อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 84 แม้แต่ไทเฮาก็กล้าขัดขืน
หยกชำรุดชิ้นหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะเปิดราคามากมายขนาดนี้
สมองของกู้ชูหน่วนถูกลาถีบแล้วหรือ? ยังไม่รีบตอบรับอีก ยังแบมือนับนิ้วอะไรอยู่ตรงนั้นอีก?
ขณะที่ไทเฮาพูดออกมาว่าเงินสี่สิบล้านตำลึง ใจก็สั่นแล้ว
เงินสี่สิบล้านตำลึง จะต้องล้วงบ้านของนางจะก้นทะลุแล้ว
เวลาที่ทุกคนเกือบจะคิดว่ากู้ชูหน่วนจะแลกเปลี่ยนกับไทเฮา กู้ชูหน่วนพูดออกมาประโยคหนึ่งอย่างเอื่อยเฉื่อยทำให้คนอยากทุบตีนาง
“เงินสี่สิบล้านตำลึง ข้ายังไม่ค่อยอยากแลก หากว่าห้าสิบล้านตำลึง บางทีข้าอาจจะแลก”
แม่งเอ๊ย
เห็นได้ชัดว่ากู้ชูหน่วนถือโอกาสปล้นตอนยังร้อน
เงินห้าสิบล้านตำลึง ทำไมนางไม่ไปปล้น?
แม้ว่าจะไปปล้น ก็ปล้นไม่ถึงห้าสิบล้านตำลึงหรอกนะ
ไทเฮาแทบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว
แต่ซ่างกวนฉู่กลับยิ้มแล้ว ดวงตาที่อ่อนโยนคู่นั้นสะท้อนดวงตาที่สว่างแพรวพราวดั่งดวงดาวของกู้ชูหน่วน เหมือนกับเขาคาดเดาได้แล้วว่ากู้ชูหน่วนยังจะหลอกไทเฮาต่อไป ตั้งใจดูละครอยู่เงียบ
“กู้ชูหน่วน เจ้าอย่าเกินไปนัก” องค์หญิงตังตังกัดฟันกรอด แทบอยากจะฉีกนางให้เละ
กู้ชูหน่วนสีหน้าไร้เดียงสา “ข้าเกินไปอย่างไรหรือเพคะ? เป็นพวกท่านเองที่ต้องการแลกเปลี่ยนหยกเสี้ยวจันทร์กับข้า ไม่ได้เป็นข้าที่ตามตื๊อจะแลกเปลี่ยนกับพวกท่านสักหน่อย หากพวกท่านไม่ต้องการแลก เช่นนั้นก็แล้วไปเถอะเพคะ ข้าก็ไม่อยากแลกพอดี”
“เงินห้าสิบล้านตำลึง” ไทเฮาเสียงสั่น ไม่รู้ว่าเพราะปวดใจ หรือว่าโกรธ
ทุกคนไม่มีอะไรจะพูดแล้ว
กู้ชูหน่วนมีความสามารถมากมาย คิดไม่ถึงว่าจะสามารถบังคับให้ไทเฮาซื้อหยกชำรุดชิ้นหนึ่งกับนางด้วยเงินห้าสิบล้านตำลึงได้
อาจารย์ใหญ่มองดูกู้ชูหน่วนด้วยความสนใจ ยืนอยู่ด้านข้างเงียบๆ ไม่ได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใด
อาจารย์สวีกับอาจารย์หรงและคนอื่นๆก็อึ้งตาค้างแล้ว
เซียวหยู่เซวียนความคิดสับสนจนไม่อาจจัดการได้
ยังมีการต่อรองราคาเช่นนี้ด้วยหรือ?
