อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่1226 ร่วมทุกข์ร่วมสุข
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่1226 ร่วมทุกข์ร่วมสุข
เย่จิ่งหานดึงเสื้อผ้าที่แห้งแล้วของตัวเองลงมา แล้วมองค้อนนางด้วยสายตาที่เย็นชา
ถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายนางมีวิญญาณของอาหน่วนอยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะนางช่วยเขาไว้ เขาอยากจะฆ่านางให้ตายไปเลยจริงๆ
นิสัยเสียแก้ไม่ได้เลยจริงๆ เอาแต่ถอดเสื้อผ้าผู้ชาย ไม่รู้ว่านางไม่เคยเจอผู้ชายมาก่อนหรือไง
เมื่อนึกถึงร่างกายอันเปลือยเปล่าของเขาที่ถูกนางมองนับครั้งไม่ถ้วน เย่จิ่งหานก็โมโหมากกว่าเดิม
เขารวบรวมพลังไปที่ฝ่ามือ อยากจะสั่งสอนนางสักหน่อย
แต่กลับสำลักเลือดออกมา
“ร่างกายมีแผลแล้วยังจะฝืนอีก ก็แค่ดูร่างกายนิดหน่อย สิ่งที่เจ้ามีคนอื่นก็มี เป็นผู้ชายอย่าใจแคบขนาดนั้นสิ อีกอย่าง เจ้าก็ไม่คิดหน่อยว่าทำไมข้าต้องถอดเสื้อผ้าของเจ้า”
กู้ชูหน่วนรีบฝังเข็มให้เขาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ฝังเข็มเสร็จแล้ว เย่จิ่งหานก็สำลักเลือดเสียทั้งหมดออกมา
“อาการบาดเจ็บภายในเป็นเพราะโดนก้อนหินทับ ยังดีที่เอาเลือดคั่งออกมาทั้งหมดแล้ว พักผ่อนสักหน่อยเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง”
ร่างกายของเขารู้สึกโล่ง และกำลังภายในของเขาค่อยๆฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ แต่แผ่นหลังของเขายังเจ็บอยู่ และยังไม่สามารถขยับได้ด้วย
ขาของเขาก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย
“ที่นี่น่าจะเป็นชานเมืองของพระนครนะ ข้าทำรถลากไว้ ถ้าไม่รังเกียจก็ขึ้นมาเถอะ”
กู้ชูหน่วนชี้ไปยังรถลากที่ทำจากเถาวัลย์
ด้านล่างของรถลากปูด้วยท่อนไม้ รอบๆมีเถาวัลย์ล้อมอยู่ สามารถให้คนขึ้นไปนั่งได้
แต่รถลากไม่มีล้อ และไม่มีม้า จึงต้องใช้กำลังคนลากเอา
เย่จิ่งหานอยากเปลี่ยนรถลากให้เป็นรถลากที่มีล้อ แต่ทว่าที่นี่เป็นภูเขาหิน นอกจากก้อนหินเต็มภูเขาแล้ว ก็ไม่มีต้นไม้เลยสักต้น ไม่รู้ว่านางไปหาท่อนไม้เล็กๆพวกนี้มาจากไหน
“ที่นี่ไม่มีคนเลย พวกเราคงต้องเดินอีกนานกว่าจะออกไปได้”
เย่จิ่งหานอยากบอกนาง ใช้รถลากลากเขา นางจะเหนื่อยมาก และยังต้องเดินนานมากด้วย
นางทิ้งเขาแล้วเดินไปคนเดียวก็ได้
“เจ้าบาดเจ็บเพราะข้า ทิ้งเจ้าไว้ ข้าทำใจไม่ได้หรอกนะ ไปกันเถอะ”
กู้ชูหน่วนพยุงเขาไปที่รถลาก แล้วเอาปลาที่ย่างเสร็จทิ้งไว้บนตัวเขา จากนั้นก็หยิบเถาวัลย์ขึ้นมา ลากไปข้างหน้า
เพราะเป็นภูเขาหิน ถนนบนภูเขาก็ไม่เรียบ มีสูงมีต่ำ รถลากไปยากมาก
กู้ชูหน่วนต้องเสียแรงเยอะในใจลากรถไปข้างหน้า
บางทีก็ต้องอุ้มคนขึ้นมาพร้อมกับรถลากแล้วเดินไปข้างหน้า
ไม่นาน ฝ่ามือของนางก็เต็มไปด้วยเลือด
เลือดไหลหยดลงมาตามเถาวัลย์ทีละหยด ตกลงสู่พื้นและรวมเข้ากับดิน
เย่จิ่งหานมองดูมือที่มีเลือดไหลของนางด้วยสายตามืดมน แล้วพูดว่า “ยอมแพ้เถอะ พาข้าเดินไปด้วยไม่ใช่การกระทำที่ฉลาดเลย”
“ข้าบอกแล้วไง จะไปก็ไปด้วยกัน จะอยู่ก็อยู่ด้วยกัน ก็แก้ภูเขาหินเอง อดทนหน่อยเดี๋ยวก็ออกไปได้แล้ว”
ดวงอาทิตย์สาดส่องราวกับไฟปะทุ เลือดกับเหงื่อหลอมรวมกัน ไหลลงมาเรื่อยๆ เย่จิ่งหานก็ปวดใจอย่างมาก
เขาคิดว่าอดทนหน่อยเดี๋ยวก็ถึงแล้ว
แต่หารู้ไม่ว่า พวกเขาเดินข้ามภูเขาหลายลูกมาก เหมือนจะเดินตั้งแต่เช้าถึงมืด แล้วเดินตั้งแต่มืดค่ำถึงเช้า ไม่รู้ว่าจะเดินออกจากภูเขาหินได้ไหม
“มู่หน่วน ข้าบอกให้เจ้าทิ้งข้าไว้ไง เจ้าไม่ได้ยินเหรอ”
เขาไม่อยากทำให้นางต้องลำบากไปด้วย
มองดูเลือดและเหงื่อของนาง แต่นางก็ยังกัดฟันเดินไปข้างหน้าอย่างยากลำบาก สองมือที่จับเถาวัลย์นั้นก็เต็มไปด้วยบาดแผล
ทั้งที่นางเกลียดเขา
ทำไมถึงยอมช่วยเขาโดยไม่คิดชีวิตเลยล่ะ?
ทำไมทุกครั้งถึงต้องทำให้เขาทั้งรักทั้งเกลียดด้วย?
“วางใจได้ ถึงตายก็ไม่ปล่อยหรอก ข้าไม่เชื่อหรอกนะว่า ข้าจะช่วยเจ้าออกไปจากภูเขาบ้าๆนี่ไม่ได้”
กู้ชูหน่วนพูดเสียงหอบ นางคงจะเหนื่อยมากแน่ๆ
“เสี่ยวจิ๋วเอ๋อร์ก็จริงๆเล้ย! เวลาสำคัญแบบนี้ไม่รู้ว่าหนีไปไหน มาช่วยประคองข้าหน่อยก็ไม่ได้”