อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่1225 ประวัติ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่1225 ประวัติ
กู้ชูหน่วนอยากเอามือของเขาที่กระชากคอของนางไว้ออกไป แต่ยิ่งนางดึง เย่จิ่งหานก็กระชากแรงขึ้น ทำเอานางแทบขาดอากาศหายใจในแอ่งน้ำนี้ และเกือบตายอยู่ในมือของเขา
หายใจลำบาก เจ็บคอ ไม่มีแรง กู้ชูหน่วนกลอกตามองบน
เอามือของเย่จิ่งหานออกไม่ได้ แก้มัดที่มัดตัวของเขาออกแล้วโยนเขาทิ้งก็ไม่ได้ กู้ชูหน่วนหยิกที่ขาของเขาแรงๆ
นางใช้แรงทั้งหมดหยิกเขา เย่จิ่งหานเจ็บจนร้องซี๊ด ก้มหน้ามองค้อนกู้ชูหน่วน
แต่กลับเห็นกู้ชูหน่วนก็มองค้อนเขาเหมือนกัน ยังชี้มือของเขาที่กระชากคอของนางไว้อีก
เห็นสีหน้าของนางเจ็บปวด ท่าทางจะขาดอากาศหายใจอยู่แล้ว เย่จิ่งหานก็ถึงรู้ตัว
เขาปล่อยมือที่กระชากคอของนางออก ไม่นานก็จับเสื้อของนางไว้แน่น เหมือนกู้ชูหน่วนเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ช่วยเขาได้
พอมือของเขาออกจากคอ กู้ชูหน่วนก็ถึงสบายขึ้นมาหน่อย ถึงแม้จะยังหายใจไม่ได้ แต่นางก็ตั้งตัวใหม่ แล้วว่ายไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
แขนเสื้อถูกดึงไว้แน่น แน่นขึ้นเรื่อยๆ……
แน่นจนกู้ชูหน่วนไม่สามารถว่ายน้ำเร็วๆได้
นางอยากจะเตะเย่จิ่งหานออกไปจริงๆ
ทำอะไรไม่ได้ แล้วยังจะมาสร้างปัญหาอีก
ว่ายกลับไปก็ไกลเกินไป
ข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าจะมีทางออกไหม ตอนนี้จะกลับก็ลำบาก จะไปข้างหน้าก็ลำบากอีก
กู้ชูหน่วนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
เรี่ยวแรงของนางหดหายไปเรื่อยๆ
หันหน้าไปมองเย่จิ่งหาน กลับเห็นเย่จิ่งหานก็ไม่ดีไปกว่านางเท่าไหร่ และยังเริ่มขาดสติด้วย
เจ้าหมอนี่ ไหนว่าวิชากำลังภายในแข็งแกร่งมากไง?
ทำไมแค่กลั้นหายใจก็ยังทำได้ไม่นานเลยล่ะ?
กู้ชูหน่วนกระชากเย่จิ่งหานไม่หยุด หวังจะกระชากให้เขาตื่น
แต่ทว่าเย่จิ่งหานเริ่มหมดแรงลงทุกที
ในวินาทีนั้น กู้ชูหน่วนจึงต้องแก้มัดออก ดึงเขามาตรงหน้า แล้วประทับริมฝีปากลงไป
เฮ้ย……
เย่จิ่งหานเงยหน้าขึ้นอย่างกะทันหัน
ริมฝีปากเย็นเฉียบ มีอากาศหายใจเป่าเข้ามา สายตาที่เลือกรางนั้นก็เห็นกู้ชูหน่วนกอดเขา แล้วเป่าอากาศหายใจเข้ามาให้เขา
เย่จิ่งหานตัวแข็งทื่อ ปล่อยให้กู้ชูหน่วนทำไป
ในสมองก็มีภาพของนางกับอาหน่วนประกบรวมกันอีกรอบ
ความรู้สึกนี้
ความอบอุ่นนี้
เขาคิดไม่ออกเลยว่าต่างจากกู้ชูหน่วนตรงไหน
เย่จิ่งหานตอบโต้กลับ หลุมหลงอยู่ในความรู้สึกนี้
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ กระแสน้ำวนก็ซัดเข้ามา เกือบซัดทั้งสองพลัดจากกัน
ยังดีที่กู้ชูหน่วนไหวพริบเร็ว มัดตัวของเขาไว้กับตัวเองแน่นอีกครั้ง
ทั้งสองอยู่ในกระแสน้ำวน เหมือนอยู่ในเครื่องปั่น ปั่นจนเวียนหัวไปหมด
กู้ชูหน่วนเวียนหัว
เย่จิ่งหานเวียนหัวกว่าอีก
ความคิดเดียวก็คือ ไม่ว่ากระแสน้ำวนจะแรงแค่ไหน กู้ชูหน่วนก็จะกอดเขาไว้แน่นๆ กระแสน้ำวนซัดเข้ามาเรื่อยๆ
ถึงแม้เชือกที่มัดจะขาด นางก็ยังกอดเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยมือ
เย่จิ่งหานกระตุกยิ้มมุมปาก
ในตอนที่นางกอดเขาไว้ เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาแปลกๆ
ในตอนที่เย่จิ่งหานตื่นขึ้นมาอีกครั้ง มีบางอย่างกำลังอยู่บนใบหน้าของเขา ทั้งคัน ทั้งลื่น และยังมี……กลิ่น แต่ไม่ใช่กลิ่นเหม็น เป็นกลิ่นหอมหวาน
“ตื่นสิ ถ้ายังไม่ตื่นอีก ข้าจะโยนเจ้าลงไปให้เป็นอาหารปลาแล้วนะ”
เย่จิ่งหานลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า แต่กลับเห็นกู้ชูหน่วนใช้เท้าเตะใบหน้าของเขา
นึกถึงเมื่อกี้ที่เกาใบหน้าของเขาคือเท้าของนาง พอเห็นร่างกายที่เปลือยเปล่าของตัวเอง เย่จิ่งหานก็รีบลุกขึ้นนั่ง
แผ่นหลังกับเท้าเจ็บจี๊ด
เขาปิดร่างกายตัวเองไว้ แล้วตะคอกว่า “เจ้าถอดเสื้อของข้าอีกแล้ว”
กู้ชูหน่วนกำลังย่างปลาอยู่ก็ตกใจ
“เสื้อผ้าของเจ้าเปียก แถมยังตัวร้อนจี๋เลย ไม่ถอดแล้วจะใส่ต่อหรือไง? ทำคุณบูชาโทษจริงๆ ข้าต้องเสียแรงมากแค่ไหนกว่าจะทำให้เจ้าหายเป็นไข้ได้ ไม่ขอบคุณก็ช่างเถอะ ยังจะมาตะคอกด่าข้าอีก”
เหอะ……
แต่ก็ไม่ถึงกับต้องถอดออกทั้งหมดไหม?
อย่างน้อยเหลือให้สักตัวก็ยังดี