อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 955 ข้ายกหลานชายให้เจ้า
กู้ชูหน่วนวางแก้วชาในมือลงแล้วยิ้ม “ผู้เฒ่าคิดอยากจะร่ำรวยอย่างฉับพลันหรือ?”
“ทำไม เจ้ามีวิธีทำให้รวยอย่างฉับพลันได้รึไง?”
หนิงเทียนโย่วกล่าวอย่างเหยียดหยาม “หากว่านางมีวิธีที่สามารถรวยได้อย่างฉับพลัน ตระกูลมู่จะยากจนถึงขั้นนั้นหรือ”
รอยยิ้มของผู้เฒ่าหนิงชะงัก
ใช่สิ ตระกูลมู่ย่ำแย่กว่าตระกูลหนิงของพวกเขามากมายหลายเท่าจนนับไม่ได้ ได้ยินมาว่าตอนนี้ในจวนแม้แต่ทางทำมาหากินในชีวิตประจำวันก็ประคองให้รอดต่อไปไม่ได้ด้วยซ้ำ
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นที่มุมปากของกู้ชูหน่วน นางหยิบแหวนมิติออกมา ใช้ความคิดขับเคลื่อน พริบตาเดียวในตอนนี้ยาจื่อหยางและยาพั่วหยวนกองหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าผู้เฒ่าหนิง
“แหวนมิติ คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะมีแหวนมิติ? เป็นแค่ตระกูลมู่ตระกูลเล็กๆจะมีของล้ำค่าเช่นนี้ได้อย่างไร? เจ้าคงไม่ได้ไปขโมยจากที่ไหนมาหรอกใช่หรือไม่” หนิงเทียนโย่วกล่าว
กู้ชูหน่วนเท้าคาง ไม่ได้สนใจคำพูดของเขาโดยสิ้นเชิง เพียงแค่บุ้ยปาก “แหวนมิติของข้ามาจากไหนไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ พวกเจ้าดูสิว่าของเหล่านี้มีมูลค่าหรือไม่”
ผู้เฒ่าหนิงหยิบขวดออกมาขวดหนึ่งด้วยความสงสัย เปิดฝาขวด กลิ่นหอมของยาฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้องส่วนตัว
“ยาจื่อหยาง ยาจื่อหยางที่ไม่มีสารเจือปนใดๆ ยานี่บริสุทธิ์ซะยิ่งกว่ายาที่หลอมจากตระกูลซ่างกวนซะอีก”
“นี่คือยาพั่วหยวน เป็นยาพั่วหยวนระดับหนึ่งจริงๆ สิ่งนี้สามารถพัฒนาศักยภาพได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะคนที่อยู่ในชีพจรยุทธ์ขั้นที่เก้า เพียงแค่กินลงไปเม็ดเดียว โดยพื้นฐานแล้วก็สามารถบรรลุระดับที่หนึ่งได้”
ผู้เฒ่าหนิงคำนวณคร่าวๆ ยาจื่อหยางบวกกับยาพั่วหยวนอย่างน้อยก็มีร้อยกว่าเม็ด
ตระกูลหนิงก็เป็นตระกูลใหญ่ที่มีชื่อเสียง ทว่าพวกเขาก็เห็นยามากมายขนาดนี้ได้น้อยมาก
หนิงเทียนโย่วกลืนน้ำลาย “มู่หน่วน เจ้าคงไม่ได้ไปขโมยของตระกูลซ่างกวนมาหรอกนะ?”
“หากว่าไปขโมยมาจากตระกูลซ่างกวน เจ้าคิดว่าด้วยนิสัยอันฉุนเฉียวของซ่างกวนชิง จะไม่ก่อเรื่องวุ่นวายจนดังสนั่นไปทั้งพระนครหรือ?”
“เช่นนั้นเจ้าไปเอามาจากที่ไหน?”
