อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 961 คู่ควรกับมิตรภาพที่ลึกซึ้ง
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 961 คู่ควรกับมิตรภาพที่ลึกซึ้ง
ผู้เฒ่าหนิงโบกมือ บ่งบอกว่าพวกเขาไปได้แล้ว
หัวหน้าตระกูลมู่รอคอยประโยคนี้แหละ หลังจากเขาทำความเคารพอีกครั้ง ก็รีบไปอย่างกับหนี กลัวว่าหัวหน้าตระกูลหนิงจะเปลี่ยนใจ ขอยาชั้นเลิศคืนจากเขา
หลังจากพวกเขาไปแล้ว ผู้เฒ่าหนิงช่วยนวดไหล่ทุบหลังให้นางอย่างเอาใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “อาหน่วน ไม่รู้ว่ายาเจริญทิพย์นั้น เจ้ายังมีอีกไหม”
หนิงเทียนโย่วยกมือทาบหน้าผาก
นี่ไม่ใช่ท่านปู่ของเขาแน่นอน
น่าอับอายมาก
เพื่อยาชั้นเลิศ ไม่สนใจเกียรติสนใจศักดิ์ศรีแล้วจริงๆ
กู้ชูหน่วนพูดขึ้นอย่างพอใจว่า “อีกสองวันวิทยาลัยอี้เหอเปิดเรียน ช่วยข้าสมัครด้วย”
“ไม่มีปัญหา เจ้าไม่ต้องสอบ เข้าไปเรียนได้เลย”
“อีกห้าวันเป็นงานชุมนุมควบคุมสัตว์ สมัครให้ข้าด้วย”
“เรื่องถึงจะค่อนข้างยาก แต่ข้าไปขอคนรู้จัก พอสามารถทำได้”
กู้ชูหน่วนวางยาชั้นเลิศหลายขวดไว้บนโต๊ะ
ผู้เฒ่าหนิงเปิดมาดม
เป็นยาเจริญทิพย์
และมีทั้งหมดแปดเม็ด
โอ้โห
มีตั้งแปดเม็ด?
ยาชั้นเลิศระดับสอง บอกจะให้ก็ให้เลย และยังให้ตั้งแปดเม็ด
คับคั่ง
คับคั่งมาก
แม้แต่หนิงเทียนโย่วยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชมนางด้วยความเลื่อมใส
“นังหนู ยิ่งอยู่ข้าก็ยิ่งชอบเจ้าแล้ว เจ้ามาเป็นหลานสะใภ้ข้าเถอะ”
กู้ชูหน่วนเอายาชั้นเลิศกลับมา คิดอยากจะเอาคืน
ผู้เฒ่าหนิงรีบกุมไว้ พร้อมพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า “ล้อเล่น แค่ล้อเล่น”
กู้ชูหน่วนอ้าปากหาว แล้วก็โยนยาชั้นเลิศอีกขวดให้กับหนิงเทียนโย่ว พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าเหนื่อยแล้ว ขอไปนอนพักก่อน ใช่ ยาชั้นเลิศอันนี้ให้เจ้า สามารถช่วยให้เจ้าฝึกพลังไปถึงระดับสอง”
นางพูดเสร็จคนก็หายไปแล้ว
หนิงเทียนโย่วเปิดขวดมาดม เป็นยาชั้นเลิศระดับสองขั้นสูง
ถึงแม้ยาเจริญทิพย์ก็เป็นระดับสอง แต่ก็เป็นยาที่ด้อยกว่า เม็ดนี้เป็นขั้นสูง และเต็มไปด้วยพลังวิญญาณ เขายังสงสัยว่ามีพลังไปถึงระดับสามแล้ว
ผู้เฒ่าหนิงก็พูดออกมาอย่างตกใจว่า “ยาเม็ดนี้เหมาะสมกับวิชายุทธ์ของเจ้า แค่กินลงไป จะต้องทำให้เจ้าบรรลุขั้นได้แน่ นังหนูคนนี้ใจถึงจริงๆ ปู่ชอบ”
“นางให้ข้าเฉยๆแบบนี้ ล้ำค่าเกินไปไหม” หนิงเทียนโย่วมองดูทิศทางที่นางหายลับไปพร้อมพูดพึมพำ จู่ๆส่วนหนึ่งภายในใจก็ทรุดลง
“หลายเอ้ย เจ้าบอกว่านางเป็นชีพจรยุทธ์ชั้นหนึ่งที่ไม่ได้เรื่อง เท่าที่ปู่ดู นางไม่เพียงไม่ใช่ ยังเป็นอัจฉริยะอีกด้วย”
“อัจฉริยะ? เป็นไปได้ยังไง”
“เจ้ารู้ไหมว่าความสามารถที่แท้จริงของนางไปถึงเท่าไหร่แล้ว?”