ฝีมือความสามารถหลายปีมานี้ของเขา ความจริงแล้วเทียบกับยัยขี้เหร่ไม่ได้แม้สักนิ้วมือเดียว
“เงินห้าสิบล้านตำลึง รู้จักพอเถอะ” ซ่างกวนฉู่ยิ้มและกล่าวขึ้นอย่างกะทันหัน
กู้ชูหน่วนกลอกตาขาวใส่ซ่างกวนฉู่แวบหนึ่ง
เจ้านี่ พูดซะเหมือนกับว่านางชั่วร้ายมากเช่นนั้น
ไทเฮาระงับความโกรธ พยายามรักษารอยยิ้มบนใบหน้าไว้ “คุณหนูสามกู้ เงินห้าสิบล้านตำลึงแลกหยกชิ้นหนึ่งกับเจ้า ไม่รู้ว่าเจ้าจะยอมแลกหรือไม่?”
ทุกคนล้วนคิดว่า กู้ชูหน่วนจะไม่ปฏิเสธอีก ต่างพากันอิจฉากู้ชูหน่วนที่ได้รับลาภลอยจำนวนหนึ่ง
แม้แต่ไทเฮาก็คิดเช่นกัน กู้ชูหน่วนจะต้องตอบรับแน่
แต่กู้ชูหน่วนกลับชี้ไปด้านนอกประตู “เทพหมากกระดานกลับมาแล้ว”
“หมอ รีบหน่อยรีบหน่อย อาจารย์ของข้าปวดหัวน่ะขอรับ”
ด้านนอก เทพหมากกระดานทั้งลากทั้งฉุดกระชาก ฉุดดึงหมอสองสามท่านเข้ามา
เพิ่งจะเข้ามา เทพหมากกระดานก็ถูกกู้ชูหน่วนลากเข้าไปแล้ว
“ศิษย์น้อย อาจารย์ไม่ปวดหัวแล้ว เจ้ากตัญญูมาก อันนั้นฮ่าๆๆ พวกท่านไปได้แล้ว”
เทพหมากกระดานตะลึง “ไม่ปวดแล้ว? อาจารย์ ศิษย์คิดว่า เพื่อเห็นแก่ความปลอดภัย ยังไงท่านก็ควรจะตรวจดูหน่อย”
ทำไมทุกคนฟังแล้วรู้สึกประหลาด
คนที่มีคุณธรรมบารมีสูงเป็นที่นับหน้าถือตาผู้หนึ่ง คนชราที่อายุมากกว่าหกสิบปี เรียกเด็กผู้หญิงอายุสิบสามปีว่าอาจารย์ ชั่งขัดหูเกินไป
กู้ชูหน่วนไล่หมอสองสามคนออกไปโดยตรง จากนั้นชี้ไปที่เซียวหยู่เซวียน “ตาเฒ่าหมากกระดาน เจ้าอยากเรียกหมากรุกใช่หรือไม่?”
ดวงตาของเทพหมากกระดานเปล่งประกายขึ้นอย่างฉับพลัน “อยากสิ”
“เช่นนั้นท่านเชื่อหรือไม่ เซียวหยู่เซวียนคนเดียวก็สามารถสู้ท่านได้ในวินาทีเดียว?”
“สู้ได้ในวินาทีเดียว?”
“ก็คือชนะ”
เทพหมากกระดานส่ายศีรษะ ในตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
เซียวหยู่เซวียนโมโหแล้ว “ผู้เฒ่า ท่านดูถูกคนหรือ?”
กู้ชูหน่วนมองไปทางไทเฮา ยิ้มแล้วกล่าว “ไทเฮาเพคะ พระองค์เชื่อว่าทั้งสองคนแข่งหมากรุกกัน เซียวหยู่เซวียนจะสามารถชนะเทพหมากกระดานได้ในเวลาหนึ่งก้านธูปหรือไม่เพคะ?”
“เทพหมากกระดานชื่อเสียงโด่งดังทั่วหล้า ทักษะการแข่งหมากรุกมีจุดที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา คุณชายเซียวอายุยังน้อย เกรงว่ายากที่จะชนะ”
ไทเฮาไม่เข้าใจคำพูดเหล่านี้ของกู้ชูหน่วนว่าเกี่ยวอะไรกันกับหยกเสี้ยวจันทร์