“อันนี้น่ะหรือ กฎสวรรค์ไม่อาจเปิดเผยได้ ข้าจะถามพวกเจ้าเพียงแค่ ต้องการยากองนี้หรือไม่”
“แน่นอนว่าต้องการ” แต่อย่างน้อยก็ต้องมีที่มาชัดเจนรึเปล่า
“พวกเจ้าอยากได้ เช่นนั้นก็มอบให้พวกเจ้าละกัน”
ไม่เพียงหนิงเทียนโย่วเท่านั้นที่ตกตะลึง
แม้แต่ผู้เฒ่าหนิงก็ตกตะลึงเช่นกัน
ยามากมายขนาดนี้มอบให้พวกเขาทั้งหมดเลยหรือ?
แม้ว่ายาจื่อหยางจะไม่ได้เป็นยาที่พัฒนาวิทยายุทธอะไรได้ แต่กลับเป็นยาศักดิ์สิทธิ์สำหรับการรักษา
แม้ว่ายาระดับหนึ่งจะเป็นระดับต่ำที่สุด แต่ก็ยังคงหาได้ยากในตลาด นางมอบให้มากมายขนาดนี้ในคราวเดียว นี่ก็ช่างใจกว้างเกินไปแล้วล่ะมั้ง
หนิงเทียนโย่วพูดอย่างกังวลว่า “มู่หน่วน เจ้าพูดจริงหรือ?”
“แน่นอนว่าจริง”
หนิงเทียนโย่วมองไปที่ท่านปู่ของตัวเองด้วยความดีใจ ดวงตาอันกระตือรือร้นนั่นไม่ต้องพูดก็เข้าใจได้
ผู้เฒ่าหนิงวางยาลง เขาพูดขึ้นเบาๆว่า “ไม่ได้ทำคุณอันใดจะรับของรางวัลได้ยังไง แม่นางมู่มอบยามากมายขนาดนี้ให้ในคราเดียว ไม่รู้ว่ามีอะไรจำเป็นต้องให้พวกเราช่วยเหลือหรือไม่?”
“แค่ถูกชะตากับท่าน อยากเป็นเพื่อนกับท่านก็เท่านั้น”
เพียงแค่นี้หรือ?
ทำไมผู้เฒ่าหนิงถึงได้รู้สึกไม่มั่นใจขนาดนั้นนะ
แม้จะต้องการคบหาเป็นเพื่อน มอบให้แค่สามถึงห้าเม็ดก็ได้แล้ว ถึงกับต้องมอบให้มากมายขนาดนี้ด้วยหรือ?
กู้ชูหน่วนหัวเราะแฮ่ะแฮ่ะ “แน่นอน หลังจากนี้ไม่นานข้าก็จะต้องไปที่วิทยาลัยอี้เหอแล้ว หากว่าข้าอยู่ที่นั่นแล้วโชคไม่ดีถูกคนรังแก ก็หวังว่าผู้เฒ่าหนิงจะดูแลสักหน่อย”
ที่กู้ชูหน่วนอยากพูดก็คือ หากว่านางไม่สามารถที่จะรวบรวมวิญญาณทั้งหมดได้ เมื่อชายสวมหน้ากากมาแก้แค้นนาง เขาจะสามารถช่วยออกหน้าแทนนางได้
ผู้เฒ่าหนิงถามอีกครั้ง “เพียงเท่านี้จริงๆหรือ?”
กู้ชูหน่วยแสร้งทำเป็นไม่พอใจ “ทำไม หรือท่านคิดว่าข้าถูกใจท่านงั้นหรือ? ข้าก็แค่เห็นว่าคนดูมีเมตตา เหมือนท่านปู่ของข้าเป็นอย่างมากก็เท่านั้น”
“ปู่ของเจ้า? มู่จ้านรึ?”
“แฮ่มแฮ่ม…..ตามใจเถอะ หากว่าท่านไม่อยากได้ เช่นนั้นข้าเก็บยากลับไปก็ได้แล้ว เพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกท่านคิดว่าข้ามีเจตนาไม่ดี”
“อย่า เพื่อนเช่นเจ้าข้าต้องคบค้าด้วยเป็นแน่ เช่นนี้ละกัน ข้าก็ไม่สามารถจะเอาเปรียบเจ้าได้ใช่รึเปล่าล่ะ ข้ายกหนิงเทียนโย่วหลานชายของข้าให้เจ้า นับตั้งแต่นี้ไป เจ้าก็คือหลานสะใภ้ของข้าแล้ว”