อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 990 หัวหน้าตระกูลเวิน
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 990 หัวหน้าตระกูลเวิน
วันรุ่งขึ้น
หุบเขาสัตว์วิเศษ
นักเรียนทั้งหมดของวิทยาลัยอี้เหอรวมตัวกันอยู่ด้านนอกหุบเขาสัตว์วิเศษ เป็นขบวนยิ่งใหญ่เกรียงไกร ละลานตา
นอกจากอาจารย์นักเรียนทั้งวิทยาลัยแล้ว ยังมีราชวงศ์ตลอดจนองครักษ์ยอดฝีมือของสี่ตระกูลใหญ่แยกย้ายเฝ้าอยู่ใกล้หุบเขาสัตว์วิเศษ รักษาความสงบเรียบร้อย
บนที่นั่งหลักมีทั้งหมดห้าที่นั่ง ซึ่งห้าที่นั่งนี้ มีของเสด็จอาราชวงศ์อันหนึ่ง ที่เหลือเป็นที่หนึ่งประมุขสี่ตระกูลใหญ่
ลำดับถัดมาก็คือผู้อาวุโสสี่ตระกูลใหญ่ ตลอดจนเชื้อสายราชวงศ์
จนถึงตอนนี้ทั้งห้าที่นั่งยังคงว่างเปล่า ยังไม่มีคนนั่ง พวกนักเรียนกำลังพูดคุยถกเถียงกันอย่างถึงพริกถึงขิง
“ได้ยินมาหรือยัง? ปีนี้หัวหน้าตระกูลเวินจะมาร่วมงานชุมนุมควบคุมสัตว์”
“จริงๆหรือ? ดูเหมือนทั่วทั้งแผ่นดินปิงหลิงไม่มีใครรู้ว่าหัวหน้าตระกูลเวินเป็นใคร ดูเหมือนเขาไม่เคยมาปรากฏตัว เรายังสงสัยกันว่าตระกูลเวินไม่มีประมุขเสียอีก”
“คงจะเป็นชายชราผมหงอกคนหนึ่ง”
“ข้าก็คิดว่าใช่ หัวหน้าตระกูลอื่นๆล้วนอายุมากแล้ว หัวหน้าตระกูลเวินก็คงไม่หนุ่มหรอก”
“สามารถได้เห็นประมุขสี่ตระกูลใหญ่ตลอดจนเสด็จอา ถึงแม้พวกเราจะปราบสัตว์เทพไม่ได้ ก็ไม่ถือว่ามาอย่างเปล่าประโยชน์”
กู้ชูหน่วนอ้าปากหาว มองซ้ายมองขวาท่ามกลางฝูงชน กลับมองไม่เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยนั้น
หนิงเทียนโย่วกับหลินซือหย่วนยืนอยู่ด้านข้างนาง
หนิงเทียนโย่วพูดขึ้นว่า “เจ้ามองหาเซียวหยู่เซวียนหรือ? ข้าดูรายชื่อผู้ลงทะเบียนแล้ว เขาไม่มา”
กู้ชูหน่วนหรี่ตาลง พูดขึ้นมาอย่างเรียบเฉยว่า “เขาอยากมาหรือไม่อยากมาก็แล้วแต่”
ไม่เพียงไม่เห็นเซียวหยู่เซวียน ยังไม่เห็นชายสวมหน้ากากคนนั้นด้วย
คิดถึงเมื่อคืน หลังจากชายสวมหน้ากากที่ขาพิการพานางเข้ามาในหุบเขาสัตว์วิเศษ ให้ช่วยเขาตามหาคันฉ่องหงส์ หากตามหาคันฉ่องหงส์ ผลที่ตามมาไม่ใช่สิ่งที่นางสามารถรับได้
กู้ชูหน่วนหัวเราะเย้ย
