อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่1230 เล่ห์เหลี่ยม
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่1230 เล่ห์เหลี่ยม
ราชินีสั่งให้ทหารจับตัวกู้ชูหน่วนกับเย่จิ่งหานพวกเขา ทั้งแคว้นน้ำแข็งและแต่ละเมืองก็เคร่งกันมาก ทหารที่เฝ้าหน้าเมืองก็เยอะขึ้นเป็นสองเท่า
หน้าประตูเมือง พวกทหารเห็นเย่จิ่งหานเดินไม่ได้ ว่าจะค้นตัวเขาสักหน่อย
แต่พอเปิดผ้าที่คลุมขาของเย่จิ่งหานออก พวกทหารต่างก็ปิดปากไว้ แล้ววิ่งไปข้างทางอ้วกกันใหญ่
“ขาของเจ้ามีกลิ่นอะไรน่ะ ทำไมเหม็นขนาดนั้นล่ะ?”
กู้ชูหน่วนใช้รถลากลากเขามา ได้ยินแล้วก็น้อยใจน้ำตาไหล “เมื่อปีก่อนภรรยาของข้าโดนงูพิษกัดเข้า รักษาอย่างไรก็ไม่หายเลย จนบาดแผลเริ่มเน่า ไม่เพียงแต่เน่าเท่านั้น แผลยังเปลี่ยนลักษณะไปอีก นี่ไง กลายเป็นจุดสีแดงเลย ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ร่างกายของนางมีจุดสีแดงก็ช่างเถอะ บนตัวของข้าก็มีเช่นกัน”
ว่าแล้ว กู้ชูหน่วนก็เลิกแขนเสื้อตัวเองขึ้น เผยให้เห็นจุดสีแดงที่มีเต็มตัว
“ซี๊ด……”
ไม่เพียงแต่พวกทหาร พวกชาวบ้านที่มาเข้าแถวรอเข้าเมืองก็ตกใจจนออกห่างจากพวกเขา
“นี่ไม่ใช่จุดสีแดงหรอกนะ มันเป็นโรคฝีดาษต่างหาก โรคนี้ติดต่อกันได้ เจ้าไม่รู้หรือไง?”
กู้ชูหน่วนแกล้งทำเป็นไม่รู้ “โรคฝีดาษ มันคืออะไรเหรอ?”
“ไสหัวไปเลย จะไปไหนก็ไป รีบไสหัวไปเลยนะ”
“แต่ข้าอยากพาภรรยาข้าเข้าเมืองไปหาหมอนะ”
“ถ้าเจ้ายังไม่ไป ข้าจะฆ่าพวกเจ้าเดี๋ยวนี้เลย”
พวกทหารมองค้อนกู้ชูหน่วนอย่างโหดเหี้ยม กู้ชูหน่วนถูกมองค้อนจนตัวสั่นเทา เข็นรถลากออกไปทางนอกเมืองด้วยมืออันสั่นเทา
เย่จิ่งหานหมดคำจะพูด
ไหนว่าจะเข้าเมืองไง?
แกล้งเป็นโรคฝีดาษ?
เสียแรงที่นางคิดออกมาได้
โรคติดต่อแบบนี้ พวกทหารไม่เผาพวกเขาทั้งเป็นก็ไม่เลวแล้ว จะปล่อยให้พวกเขาเข้าเมืองได้อย่างไร ไม่รู้ว่านางคิดอะไรอยู่กันแน่
เห็นพวกเขาเดินออกไปอย่างยากลำบาก หัวหน้าทหารที่เพิ่งลาดตระเวนกลับมาก็ตะโกนเรียกพวกเขาไว้
“หยุด มาจากไหน?”
“พวกเรามาจากหมู่บ้านไป่ฮัว ข้าอยากพาภรรยาเข้าเมืองมาหาหมอ แต่พวกเขา……พวกเขาไม่ปล่อยให้พวกเราเข้าเมือง ท่านมีเมตตา ปล่อยให้พวกเราเข้าเมืองได้หรือไม่?”
“ใต้เท้า คนผู้นั้นเป็นโรคฝีดาษ เป็นโรคติดต่อนะขอรับ” พวกทหารเตือนเสียงเบา
หัวหน้าทหารได้กลิ่นแปลกๆ
ไม่สนใจว่าเขาเป็นโรคฝีดาษจริงไหม เดินไปหาเย่จิ่งหานทีละก้าว
เขาไม่ปล่อยผู้ต้องสงสัยทุกคน
โดยเฉพาะคนที่เดินไม่ได้
แต่เห็นสองขาของเย่จิ่งหาน ถึงเขาจะใจเย็นมากแค่ไหน ก็อดคลื่นไส้ไม่ได้
นี่มันเป็นขาแบบไหนกันนะ?
ไม่เพียงแต่เน่ายังส่งกลิ่นเหม็นออกมาอีก แถมยังมีหนอนอีกด้วย ขยับไปมาอย่างน่ารังเกียจ
นอกจากนั้นยังมีจุดสีแดงขึ้นตามตัว อาการเหมือนกับโรคฝีดาษมาก
เห็นผู้ที่สองขาพิการเป็นหญิงชราผมขาวโพลน อาการป่วยก็ดูหนักมาก ไม่เหมือนคนที่องค์ราชินีตามหาเลย
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะป่วยหรือเปล่า เขาไอคอกแคกตลอดเวลา สายตาสิ้นหวัง น้ำเสียงอ่อนแรง เหมือนคนที่ป่วยหนักกำลังรอความตายมาเยือนอยู่
แล้วมองไปยังกู้ชูหน่วน เขาเป็นคนแก่เดินขายังสั่นเลย มองเขาด้วยสายตาที่ร้องขอ
คนแบบนี้ ไม่มีทางเป็นคนเล่ห์เหลี่ยมที่องค์ราชินีตามหาแน่นอน
“ถึงเขาจะเป็นโรคฝีดาษ ด้วยขาที่พิการของเขา จะออกเมืองก็ไม่ได้”
“พวกเราไม่ออกเมือง พวกเราจะเข้าเมือง พวกเราอยากเข้าเมืองไปหาหมอ”
“งั้นก็เข้าไปเถอะ”
พวกทหารตกใจจนอ้าปากค้าง
“ใต้เท้า พวกเขาเป็นโรคฝีดาษนะ”
“หมู่บ้านไป่ฮัวไม่มีโรคติดต่อ พวกเขาไม่มีทางเป็นฝีดาษแน่นอน”
“แต่……ถ้าเป็นขึ้นมาล่ะ ใต้เท้า ในเมืองมีชาวบ้านนับหมื่นเลยนะ……”
“พาพวกเขากลับไปแล้วเฝ้าให้ดี หาหมอมารักษาให้พวกเขา แล้วอย่าเข้าใกล้พวกเขามากเกินไป”