อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่1232 สะบัดสะบิ้ง
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่1232 สะบัดสะบิ้ง
อยู่กับนางนานๆเข้า เย่จิ่งหานพยายามควบคุมอารมณ์ให้สุดความสามารถ
แต่ทว่าทุกครั้งเขาก็โกรธจนแทบสำลักเลือด
“ถ้าข้าเป็นสามีของเจ้า ข้าก็จะเลิกกับเจ้าเหมือนกัน ทั้งโง่ทั้งช้าทั้งผอม จับตรงไหนก็ไม่มีเนื้อเลย”
“เหอะ ปากเจ้านี่มันร้ายขึ้นเยอะเลยนะ ถ้าความสามารถเจ้าแกร่งมากพอกับปากของเจ้า เจ้าจะโดนคนเอาเปรียบได้ง่ายเหรอ?”
“ข้าโดนคนเอาเปรียบเมื่อไหร่กัน?”
“เวินเส้าหยีทำร้ายเจ้า ราชินีก็ทำลายเจ้า ยังถอดเสื้อผ้าเจ้าแล้วเชยชม จิ๊ๆๆ……”
“ปัง……”
แรงอาฆาตหนึ่งตบมาอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเกือบโดนเขาตบจนตาย
นางลูบหน้าอกอย่างหวาดกลัว มองดูกู้ชูหน่วนด้วยสายตาที่โกรธแค้น
“เหอะ สู้คนอื่นไม่ได้ ก็มาพาลใส่ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตไว้งั้นเหรอ เจ้านี่มันมีความสามารถจริงๆเลยนะ ข้าสู้ไม่ได้หรอก”
“ถ้าเจ้าพูดมากอีก ระวังข้าจะฉีกปากเจ้า”
“ได้ อย่างไรทุกคนก็รู้ดี ในเมื่อเจ้าไม่อยากให้ข้าพูด งั้นข้าไม่พูดก็ได้”
“……”
“หยุดรถ”
เย่จิ่งหานลากเถาวัลย์กลับมา บังคับให้กู้ชูหน่วนหยุด
สายตาของเขาเย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธ
“ข้าจะขอย้ำอีกครั้งนะ ข้ากับราชินีอำมหิตนั่นไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“อืม……”
กู้ชูหน่วนพยักหน้า แต่สายตากลับไม่เชื่อเลยสักนิด
แต่กลับให้ความรู้สึกว่าเย่จิ่งหานอยากปกปิดอะไรบางอย่าง
เย่จิ่งหานโมโหจัด พร้อมที่จะระเบิดได้ทุกเมื่อ
กู้ชูหน่วนก็ถึงพูดว่า “เจ้าจะอธิบายกับข้าทำไม”
เย่จิ่งหานอึ้ง
นั่นสิ เขาจะอธิบายกับนางทำไมนะ?
ทั้งที่นางก็รู้ว่าเขากับราชินีไม่ได้มีอะไรกัน เห็นได้ชัดว่านางกำลังหัวเราะเยาะเขาอยู่
ทำไมเขาถึงกลัวว่านางจะเข้าใจผิดนะ
เย่จิ่งหานเก็บอารมณ์ทั้งหมดไว้ แสยะยิ้มเย็นชา พูดอย่างหยิ่งผยองว่า “ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายชื่อเสียงของข้าเด็ดขาด ถ้าอาหน่วนของข้าได้ยินเข้าจะทำอย่างไร?”
กู้ชูหน่วนหัวเราะออกมา ชี้ไปยังถ้ำภูเขาข้างหน้า
“ช่วงนี้เจ้าไปอยู่ในนั้นก่อน รอเจ้าหายดีแล้วค่อยไปจัดการตัวปลอมนั่นด้วยกัน อาหารกับน้ำข้าจะให้พวกสัตว์เตรียมไว้ให้เจ้า วางใจได้ ที่นี่ปลอดภัยมาก ราชินีตามหาเจ้าไม่ได้หรอก”
เย่จิ่งหานก็ถึงรู้ตัวว่า พวกเขาเข้ามาในถ้ำลึกแล้ว
ถ้ำไม่ใหญ่มาก ถูกเถาวัลย์ล้อมเอาไว้ ถ้าไม่สังเกตดีๆก็คงดูไม่ออก
และที่นี่อยู่ในที่รกร้าง คนทั่วไปคงไม่มาที่นี่กัน
และไม่มีใครรู้ว่าพวกเขามาอยู่ในเมืองแล้ว
เย่จิ่งหานถาม “แล้วเจ้าล่ะ?”
“ข้าจะไปทำธุระก่อน”
“ให้เวลาข้าหน่อย ข้าจะไปพร้อมกับเจ้า”
“เวลามีจำกัด ข้ารอได้ นางเดินเร็วมาก พริบตาเดียวก็หายไปจากสายตาของเย่จิ่งหานทันที
เย่จิ่งหานรู้สึกสลด
อยู่กับนาง ถึงแม้จะถูกนางยั่วโมโหบ่อยๆ แต่เขาก็รู้สึกอิ่มเอมใจ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่รู้สึกเหงา
และพอนางไปแล้ว โลกก็เหมือนกลับมาเงียบเหงาเหมือนตอนที่อาหน่วนตายไป
ความเงียบงันเป็นเหมือนแอ่งน้ำนิ่ง ไร้ชีวิตชีวา ไร้ซึ่งลมหายใจ
นางกำลังพูดถึงเขา เซียวหยู่เซวียนสินะ
ความหึงปรากฏขึ้นในจิตใจ
เย่จิ่งหานกัดฟันกรอด
เขาเป็นอะไรไปนะ
ตัวเองชอบอาหน่วนแท้ๆ
ทำไมถึงสนใจมู่หน่วนล่ะ
เขาจะรวมพวกนางเข้าด้วยกันไม่ได้ สองคนนี้เป็นคนละคนกัน
กู้ชูหน่วนมองดูสามแยก กัดฟันตัดสินใจเดินไปทางซ้าย
นางรีบเดินไป ไม่นานก็ถึงบ้านตระกูลเวินแล้ว
ตระกูลเวินมีสี่เผ่าใหญ่ มีการปกป้องที่แน่นหนา เรือนหลังใหญ่ นางไม่รู้ว่าควรจะบุกดีไหม