นางก็อยากรอดู หากนางหาคันฉ่องหงส์ไม่เจอ อะไรจะเกิดขึ้น
“เดี๋ยวหลังจากเข้าไปในหุบเขาสัตว์วิเศษ เจ้ากับหลินซือหย่วนตามติดข้านะ อย่าพรากจากกันเด็ดขาด”
“ทำไม?” เทียบกับความเฉยเมยของกู้ชูหน่วน หลินซือหย่วนแลดูตื่นเต้นมาก ยังไงก็เป็นครั้งแรกที่ได้เข้าร่วมงานยิ่งใหญ่ขนาดนี้
“ถึงจะบอกว่าการเข้าไปในหุบเขาสัตว์วิเศษเพื่อเป็นการฝึกฝน และก็เพื่อผูกสัญญาสัตว์อสูร แต่ปีที่ผ่านมามีคนจำนวนมากที่ฉวยโอกาสฆ่าคนที่ตนไม่ชอบ”
“พวกเจ้าสองคนล้วนเคยผิดใจตระกูลไป๋หลี่ แม้แต่ตระกูลซ่างกวนแม่นางมู่ก็ผิดใจแล้ว ข้ากลัวว่าพวกเขาจะลงมือทำร้ายพวกเจ้าข้างใน”
หลินซือหย่วนร้องพูดขึ้นมาอย่างตกใจว่า “อ๋า….ฆ่าคนข้างใน พวกเขาไม่กลัวออกมาแล้วถูกอาจารย์ลงโทษหรือ?”
“ภายในหุบเขาสัตว์วิเศษมีสัตว์อสูรมากมาย เต็มไปด้วยอันตราย หากเจอสัตว์อสูรที่ระดับสูงกว่าตน ถูกสัตว์อสูรหรือพิษหมอกในป่าลึกฆ่าตาย ก็ถือเป็นเรื่องปกติ พวกอาจารย์ไม่สนใจหรอกว่าเจ้าถูกสัตว์อสูรฆ่าตาย หรือถูกเพื่อนร่วมชั้นฆ่าตาย”
“ฟังเจ้าพูดเช่นนี้แล้ว เราเข้าไปก็อันตรายนะสิ”
“วางใจ ท่านปู่ให้ศิษย์พี่หลายคนตามข้าเข้ามา ศิษย์พี่หลายคนจะปกป้องพวกเจ้า ขอเพียงพวกเจ้าตามติดข้า อย่าวิ่งหนีไปเรื่อย”
“ขอบคุณคุณชายหนิง”
“ไม่ต้องเกรงใจ หวังว่าถึงตอนนั้นจะสามารถปราบสัตว์อสูรได้หลายตัวนะ”
พวกประมุขยังไม่มา หยางโม่ค่อยๆเดินมาตรงหน้ากู้ชูหน่วน พร้อมพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนยิ้มแย้มว่า “แม่นางมู่ เจ้าจะเข้าร่วมงานชุมนุมควบคุมสัตว์จริงๆหรือ?”
“ทำไมจะไม่เข้าร่วม?”
“ข้าก็จะเข้าไป เข้าไปด้วยกันดีไหม?”
“ไม่ต้อง”
หยางม่านกลอกตามองบน
มู่หน่วนคนนี้ไม่รู้จักเลือกที่รักมักที่ชังจริงๆ
เสด็จพี่กลัวนางถูกตระกูลซ่างกวนกับตระกูลไป๋หลี่ลอบทำร้าย จึงขอเข้าไปพร้อมกับนาง ที่จริงเพราะอยากปกป้องนาง
นางไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้?
“หัวหน้าตระกูลหนิงมาถึง…”
“หัวหน้าตระกูลไป๋หลี่มาถึง…”
“หัวหน้าตระกูลซ่างกวนมาถึง…”
“หัวหน้าตระกูลเวินมาถึง…”
“เสด็จอาเสวี่ยเสด็จ…”
ตามด้วยเสียงรายงานดังขึ้น ทุกคนต่างหันไปมองบนเก้าอี้ที่นั่งหลัก