อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่1221 เชยชม
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่1221 เชยชม
“ก็เจ้าเอาแต่พล่ามไร้สาระ ถ้าเจ้าเงียบหน่อย พวกเราคงออกจากที่บ้าๆนี่ตั้งนานแล้ว”
“……”
เห็นเย่จิ่งหานกุมเข่าสองข้างไว้ด้วยความเจ็บปวด เจ็บจนขมวดคิ้วเป็นปม กู้ชูหน่วนก็ช่วยเขาตรวจดูเข่า เจ็บจนเขาสูดหายใจเข้าซี๊ด
“โชคร้ายจัง ขาเจ้าหักแล้ว กระดูกซี่โครงของเจ้าก็หักหลายท่อนเหมือนกัน”
“ดังนั้นล่ะ?”
“ดังนั้นเจ้าก็กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ไง ทำได้แค่ชม ก็เหมือนกับตอน……หอกระบี่”
เย่จิ่งหานต่อยไปยังใบหน้าที่ยั่วโมโหของนาง
กู้ชูหน่วนหลบอย่างรวดเร็ว ถอยหลังแล้วพูดว่า “เจ้าต้องคิดให้ดีนะ พื้นที่ตรงนี้เล็กแค่นี้ ถ้าเจ้ายังกล้าทำอะไรข้า ถ้าเกิดทุกอย่างล่มลงมา พวกเราจะโดนฝังอยู่ในนี้ได้นะ”
คำพูดนี้มีพลังมาก และเป็นความจริงเหมือนกัน
เย่จิ่งหานลดกำปั้นลง อดทนกับความเจ็บปวด จัดการเลือดบนขาของตัวเองอย่างยากลำบาก
“เห็นแก่ที่เจ้าช่วยข้าแล้วตัวเองต้องบาดเจ็บ ข้าจะฝืนช่วยเจ้าพันแผลแล้วกัน”
“ไม่จำเป็นหรอก”
“ลีลาอะไรกัน ข้าไม่กินเจ้าเสียหน่อย”
กู้ชูหน่วนจับตัวเขาไว้ จัดการแผลที่ขาของเขาอย่างเชี่ยวชาญ ปากก็พูดว่า “เจ้าคิดเผื่อตัวเอง ก็ต้องคิดเผื่อภรรยาเจ้าด้วย เจ้าตายที่นี่ ใครจะคืนชีพนาง”
เย่จิ่งหานชะงัก ฉีกผ้าบนตัวมาปิดปากตัวเองไว้
ปวดเข่ามาก แผ่นหลังก็ปวดมากเหมือนกัน ถึงแม้กู้ชูหน่วนจะมือเบาแล้ว แต่เขาก็ยังเจ็บจนพูดไม่ออกอยู่ดี
แต่ไม่ว่าจะเจ็บแค่ไหน เขาก็ไม่ยอมร้องออกมา
นางพูดถูก เขาจะตายที่นี่ไม่ได้ ถ้าเขาตายที่นี่ อาหน่วนของเขาจะทำยังไง?
“ยังดีที่กระดูกของเจ้าแข็งแรงเกินคน โดนหินก้อนใหญ่ขนาดนั้นทับยังไม่ทำให้กระดูกของเจ้าแหลกอีก”
เย่จิ่งหานเอาผ้าออกจากปาก ด่าว่า “เจ้าว่าไงนะ?”
“ข้าพูดผิดเหรอ ก็แข็งแรงไง กระดูกเจ้าแข็งเกินไป แบบนี้แล้วยังไม่ทำให้กระดูกเจ้าแหลกอีก”
กู้ชูหน่วนว่าแล้ว ก็ใช้แรงต่อกระดูกของเย่จิ่งหานที่ผิดตำแหน่งให้กลับเข้าที่ เจ็บจนเย่จิ่งหานร้องออกมา
“โอ๊ย……เจ้า เจ้าอยากตายหรือไง”
“นี่ไง กระดูกเข้าที่หมดแล้ว แต่กระดูกหัวเข่าของเจ้าแตกแล้ว บิดกลับไม่ได้ เจ้าคงต้องนอนพักผ่อนหลายเดือนเลยล่ะ”
เย่จิ่งหานมองดูกระดูกซี่โครงของตัวเอง ตำแหน่งหลายจุดเข้าที่แล้วจริงๆ เขารู้ว่าที่นางพูดจาดูถูกเขาก็เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเขา ถึงแม้จะโกรธ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนางอีก
โดยเฉพาะตอนที่มองดูหญิงสาวตรงหน้าทำแผลให้เขาอย่างอ่อนโยน กลัวว่าใช้แรงแล้วจะทำให้เขาเจ็บ สุดท้ายเย่จิ่งหานก็หายโกรธ
“พันแผลเสร็จแล้ว ยังขยับไม่ได้นะ ไม่งั้นขาเจ้าได้พิการจริงแน่”
กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้น รอบด้านเต็มไปด้วยก้อนหิน ปิดทางเอาไว้ทั้งหมด เย่จิ่งหานจะไม่ขยับได้ยังไง?
หรือจะให้นางแบกออกไป?
แต่ว่า……
พวกเขาถูกขังอยู่ในนี้ นางออกไปไม่ได้ จะแบกได้ยังไง?
กู้ชูหน่วนนั่งพิงอยู่ข้างก้อนหิน แล้วถามว่า “มีวิธีออกไปไหม?”
เย่จิ่งหานส่ายหน้า
“คงต้องลองดูว่าพระราชวังใต้ดินพังทลายลงมาทั้งหมดไหม ถ้าพังแค่ช่วงเดียว พวกเราอาจจะออกไปได้”
ถ้าไม่ใช่ ถึงจะมีพลังระดับเจ็ด ก็ออกไปไม่ได้อยู่ดี
และเมื่อพิจารณาจากขนาดของการพังทลายในตอนนี้ เกรงว่าพระราชวังใต้ดินทั้งหมดคงจะพังทลายหมดแล้ว
“บุกวังหลวงครั้งเดียว ช่วยเซียวหยู่เซวียนไม่ได้ไม่พอ ยังต้องมาเป็นคนแบกหินอีก ข้านี่มันช่างลำบากจริงๆ”
กู้ชูหน่วนพูดไปด้วย แล้วขยับก้อนหินไปด้วย หวังว่าจะเปิดเส้นทางได้
หินทุกก้อนในนี้มีน้ำหนักหลายร้อยโล กู้ชูหน่วนเป็นแค่ผู้หญิงถึงจะมีแรงมากแค่ไหน ก็ยังยกลำบากอยู่ดี
ยิ่งไปกว่านั้น ยกหนึ่งก้อนก็ยังมีอีกก้อน ไม่ให้ได้พักเลย ยังต้องกังวลว่า ขยับหินก้อนนั้นแล้ว หินที่กองอยู่ด้านบนจะร่วงลงมาอีกหรือเปล่า
เย่จิ่งหานมองดูร่างกายผอมบางของนาง ยกอย่างยากลำบาก เหงื่อแตกท่วมใบหน้าของนาง อดไม่ได้พูดขึ้นว่า “ข้าช่วยไหม”
“ไม่ต้อง เจ้านั่งตรงนั้นไปเถอะ ทำตัวหล่อๆให้ข้าเชยชม ข้าก็มีแรงทำงานแล้วล่ะ”
“……”