อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 989 สองสิ่งของวิเศษในหุบเขาสัตว์วิเศษ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 989 สองสิ่งของวิเศษในหุบเขาสัตว์วิเศษ
“ต่อให้ดวงจิตวิญญาณของนางหายไปหมดแล้ว ข้าก็จะตามหากลับมาให้หมด”
เย่จิ่งหานนั่งอยู่ด้านข้างเซียวหยู่เซวียน แล้วก็พูดขึ้นมาเหมือนพูดกับตนเอง
เซียวหยู่เซวียนเงยหน้ายกเหล้าขึ้นมาดื่ม แล้วก็โยนไหที่ว่างเปล่าแล้วลงในแม่น้ำอย่างแรง พร้อมหัวเราะพูดขึ้นว่า “ดวงจิตวิญญาณของนางหายหรือไม่หาย เกี่ยวอะไรกับข้า”
“แล้วเจ้ากำลังทุกข์ทรมานด้วยเรื่องอะไร?”
“ข้าทุกข์ทรมานหรือ? สายตาข้างไหนของเจ้าเห็นว่าข้าทุกข์ทรมาน”
เย่จิ่งหานมองดูไหเหล้าว่างเปล่าที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ เอื้อมมือไปเก็บไหเหล้าข้างเท้าเซียวหยู่เซวียนขึ้นมาหนึ่งไห เปิดจุกไห แล้วก็ยกขึ้นมาดื่มตาม
เหล้าแรงมาก เผ็ดร้อนไปหมด
แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำให้หัวใจที่เยือกเย็นของเย่จิ่งหานรู้สึกอบอุ่น
เซียวหยู่เซวียนพูดเยาะเย้ยว่า “เป็นถึงอ๋องเทพสงคราม ก็ยังจะแย่งเหล้าของชาวบ้านคนหนึ่งดื่มหรือ?”
เย่จิ่งหานไม่ได้ตอบคำถามที่สองของเขา แต่เลือกที่จะตอบคำถามแรกว่า
“หากเจ้าไม่สนใจนาง ก่อนที่นางจะตาย ทำไมเจ้าถึงหลบอยู่ด้านนอกห้องโถงที่เผ่าหยกหารือกัน แล้วก็แอบร้องไห้? หากเจ้าไม่สนใจนาง ทำไมเจ้าจะต้องยอมเสียสละอย่างมากมาย จากแคว้นเย่มาถึงแผ่นดินปิงหลิง? หากเจ้าไม่สนใจนาง หลายปีมานี้ทำไมเจ้าถึงตามหาดวงจิตวิญญาณของนางอย่างยากลำบาก?”
“ปัง….”
เซียวหยู่เซวียนแย่งเหล้าในมือเย่จิ่งหานกลับมา มองดูเขาอย่างโกรธเคือง พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าตามหานาง เพื่อที่จะฆ่านางด้วยมือของข้าเอง”
“ใช่หรือ? งั้นเจ้ารู้ว่าดวงจิตวิญญาณของนางหายไปหมดแล้ว ทำไมถึงได้หลบมาทุกข์ทรมานอยู่ที่นี่คนเดียว?”
“เจ้าตาบอดหรือ? ข้าอารมณ์ดีจึงมานั่งดื่มเหล้าอยู่ที่นี่”
เย่จิ่งหานถอนหายใจ ไม่สนใจความโกรธเคืองของเซียวหยู่เซวียน
แกว่งขลุ่ยหยกขาวในมืออยู่อย่างเกียจคร้าน แล้วก็เล่าสิ่งที่ตนเองรู้ให้เขาฟังอย่างเรียบเฉย
ไม่สนใจว่าเซียวหยู่เซวียนจะสนใจฟังไหม
“ร่างกายผู้หญิงคนนั้นค่อนข้างแปลกประหลาด ดวงจิตวิญญาณของอาหน่วนสองดวง สถิตอยู่ในร่างของนาง ร่างกายของนางมีประโยชน์กว่าไหกักวิญญาณ ไม่เพียงไม่ทำให้พลังดวงจิตวิญญาณของอาหน่วนด้อยลง ยังสามารถหล่อเลี้ยงดวงจิตวิญญาณของอาหน่วน”
ความรู้สึกของเซียวหยู่เซวียนหวั่นไหว
ดวงจิตวิญญาณสองดวงของยัยขี้เหร่ อยู่ในร่างกายของนาง?
