้ว”
แม้นางไม่สะสาง
แต่เขาก็จะสะสาง
ชิงเฟิงพลันยืนตัวตรง ตอบรับเสียงหนัก “ขอรับ ข้าน้อยจะไปเตรียมเดี๋ยวนี้”
ท่านอ๋องเตรียมการมาหลายปีขนาดนี้ ในที่สุดก็จะเปิดศึกกับเผ่าเทียนเฟิ่นแล้ว
หากมหาสงครามนี้เริ่มขึ้นมา ต้องสะเทือนฟ้าสะท้านแผ่นดินอย่างแน่นอน
จะแพ้หรือชนะก็ยากจะเอ่ย
ชิงเฟิงไม่มีความมั่นใจ ได้แต่พยายามเตรียมการทั้งหมดให้ดี
ในเรือนพักร้อนแห่งหนึ่ง
กู้ชูหน่วนขังตัวเองอยู่ในตำหนักนอนสามวันสามคืนเต็มๆ
สามวันนี้นอกจากจะก้มหน้าก้มตาเขียน เรียกคนระดับสูงของเผ่าหยกและสำนักอสุราเข้าพบคนแล้วคนเล่าแล้วก็ไม่ได้ออกไปไหน
มิมีผู้ใดล่วงรู้ว่านางทำอะไรอยู่ในนั้น
และไม่มีผู้ใดทราบว่าทำไมนางถึงเรียกคนระดับสูงเข้าพบมากมายขนาดนั้น
รู้แต่เพียงเมื่อผู้ดูแลระดับสูงออกมา แต่ละคนล้วนมีสีหน้าเคร่งเครียด
บรรยากาศในเรือนพักร้อนแปลกประหลาด
ทุกคนต่างทราบว่ามหาสงครามระหว่างเผ่าหยกละเผ่าเทียนเฟิ่นกำลังมาถึง
บางทีศึกนี้อาจยุติความขัดแย้งระหว่างทั้งสองเผ่าที่มีมายาวนานกว่าร้อยปีพันปี
หลังจากวางแผนทุกอย่างพร้อมสรรพ
กู้ชูหน่วนก็ปิดพับสมุด ขยี้ตาอย่างเหนื่อยล้า
เสี่ยวลู่นวดไหล่ให้นางอยู่ข้างๆ ด้วยความเอาใจใส่
“นายหญิง เรื่องบุกเผ่าเทียนเฟิ่นช้าอีกหน่อยก็ได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องรีบร้อนขนาดนั้นเลย”
“เซียวหยู่เซวียนล่ะ?” กู้ชูหน่วนย้อนถามโดยไม่หันหน้า
สีหน้าเสี่ยวลู่แย่ลงเล็กน้อย “คุณชายเซียว…เขานำพลสองแสนนายตั้งตนเป็นผู้นำ ตอนนี้วางกำลังอยู่ที่ภูเขาเทียนฟั่น”