อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 924 ปล้นเย่จิ่งหาน
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 924 ปล้นเย่จิ่งหาน
“ข้า ข้าไม่ได้สร้างความเดือดร้อนอะไรนี่ ข้าก็แค่เก็บยาสมุนไพรที่ไม่มีเจ้าของเท่านั้นเอง”
“แต่ข้ามีธุระด่วน จะต้องรีบเข้าไปในส่วนที่ลึกสุดของภูเขาเจียงเจ๋อเดี๋ยวนี้”
“งั้นเจ้าก็เข้าไปสิ”
“เจ้าเด็กโง่ เจ้าไม่รู้จริงๆหรือว่าข้าหมายถึงอะไร”
“เอาล่ะ เอาล่ะ ข้าเข้าไปกับเจ้าก็ได้ เจ้าเสือน้อย เจ้าอยู่ข้างนอกคอยเก็บยาสมุนไพรต่อไป เดี๋ยวข้าออกมาหาเจ้า”
“โฮ่งๆ…..”
เจ้าเสือน้อยพยักหัว แล้วก็ตั้งใจเก็บยาสมุนไพรต่อ
กู้ชูหน่วนกับเซียวหยู่เซวียนเดินต่อไปข้างหน้า
ยิ่งเข้าไปความจำกัดก็ยิ่งรุนแรง แม้แต่หายใจยังลำบาก
ที่นี่หมอกหนามาก สามารถมองเห็นเพียงระยะร้อยเมตร
“ตูม….”
สัตว์มากมายวิ่งออกมา
ล้วนเป็นสัตว์อสูร แต่ละตัวล้วนตื่นตกใจ วิ่งอย่างรวดเร็วมาก
เซียวหยู่เซวียนคว้าจับมือกู้ชูหน่วนไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “กระแสภัยพิบัติของสัตว์ เจ้าจับมือข้าไว้แน่นๆ อย่างถูกพัดพรากไป”
สัตว์อสูรมีกว่าพันตัว เล็กๆใหญ่ๆ มีสัตว์อสูรทุกอย่าง
รวมทั้งสัตว์อสูรที่มีพลังสูงด้วย
พวกเรามากันอย่างมากมาย ถึงกู้ชูหน่วนกับเซียวหยู่เซวียนจะจับมือกันไว้แน่น ก็ไม่สามารถหาที่หลบได้ จนถูกพัดเข้าไปอยู่ท่ามกลางกระแสสัตว์
อยู่ในนี้ วิทยายุทธของพวกเขาล้วนถูกควบคุมแล้ว เซียวหยู่เซวียนไม่สามารถที่จะใช้วิทยายุทธ
ด้วยความเร่งรีบ เขาจำต้องใช้พลังทั้งหมดที่มีโยนกู้ชูหน่วนออกไป ไกลห่างจากกระแสสัตว์
ส่วนเขาถูกกระแสสัตว์พัดพาออกไปไกล
ข้างหูยังสามารถได้ยินเสียงกู้ชูหน่วนตะโกนร้องพูดว่า “เสี่ยวเซวียนเซวียน เสี่ยวเซวียนเซวียน…..เจ้าอยู่ที่ไหน”
ในใจเซียวหยู่เซวียนค่อยรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
ผู้หญิงบ้าคนนี้ นับว่านางยังมีน้ำใจ
เซียวหยู่เซวียนตะโกนพูดขึ้นว่า “วางใจ สัตว์อสูรพวกนี้ล้วนอยู่ในอาการตกใจ คิดแต่เพียงวิ่งหนี ไม่ทำร้ายคน เจ้ารีบออกไปจากภูเขาเจียงเจ๋อ”
ร่างกายของเขาถูกสัตว์อสูรดันถอยหลังไป เซียวหยู่เซวียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อาศัยช้างตัวหนึ่ง หมุนเท้ากระโดดขึ้น เตะสัตว์อสูรด้านข้างปลิวลอยไป แล้วกระโดดลอยขึ้นไปถึงบนหัวสัตว์อสูร ออกมาจากกระแสสัตว์อย่างรวดเร็วที่สุด
“ปัง….”
เขาหกล้มลง กลับก็ยังสามารถหลุดออกมาจากกระแสสัตว์ได้
เดิมคิดอยากอ้อมกลับไป สายตาเซียวหยู่เซวียนกลับหันไปเห็นดอกไป่หลิงที่อยู่ไม่ไกล
ดอกไป่หลิงขาวผ่องราวกับหิมะ แม้แต่ใบก็ขาวราวหิมะ
ดอกแบบนี้เป็นเหมือนอย่างดอกมัญชูษา เป็นดอกแห่งความตาย
น้ำดอกไป่หลิงสามารถหล่อเลี้ยงดวงจิตได้
ประสิทธิผลสู้น้ำค้างแห่งสวรรค์ไม่ได้ แต่ก็สามารถหล่อเลี้ยงดวงจิตได้สามเดือน
เซียวหยู่เซวียนดีอกดีใจ ตื่นเต้นไปทั้งตัว
ระหว่างดอกไป่หลิงกับมู่หน่วน เขาเลือกที่จะไปเก็บดอกไป่หลิง เพื่อหล่อเลี้ยงดวงจิตของกู้ชูหน่วน
อีกด้าน
กู้ชูหน่วนตามหาเซียวหยู่เซวียนไม่เจอ แต่กลับไปเจอชายหนุ่มขาพิการ สวมหน้ากากผีคนหนึ่งโดยบังเอิญ
ชายหนุ่มดูเหมือนจะบาดเจ็บสาหัส ล้อเข็นก็พังแล้ว ล้มกองอยู่บนพื้นขยับก็ไม่ได้ ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยเลือด
ด้านข้างเขา ยังมีชายหนุ่มสองคนที่ได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน
กู้ชูหน่วนจำได้
ผู้ชายคนนี้เป็นพวกเดียวกับตระกูลไป๋หลี่
วันนั้นนางกับชาวบ้านหมู่บ้านหลินถูกพาไปล่อสัตว์อสูรบนเขา ผู้ชายคนนี้ก็อยู่ด้วย
องครักษ์สองคนนั้น น่าจะเป็นลูกน้องของเขา
กู้ชูหน่วนเดินเข้าไปหา มองดูเพียงแวบเดียว ก็พูดขึ้นว่า “โย้ ถูกพิษ? ยังเป็นราชาพิษกลิ่นจุ้ยหยิน เจ้าไปแย่งสิ่งล้ำค่าอะไรหรือ ถึงได้ถูกพิษหายากแบบนี้”
เย่จิ่งหานก็จำได้
ผู้หญิงคนนี้ เป็นผู้หญิงคนที่โยนไข่หมาป่าหิมะในวันนั้น ทำให้ตระกูลไป๋หลี่อีนุงตุงนังไปหมด
แล้วก็เห็นกู้ชูหน่วนเอื้อมมือมา ค้นบนตัวของเขาอย่างไม่เกรงใจ
เย่จิ่งหานพูดขึ้นอย่างโกรธโมโหว่า “เจ้าทำอะไร?”
“ยังจะทำอะไรได้ ปล้นไง”
“บังอาจ เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร”