อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 954 ตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 954 ตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
ผู้เฒ่าหนิงรู้ว่าพวกเขาก็อยากได้แหวนมิติเช่นกัน
ปกติของการประมูล ผู้เสนอราคาสูงสุดจะเป็นผู้ได้รับ ก็ไม่ได้มีอะไร เพียงแต่ตั้งแต่โบราณมา ก็ไม่มีผู้ใดที่จะเพิ่มราคามากมายขนาดนี้ในคราวเดียวนี่นา
หรือเป็นไปได้ว่า……
ตระกูลขุนนางเก่าร่ำรวยเหล่านั้นรู้ว่าสภาพของตระกูลหนิงของพวกเขาเริ่มเสื่อมถอย จึงจงใจคิดจะเย้ยหยันพวกเขา?
คนต้องการหน้าตาต้นไม้ต้องการเปลือก
เพื่อความโมโหนี้ เขาจะต้องประมูลแหวนมิติให้ได้
มุมปากของผู้เฒ่าหนิงเปิดออกทันที ขณะที่กำลังคิดจะตะโกนว่าสามล้านหนึ่งหมื่นตำลึง ตระกูลซ่างกวนก็กล่าวว่า “สามล้านห้าแสนตำลึง”
ไป๋หลี่หยุนเยว่ “สามล้านแปดแสนตำลึง”
ไป๋หลี่เจิ้นกล่าว “สี่ล้านตำลึง”
ห้องส่วนตัวของราชวงศ์ก็ส่งเสียงอันน่าฟังดั่งกระพรวนเงินออกมาเสียงหนึ่ง “ห้าล้านตำลึง”
เย่จิ่งหาน “หกล้านตำลึง”
ซ่างกวนชิงกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ “เจ็ดล้านตำลึง”
ไป๋หลี่เจิ้น “แปดล้านตำลึง”
เย่จิ่งหาน “สิบล้านตำลึง”
สีหน้าของผู้เฒ่าหนิงไม่น่าดูเป็นระยะๆ
ทุกครั้งที่เขาอยากจะพูดออกไป ก็ถูกคนแย่งไปหมด
ครั้งนี้ เขาคิดก็ไม่ได้คิด กัดฟันแล้วกล่าวไปทันที “สิบล้านหนึ่งหมื่นตำลึง”
สิ้นสุดคำพูด
ผู้เฒ่าหนิงก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้ว
เพราะเดิมทีตระกูลหนิงก็เอาเงินสิบล้านหนึ่งหมื่นตำลึงออกมาไม่ได้
แม้ว่าจะขายตระกูลหนิงออกไป กลัวว่าก็คงยากมากที่จะรวบรวมเงินสิบล้านหนึ่งหมื่นตำลึงได้
แต่ตะโกนออกไปแล้ว เขาเป็นถึงหัวหน้าตระกูลของตระกูลหนิงผู้สูงศักดิ์ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะคืนคำ
หนิงเทียนโย่วกลืนน้ำลาย
“ท่านปู่ แค่แหวนวงหนึ่งเท่านั้น ประมูลถึงสิบล้านหนึ่งหมื่นตำลึงจะแพงไปหรือไม่ขอรับ?”
หัวใจของผู้เฒ่าหนิงเต้นเร็วมากขึ้น
เขาก็ไม่รู้เช่นกันว่ามันคุ้มค่าหรือไม่กันแน่
แต่ทว่า……
ความเป็นจริงไม่ได้ให้เวลาเขาไตร่ตรองมากมายเกินไปนัก
ตระกูลซ่างกวนเสนอราคาอีกแล้ว “สิบสองล้านตำลึง”
ไป๋หลี่เจิ้น “สิบสามล้านตำลึง”
ราชวงศ์ “สิบห้าล้านตำลึง”
เย่จิ่งหาน “ยี่สิบล้านตำลึง”
ผู้เฒ่าหนิงอึ้งตาค้างไปแล้ว
เงินของคนเหล่านี้ตกลงมาจากฟากฟ้าหรือยังไง?
แม้ว่าจะตกลงมาจากฟ้า ก็ไม่ได้เก็บง่ายขนาดนั้นหรอกนะ
เขาสงสัยอย่างจริงจังว่า คนเหล่านี้จงใจมาหาเรื่องที่งานประมูลใช่หรือไม่
แต่ผู้สนับสนุนเบื้องหลังงานประมูลคือราชวงศ์
ผู้ใดจะกล้าหาเรื่อง
หนิงเทียนโย่วกล่าว “ห้องส่วนตัวหมายเลขสามคือผู้ใด? คิดไม่ถึงว่าจะเสนอราคาถึงยี่สิบล้านตำลึง ดูเหมือนจะไม่ใช่สี่ตระกูลใหญ่นะขอรับ”
“เป็นขุนนางผู้อาวุโสต่างแคว้นที่ตระกูลไป๋หลี่เชิญมา ได้ยินว่าศักยภาพอยู่ถึงระดับหกแล้ว”
“ที่แท้ก็คือเขา….…ในเมื่อเขาเป็นขุนนางผู้อาวุโสต่างแคว้นของตระกูลไป๋หลี่ ทำไมตระกูลไป๋หลี่ถึงยังได้สู้ราคากับเขาอีก แล้วตระกูลไป๋หลี่ไม่กลัวว่าจะล่วงเกินผู้แข็งแกร่งระดับหกท่านนั้นหรืออย่างไร?”
ผู้เฒ่าหนิงถลกแขนเสื้อ
ชั่วร้ายจริงๆ
แหวนร้ายๆวงหนึ่งเสนอราคาได้สูงเช่นนี้
ยี่สิบล้านตำลึงแน่ะ ยี่สิบล้านตำลึงเต็มๆ เขาเสนอไปได้ยังไง?
จะขายตัวเองเช่นนั้นหรือ?
“ท่านปู่ ราคาเรียกไปถึงยี่สิบล้านแล้ว พวกเรายังจะเสนออีกหรือไม่?”
“เจ้าออกเงินหรือ?” ผู้เฒ่าหนิงกล่าวด้วยความโมโหเป็นอย่างมาก
หนิงเทียนโย่วแบะปาก
เพราะท่านปู่เองที่อยากได้แหวนวงนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการสักหน่อย ตัวเองประมูลไม่ได้ แล้วมาโมโหใส่เขาทำไม
กู้ชูหน่วนก็รู้สึกอึ้งซ้ำแล้วซ้ำอีก
ราคานี้อยู่ไกลเกินจินตนาการของนาง
ความต้องการเอามาให้ได้ของตระกูลซ่างกวน ราชวงศ์ รวมทั้งห้องส่วนตัวหมายเลขสาม ก็เหนือความคาดหมายของนางเช่นกัน
ไม่รู้ว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะทำให้คนตระกูลไป๋หลี่ประมูลมาได้หรือไม่
หากประมูลไม่ได้ เรื่องก็จะยุ่งยากแล้ว
ราชวงศ์เอ่ยขึ้น “สามสิบล้านตำลึง”
เสียงของซ่างกวนชิงสั่นเล็กน้อย “สามสิบห้าล้านตำลึง”
เขาเสนอราคาเพิ่มขึ้นอีกห้าล้านตำลึงในชั่วพริบตา
คิดว่าคงจะไม่มีคนแย่งชิงกับเขาอีกต่อไป
ราคานี้อยู่ที่เพดานแล้ว และเชื่อว่าจะไม่มีใครกล้าเสนอราคาราคาเพิ่มอีก
ไป๋หลี่หยุนเยว่ตะโกนไม่ออก เขาไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น จึงทำได้เพียงยอมรับความพ่ายแพ้โดยอัตโนมัติ
แต่ไป๋หลี่เจิ้นจะยอมที่ไหน เขาตะโกนกล่าว “สามสิบหกล้านตำลึง”
เสียงของห้องส่วนตัวหมายเลขสามเงียบสงบ พูดเบาๆว่า “ห้าสิบล้านตำลึง”
อะ……
อะไร……
ห้าสิบล้านตำลึง……
ห้องส่วนตัวหมายเลขสามเสนอราคาห้าสิบล้านตำลึงจริงหรือ?
เขาคงไม่ได้เสนอผิดหรอกนะ?
นั้นเป็นเงินห้าสิบล้านตำลึงเชียวนะ แม้จะเป็นสี่ตระกูลใหญ่ ก็ต้องเลือดตกครั้งใหญ่
ห้องส่วนหมายเลขสามเป็นใครกันแน่ ขณะที่ตะโกนออกมาว่าห้าสิบตำลึง คิดไม่ถึงว่าอารมณ์จิตใจจะยังนิ่งเฉยอยู่…..ได้ขนาดนี้….
แม้แต่พิธีกรก็ยังตกตะลึงไปแล้ว
เป็นเวลานานกว่าจะดึงสติกลับมาได้ ยิ้มแล้วกล่าว “ห้องส่วนตัวหมายเลขสามเสนอราคาห้าสิบล้านตำลึง ยังมีที่สูงกว่าห้าสิบ ล้านตำลึงอีก…….”
ในห้องส่วนตัวของราชวงศ์มีเสียงผู้หญิงที่ไพเราะดังมา “ทุกท่านกล้าหาญมาก ราชวงศ์ของพวกเราขอถอย จะไม่แย่งชิงแหวนมิติวงนี้กับทุกท่านแล้ว”
ไป๋หลี่เจิ้นและซ่างกวนชิงปาดเหงื่ออันเย็นยะเยือก
ยังดี……
ในที่สุดราชวงศ์ก็ถอยไปแล้ว
แต่ว่า…..
ห้าสิบล้านตำลึง……
นี่…..
หากว่าเพิ่มต่อไป ค่าตอบแทนก็ยิ่งใหญ่เกินไปแล้วล่ะมั้ง
ไป๋หลี่หยุนเยว่กล่าว “ไม่งั้น พวกเราก็แล้วไปเถอะ วันหน้ายังมีโอกาสอีก ดูสิว่าจะทำข้อตกลงความสัมพันธ์กับราชางูเหลือมได้หรือไม่”
นักควบคุมสัตว์เอ่ยขึ้นอย่างฉับพลันว่า “ราชางูเหลือมบอกว่า หากประมูลแหวนมิติวงนี้ไม่ได้ ชาตินี้ชีวิตนี้ก็จะไม่ทำข้อตกลงความสัมพันธ์กับตระกูลไป๋หลี่ไม่ว่าผู้ใดก็ตาม”
ไป๋หลี่เจิ้นสีหน้าซีดขาว จิตใจสั่นไหว
จึงได้กัดฟันจนสั่นแล้วกล่าวทันที “หัวหน้าตระกูลไม่ได้บอกแล้วหรือว่า ไม่ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ก็จะต้องเอาแหวนวงนี้มาให้ได้ ข้า……ข้าเพียงแค่ทำตามคำสั่งของหัวหน้าตระกูลเท่านั้น”
ทำตามคำสั่งหัวหน้าตระกูลเหรอ?
ใครจะเชื่อล่ะ
ยังจะไม่ใช่เพราะอยากทำข้อตกลงสร้างสัมพันธ์ได้เหรอ
นั้นเป็นเงินห้าสิบล้านตำลึงเชียวนะ
ไป๋หลี่หยุนเยว่และคนอื่นๆล้วนไม่รู้ว่า หลายปีมานี้ไป๋หลี่เจิ้นเก็บซ่อนของล้ำค่าได้มากน้อยเท่าไหร่กันแน่ คิดไม่ถึงว่าจะมีสินทรัพย์มากกว่าห้าสิบล้านตำลึงเช่นนี้
หากไม่ได้ยินด้วยหูของตัวเอง พวกเขาก็ไม่กล้าจะเชื่อจริงๆ
ในห้องส่วนตัวตระกูลซ่างกวน
มือที่ถือถ้วยน้ำชาของซ่างกวนชิงสั่นเทาเล็กน้อย
“คุณชายเซียว ท่านดูสิ…….ราคาของแหวนมิติวงนี้เสนอไปถึงห้าสิบล้านตำลึง ห้าสิบล้านตำลึงมากมายเกินไปแล้ว ประมูลมาได้ก็ไม่คุ้ม ไม่เช่นนั้น…….ประเดี๋ยวพวกเราค่อยดูสมบัติอย่างอื่น บางทีก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีของที่ท่านชอบ”
เซียวหยู่เซวียนจ้องไปที่แหวนมิติอย่างไม่ละสายตา ไม่ยอมละสายตาไปแม้สักนิด “ข้าต้องการแหวนมิติเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”
แหวนมิติวงนี้ บางทีอาจจะเป็นของตกทอดเพียงชิ้นเดียวที่นางทิ้งไว้ในโลก
ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จำเป็นต้องเอามาให้ได้
“นี่…….”
“หากว่าผู้อาวุโสซ่างกวนไม่เต็มใจ ข้าน้อยก็ไม่บังคับ ข้าน้อยจะไปหาคนที่เต็มใจประมูลของชิ้นนี้มาให้ข้าด้วยตัวเอง”
“อย่าอย่าอย่า……ประมูล ไม่ว่าตระกูลซ่างกวนของพวกเราจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไร ก็จะประมูลลงมา”
ล้อเล่น
เขาเป็นนักหลอมยาระดับสูงเชียวนะ
วิชาแห่งการหลอมยานั้น ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าสุดยอดผู้อาวุโสในตระกูลอย่างเปรียบไม่ได้
หากว่าเขาวิ่งไปที่ตระกูลอื่น ทวีปปิงหลิงนี้ ยังจะมีที่ให้ตระกูลซ่างกวนของพวกเขาอยู่ได้อีกหรือ?
ซ่างกวนชิงกวักมือไปทางคนรับใช้ “เจ้าไปอธิบายรายละเอียดของสถานการณ์ที่นี่ให้หัวหน้าตระกูลฟัง ให้หัวหน้าตระกูลตระเตรียมเงิน”
“ขอรับ”
ไป๋หลี่เจิ้นกล่าว “ห้าสิบเอ็ดล้านตำลึง”
ซ่างกวนชิงฝืนใจเสนอราคาเพิ่ม “ห้าสิบสองล้านตำลึง”
เย่จิ่งหาน “หกสิบล้าน”
ไป๋หลี่เจิ้น “หกสิบเอ็ดล้าน”
ซ่างกวนชิง “หกสิบสองล้าน”
เย่จิ่งหาน “เจ็ดสิบล้าน”
ฟืด……..
ทั้งสนามล้วนเป็นเสียงสูดหายใจด้วยความตกตะลึง
เจ็ดสิบล้านตำลึง……..
คนในห้องส่วนตัวหมายเลขสามมีเงินมากเกินไปหรือไม่?
ขึ้นราคาอย่างดุเดือดขนาดนี้ทุกครั้ง?
ผู้เฒ่าหนิงกำมือสองข้างไว้แน่น ตื่นเต้นตามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
เขาทอดถอนใจ “หากตระกูลหนิงของพวกเรามีสมบัติที่พอจะสามารถประมูลได้ในราคาที่สูงเช่นนี้ได้ ตระกูลหนิงของพวกเราจะตกต่ำได้ขนาดนี้หรือ? ทุกอย่างล้วนเกิดมาจากการไม่มีเงิน”