“เท่าไหร่?”
“ชีพจรยุทธ์ชั้นเก้า”
“เป็นไปไม่ได้ ก่อนหน้านี้ไม่นาน นางยังเป็นชีพจรยุทธ์ชั้นหนึ่ง ยังถูกคนตระกูลไป๋หลี่ทำร้ายอย่างย่ำแย่”
“ดังนั้นข้าถึงพูดว่านางคืออัจฉริยะ เพียงเวลาสั้นๆไม่ถึงสิบวัน จากชีพจรยุทธ์ชั้นหนึ่งไปถึงชีพจรยุทธ์ชั้นเก้า ต่อให้เป็นบรรพบุรุษอัจฉริยะที่เก่งที่สุดของตระกูลหนิงก็ทำไม่ได้”
หนิงเทียนโย่วถอนหายใจ
“ที่สำคัญที่สุดคือ นางเป็นแค่ชีพจรยุทธ์ชั้นเก้า กลับสามารถผูกสัญญากับเสือขาวในตำนานระดับสาม”
“เสือขาวในตำนานระดับสาม? ท่านปู่ ท่านแก่จนเลอะเลือนไปแล้วหรือเปล่า ตอนนี้ยังมีเสือขาวในตำนานที่ไหน นั่นเป็นหนึ่งในอสูรปกครองศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่เลยนะ”
“เจ้าสิแก่จนเลอะเลือน ปู่สายตาดีอยู่ เสือขาวน่าจะเพิ่งคลอดได้ไม่นาน พลังก็สูงถึงระดับสาม หากเติบโตแล้ว อาจจะสูงถึงขั้นสูงสุดระดับสี่”
หนิงเทียนโย่วพูดขึ้นมาอย่างตกตะลึงว่า “นางมีพลังด้อยขนาดนี้ กลับสามารถผูกสัญญากับเสือขาวระดับสามได้ หรือว่า…..เสือขาวอยากที่จะยอมรับให้นางเป็นเจ้านาย?”
“สามารถทำให้เสือขาวยอมรับเป็นเจ้านาย ผูกสัญญากัน นางต้องมีอะไรพิเศษแน่”
กระทั่งเขายังสงสัยว่า ยาชั้นเลิศของนางไม่ได้ขโมยมาใช่ไหม หรือนางรู้จักคนมีฝีมือหลอมยา
ไม่อย่างนั้น…
ยาชั้นเลิศที่ขโมยมา ทำไมถึงได้ให้คนอื่นได้อย่างง่ายดายขนาดนั้น
นอกเสียจากนางอยากได้ยาชั้นเลิศก็สามารถมียาชั้นเลิศ ถึงได้ใจกว้างขนาดนี้
“หลายเอ้ย เจ้าต้องรักษาไว้ให้ดี หากสามารถได้นางมาเป็นภรรยาจะดีที่สุด สายตาของปู่ไม่มาทางพลาด ถึงนางจะเอาแต่ใจไปหน่อย โอหังไปบ้าง แต่หว่างคิ้วฉายแววความชอบธรรม คิดว่านิสัยคงไม่เลวร้าย คู่ควรที่จะเป็นมิตรได้อย่างลึกซึ้ง”