อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 966 น้ำวน
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 966 น้ำวน
เพราะกลิ้งลงมา เสื้อผ้าบนตัวเวินเส้าหยีหลุดลงอีกครั้ง
กู้ชูหน่วนรีบสวมให้กับเขา พอปกปิดกล้ามเนื้อได้บ้าง
นักฆ่าพวกนั้นจะรอให้กู้ชูหน่วนสวมเสื้อผ้าให้เวินเส้าหยีเสร็จได้อย่างไร แต่ละคนฉวยโอกาสนี้ ยกคันธนูขึ้นมาแล้วก็โอบล้อมกู้ชูหน่วนไว้ พร้อมที่จะลงมือฆ่า
กู้ชูหน่วนจำต้องกอดเวินเส้าหยีไปด้วย หลบหลีกนักฆ่าพวกนั้นไปอย่างทุลักทุเลไปด้วย มีหลายครั้งที่เกือบจะโดนทำร้าย
ในระยะการต่อสู้กระชั้นชิด นางไม่สามารถที่จะใช้อาวุธลับ ยังคำนึงถึงเวินเส้าหยี จึงทำให้ตกที่นั่งลำบาก
จู่ๆเจ้าเสือน้อยในอ้อมอกของนางก็กระโดดออกมา จากเสือตัวเล็กกลายเป็นเสือตัวใหญ่ อ้าปากพ่นเพลิงไฟออกไปเป็นวงกลม
กู้ชูหน่วนตะโกนพูดขึ้นว่า “อย่า…”
นางพูดรวดเร็ว เจ้าเสือน้อยเคลื่อนไหวรวดเร็วยิ่งกว่า ตรงที่เปลวเพลิงพ่นไป ต้นไม้ต่างถูกแผดเผา นักฆ่าชุดดำพวกนั้นมีบางส่วนหลบไม่ทัน ถูกเผาจนกลายเป็นถ่านดำ ไม่รู้ว่าเปลวเพลิงที่มันพ่นออกมาเป็นไฟอะไร
กู้ชูหน่วนแทบอยากที่จะบีบคอเจ้าเสือน้อยให้ตาย
จะพ่นก็พ่นเป็นทิศทางตรงไม่ได้หรือ พ่นไปทั่วทุกทิศทางไม่กลัวกลับมาเผาตนเองหรือ มันไม่รู้ว่าเปลวเพลิงของมันรุนแรงแค่ไหนหรือ?
และแล้ว เมื่อมันพ่นไฟออกไป ทั่วทั้งป่าล้วนไหม้ไปหมด ปากจ้าเสือน้อยเองก็ไหม้ ร้องเรียกอยู่อย่างไม่หยุด
กู้ชูหน่วนยังจะทันได้สนใจคนอื่นเสียที่ไหน หิ้วเวินเส้าหยีแล้วเดินมุ่งหน้าไปตรงผา
ไฟลุกไหม้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งรุนแรง ไหม้ลามไปทั่วทุกหย่อมหญ้า จนไม่สามารถหยุดได้ รอบๆกู้ชูหน่วนโอบล้อมไปด้วยไฟ
นางก้มมองลงไปข้างล่าง ข้างล่างหน้าผาเป็นลำธาร ถึงแม้น้ำในลำธารจะเชี่ยวไปหน่อย แต่ดีที่ห่างจากบนยอดเหวไม่ค่อยสูง
นางโอบกอดเวินเส้าหยี แล้วก็กระโดดลงไป
เวินเส้าหยีรีบพูดขึ้นว่า “ก่อนที่เจ้าจะกระโดดลงไป ช่วยสวมเสื้อผ้าให้ข้าก่อนดีไหม”
“ชีวิตสำคัญกว่า ยังไงตรงที่ควรดูข้าก็ดูหมดแล้ว จะคิดอะไรมาก”
“ตูม…..”
เวินเส้าหยีปฏิเสธ
แต่ร่างกายของเขาชาไปหมด ไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวขยับได้ จำต้องปล่อยให้นางหิ้วกระโดดลงไปพร้อมกัน
น้ำลำธารเยือกเย็นทิ่มแทงไปถึงกระดูก
มองดูแล้วเหมือนดั่งลำธารปกติ แต่เมื่อตกลงไปแล้วค่อยพบว่า ด้านล่างเป็นน้ำวน
น้ำวนที่แข็งแกร่งพักหมุนพวกเขาไปเจ็ดแปดรอบ
เดิมเวินเส้าหยีก็มีเพียงเสื้อผ้าที่ปกปิดไว้อย่างขอไปที ไม่แม้แต่จะมัดแน่น เมื่อพัดหมุนในน้ำวน
เสื้อผ้าของเขาถูกพัดไปจนหมด
ใต้ลำธาร
เวินเส้าหยีชาไปทั้งตัว ทำได้เพียงมองดูเสื้อผ้าลอยไปต่อหน้าต่อตา แล้วตนเองก็กลับมาเปลือยอีกครั้ง
สิ่งที่ทำให้เขายิ่งโกรธโมโหก็คือ
ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ว่ายน้ำไม่เป็น หรือว่าน้ำวนพัดรุนแรง จึงคว้าจับเขาไว้ตลอด
คว้าจับตรงส่วนอื่นของเขายังดี
แต่กลับ….คว้าจับตรงนั้นอีกแล้ว
เขาเจ็บปวดอย่างมาก
โกรธ
ต่อให้เวินเส้าหยีอารมณ์ดีอีกแค่ไหน เวลานี้ก็โกรธโมโห อยากที่จะฉีกผู้หญิงตรงหน้าคนนี้เป็นชิ้นๆ
น้ำวนพัดไปพัดมา สุดท้ายเขาหมดสติไป
รอเมื่อเขาฟื้นตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็อยู่ที่ริมลำธาร
กู้ชูหน่วนก็เพิ่งฟื้น มือกำลังเก็บใบไม้มาร้อยเป็นพวง
เวินเส้าหยีมองดูร่างกายตนเอง
และแล้ว
เหมือนอย่างที่เขาคิดไว้
“เสื้อผ้าของข้าล่ะ?” เสียงของเขาแหบแห้ง สำลักน้ำออกมาหลายที
“โน่น ไหลไปไหนแล้วก็ไม่รู้”
“รีบไปช่วยหาเสื้อผ้ามาให้ข้า”
“ในป่ารกร้างเปล่าเปลี่ยว ข้าจะไปหาที่ไหน?”
กู้ชูหน่วนแก่วงใบไม้ในมือ หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ พร้อมพูดขึ้นว่า “ถึงแม้จะไม่มีเสื้อผ้า แต่ใบไม้ปกปิดร่างกายนั้นมีอยู่ วางใจ ควรที่ปกปิดล้วนปกปิดได้”
เวินเส้าหยีมึนชาไปถึงหัว
เขาเป็นถึงประมุขเผ่าหนึ่ง
กลับต้องมาใช้ใบไม้ปกปิดร่างกาย