งั้นลักษณะท่าทีต่างๆของนาง คล้ายคลึงยัยขี้เหร่ขนาดนั้น เป็นเพราะว่า…นางก็คือยัยขี้เหร่หรือ?
“ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่า ทำไมอาหน่วนถึงเลือกที่จะสถิตอยู่ในร่างกายของนาง แต่ข้ามั่นใจว่า นางสามารถดึงดูดดวงจิตวิญญาณสองดวงของอาหน่วน ก็สามารถที่จะดึงดูดดวงจิตวิญญาณทั้งหมดของอาหน่วน”
“พรุ่งนี้เป็นวันงานชุมนุมควบคุมสัตว์ ซึ่งงานชุมนุมควบคุมสัตว์จะจัดในหุบเขาสัตว์วิเศษ ภายในหุบเขาสัตว์วิเศษมีสิ่งของวิเศษสองอย่าง อย่างแรกคือคันฉ่องหงส์ มันสามารถดึงดูดวงจิตวิญญาณทุกอย่างที่ล่องลอยอยู่ในใต้หล้า หากพวกเราเอาคันฉ่องหงส์มาได้ ดวงจิตวิญญาณทั้งหมดของอาหน่วน อาจจะสามารถรวบรวมทั้งหมดได้ภายในเวลาอันสั้น”
“ยังมีอีกอย่างก็คือขวานผานกู่ มันสามารถแหวกมิติ กลับไปยังแผ่นดินของพวกเรา”
เซียวหยู่เซวียนพูดขึ้นว่า “เจ้าบอกเรื่องพวกนี้ให้ข้าฟังทำไม?”
“เจ้าเป็นนักเรียนของวิทยาลัยอี้เหอ พรุ่งนี้เจ้าสามารถเข้าร่วมงานชุมนุมควบคุมสัตว์ เข้าไปในหุบเขาสัตว์วิเศษ ตามหาสิ่งวิเศษสองอย่าง”
“ทำไมเจ้าไม่ไป?”
“ข้าไปไม่ได้” เพราะในแผ่นดินนี้ เขายังมีศัตรูคนหนึ่งต้องรับมือ…..
นั่นก็คือเวินเส้าหยี
เวินเส้าหยีคิดอยากที่จะกลับไปยังแคว้นเย่ เพื่อทำลายเผ่าหยก กระทั่งทำลายราชวงศ์แคว้นเย่
ตอนนี้กำลังของเขาแข็งแกร่งอย่างมาก จะให้เขากลับไปยังแคว้นเย่ไม่ได้
ไม่อย่างนั้น…..
เขาไม่กล้าคาดเดา ว่ายังจะสามารถที่จะรักษาเผ่าหยกไว้ได้ไหม
คนที่สามารถรับมือกับเขาได้ มีเพียงเขาเท่านั้น
เซียวหยู่เซวียนไม่ได้ถามถึงเหตุผลที่เขาไปไม่ได้ เพียงพูดปฏิเสธขึ้นว่า “ข้าไม่ไป ความเป็นความตายของนาง ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้าเลย”
“เจ้าจะไป”
เย่จิ่งหานพูดขึ้นอย่างมั่นใจ
แล้วก็เข็นรถเข็นจากไป เหลือไว้เพียงประโยคเดียวที่พูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า
“ปากทางเข้าหุบเขาสัตว์วิเศษ พรุ่งนี้เช้าจะถูกเปิด หากพลาดไป….ก็จะต้องรออีกมากกว่าสิบปี”
ดวงจิตวิญญาณของอาหน่วน ไม่สามารถรอคอยถึงสิบปี