อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 915 เสี่ยวเซวียนเซวียน
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 915 เสี่ยวเซวียนเซวียน
กู้ชูหน่วนยิ่งหวนคิด ความเจ็บปวดในหัวสมองยิ่งอยู่ก็ยิ่งรุนแรง สุดท้ายนางเจ็บปวดจนเหงื่อแตก จึงจำเป็นต้องสะบัดหัว ไม่ไปหวนคิดอีก
นางเดินสามก้าวเป็นสองเก้า ขวางทางชายหนุ่มคนนั้นไว้ พร้อมโบกมือทักทายเขาว่า “คุณชาย ข้าทำนายดูแล้ว วันนี้ท่านโชคดี เหมาะแก่การคบเพื่อน”
พัดเซวียนกู่ในมือเซียวหยู่เซวียนหยุดชะงัก หรี่ตาลงมองพิจารณาดูผู้หญิงตรงหน้าคนนี้
นางสวมชุดสีขาวขนห่าน คาดเข็มขัดหยกขาวโชว์หุ่นสวยเป๊ะปัง
นางอายุเพียงประมาณสิบแปด ผิวขาวใสเนียนละเอียด ฟันขาว ดวงตาสดใส เวลายิ้มเผยให้เห็นลักยิ้มเล็กๆคู่หนึ่ง
สิ่งที่ดึงดูดเขาก็คือ รูปร่างหน้าตาผู้หญิงคนนี้สู้กู้ชูหน่วนไม่ได้ แต่ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม ค่อนข้างคล้ายกับนาง
“เจ้าคือ….”
“ข้าทำนายดูแล้ว ข้าเป็นคนพิเศษในชีวิตของเจ้า หากเจ้าคบข้าเป็นเพื่อน อนาคตสดใส ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี”
ผ่านไปสามปี ตระกูลเซียวถูกฆ่าล้างตระกูล ท่าทีเซียวหยู่เซวียนสุขุมกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้ยังมีร่องรอยความผันผวนบนใบหน้า
เขาสะบัดพัดไปด้วย พูดไปด้วยว่า “แม่นางอยากได้อะไร พูดมาตรงๆ”
“ดี เจ้ารู้จักข้าไหม?” กู้ชูหน่วนขยับเข้าไปใกล้ ยื่นใบหน้าที่สวยงามของตนไปตรงหน้าของเขา
เซียวหยู่เซวียนถอยหลังไปหลายก้าว ขมวดคิ้วพร้อมส่ายหัว
“เจ้ามั่นใจว่าไม่รู้จักข้า?”
“ทำไมแม่นางถึงคิดว่าข้าจะรู้จักเจ้า?”
หากเป็นผู้หญิงคนอื่น เขาไม่อยากที่จะเสียเวลาคุยด้วยซ้ำ แต่แววตาคู่นี้ เหมือนกู้ชูหน่วนมาก เซียวหยู่เซวียนเดินจากไปราวจับพลัดจับผลูกระทำลงไปโดยไม่รู้ตัว เหมือนถูกผีอำ
“เมื่อก่อนไม่รู้จัก ตอนนี้รู้จักกันก็ยังไม่สาย ข้าชื่อมู่หน่วน เจ้าล่ะ เจ้าชื่ออะไร”
มู่หน่วน?
ชื่อมีคำว่าหน่วนด้วย?
เพราะชื่อของนางก็มีคำว่าหน่วน เซียวหยู่เซวียนอมยิ้ม พร้อมตอบว่า “เซียวหยู่เซวียน”
“เซียวหยู่เซวียน? งั้นต่อไปข้าเรียกเสี่ยวเซวียนเซวียนนะ”
ร่างกายเซียวหยู่เซวียนสั่นสะท้าน พัดเซวียนกู่ในมือนิ่งงัน
“เมื่อกี้เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?”
“เสี่ยวเซวียนเซวียนไง ไพเราะน่าฟัง”
กู้ชูหน่วนยิ้มแย้ม เอื้อมไปแตะไหล่ของเขา พร้อมพูดขึ้นมาอย่างสนิทสนมว่า “เสี่ยวเซวียนเซวียน ข้าว่าเจ้าไม่เหมือนคนเมืองหลวง เจ้ามาสมัครเรียนในวิทยาลัยอี้เหอหรือ?”
เซียวหยู่เซวียนผลักนางออก เว้นระยะห่าง น้ำเสียงเยือกเย็นลง พร้อมพูดขึ้นอย่างเป็นการเตือนว่า “ห้ามเรียกข้าว่าเสี่ยวเซวียนเซวียน”
“ผู้ชายตัวโตคนหนึ่ง ขี้ใจน้อยขนาดนั้นทำไม? หรือคนรักเก่าของเจ้าก็เรียกเช่นนี้?”
ในตัวเซียวหยู่เซวียนแล่นผ่านความอาฆาต อุณหภูมิในอากาศก็ลดลงไปด้วย
กู้ชูหน่วนแกล้งทำเป็นตกใจ รีบถอยกลับไปยังร้านช่างตีเหล็ก
“ถุ๊ยๆ รูปก็งามหน้าตาก็ดี อารมณ์ไม่น่ารักเลย แต่ใครใช้ให้เรากลายเป็นเพื่อนกัน วางใจ ต่อไปพี่สาวดูแลปกป้องเจ้า”
เซียวหยู่เซวียนเงียบ ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าต่อ ไม่สนใจผู้หญิงบ้าคนนั้น
เขายอมเสียสละทุกอย่าง เพื่อมาถึงที่นี่
ไม่ว่ายังไงเขาก็จะต้องหาน้ำค้างแห่งสวรรค์ให้เจอ
สามปีแล้ว…..
สามปีมานี้ นางไม่สามารถฟื้นคืนชีพมาตลอด
ว่ากันว่าดวงจิตไม่บริบูรณ์ ดวงจิตที่วิ่งหนีไปตามหายังไงก็หาไม่เจอ
ดวงจิตที่เหลือ เพราะอยู่ในไหกักวิญญาณเป็นเวลานาน ตอนนี้พลังของดวงจิตก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ จำเป็นต้องมีน้ำค้างแห่งสวรรค์หล่อเลี้ยงถึงค่อยสามารถฟื้นตัว กระทั่งเกิดใหม่
เขาเกลียดนาง
แต่ไม่รู้ว่าทำไม เขาก็ยังอยากตามหาน้ำค้างแห่งสวรรค์ เพื่อฟื้นคืนชีพให้กับนาง
ตอนที่จากไป เซียวหยู่เซวียนเหลือบเห็นอาวุธลับที่ช่างตีเหล็กกำลังตีอยู่
ฝีเท้าของเขาหยุดราวกับเต็มไปด้วยตะกั่ว ยังไงก็ก้าวขยับไม่ได้
อาวุธลับนี้…..
ทำไมถึงได้เหมือนอาวุธลับเฉพาะตระกูลของนาง?