อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่1242 ถอนหมั้น
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่1242 ถอนหมั้น
หยางม่านกังวลใจมาก
นางกลัวฝ่าบาทโกรธแล้วจะประหารตระกูลเวิน
สายตาที่เย็นชาของราชินีประกายไปด้วยความเยือกเย็น “งั้นเจ้าก็ไปตายเถอะ”
เวินเส้าหยีแสยะยิ้มเย็นชา “ข้าตายไป เจ้าก็จะไม่ได้พลังของข้าไปนะ”
“เจ้ารู้เยอะจริงๆเลยนะ”
“ขอบคุณที่ชม”
ทันใดนั้นราชินีก็หัวเราะเสียงดัง หัวเราะจนน้ำตาไหล นางมั่นใจอย่างมาก
“เจ้าทำให้ข้าตกใจไม่ได้หรอก เจ้าเป็นหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่นแล้ว ถึงแม้จะคิดหาทางรวบรวมวิญญาณทั้งเจ็ดดวงได้ ตามหาอาวุธวิเศษที่เปิดช่องอากาศได้ ก็เพื่อทำลายล้างเผ่าหยก แก้แค้นแทนพ่อและชาวเผ่าเทียนเฟิ่นทุกคนไม่ใช่เหรอ? ถ้าเจ้าตายไป ทุกอย่างก็จะหมดประโยชน์ทันที”
พวกขุนนางแคว้นปิงไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกันอยู่
แต่คนของเผ่าเทียนเฟิ่นได้ยินแล้วก็ตกตะลึงมาก
ราชินีรู้เยอะขนาดนี้ได้อย่างไร?
นางเป็นใครกันแน่?
แม้แต่เวินเส้าหยีที่ใจเย็นมากแล้ว ก็ยังรู้สึกตกตะลึง
เย่จิ่งหานเซียวหยู่เซวียนกับมู่หน่วนไม่มีทางพูดอะไรกับนางแน่นอน
ฝูกวงเลว่อิ่งก็ยิ่งไม่มีทางพูดเรื่องพวกนี้กับนางแน่
นางจะต้องเคยไปทวีปเย่หยู่ หรือไม่ก็เกี่ยวข้องกับทวีปเย่หยู่แน่นอน
พวกผู้อาวุโสเผ่าเทียนเฟิ่นทนต่อไปไม่ไหว ต่างก็ลุกขึ้นถามราชินีว่ารู้ได้อย่างไร
เวินเส้าหยีกลับชิงพูดขึ้นก่อน
เขายังคงนอบน้อม สง่างามไม่ใจร้อน
“ในเมื่อฝ่าบาทรู้แล้ว ก็น่าจะรู้ว่าข้าต้องการวิญญาณนั้น พวกเราแต่งงานกันก็เป็นแค่ข้อตกลง ท่านให้วิญญาณแก่ข้า พวกเราแต่งงานกันแล้ว ถ้าท่านไม่ให้ข้า ถึงท่านจะเป็นราชินี ถึงท่านจะเป็นยอดฝีมือระดับเจ็ด พวกเราเผ่าเทียนเฟิ่นก็ใช่ว่าจะกลัวท่าน”
ฮือฮา……
ทุกคนซุบซิบกัน
รา……ราชินีเป็นถึงยอดฝีมือระดับเจ็ดเลยเหรอ?
เป็นไปได้อย่างไรกัน?
เวินเส้าหยีเข้าใจผิดหรือเปล่า
วิญญาณ?
วิญญาณอะไร คนตายแล้ววิญญาณก็ต้องหายไปด้วยไม่ใช่เหรอ?
หรือว่าจะเก็บวิญญาณไว้ได้ด้วย?
หยางม่านรู้สึกหมดแรงทำอะไรไม่ได้
นางหวังอยากช่วยเวินเส้าหยี แต่นางกลับฟังที่พวกเขาพูดไม่รู้เรื่องเลย
“แต่งงานกับข้าเป็นหน้าที่ของเจ้า และเป็นหน้าที่ส่วนหนึ่งของเผ่าเทียนเฟิ่นด้วย”
“เจ้าลองถามคนในเผ่าข้าสิ หน้าที่สำคัญ หรือชีวิตของข้าสำคัญกว่า” เวินเส้าหยีชี้ไปยังทุกคนในเผ่าเทียนเฟิ่น
ถึงแม้การแต่งงานกับราชินีจะเป็นคำสั่งสุดท้ายของหัวหน้าเผ่าคนก่อน และเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่พวกเขาไม่อาจปฏิเสธได้
แต่หัวหน้าเผ่าเป็นเหมือนบุคคลสำคัญที่สุดในใจของพวกเขา
ทุกคนตะโกนขึ้นพร้อมกัน เสียงดังทั่วทั้งตำหนัก “น้อมรับคำสั่งหัวหน้าเผ่า”
ราชินีแสยะยิ้ม “ดูแล้วสาขาย่อยของเผ่าเทียนเฟิ่นก็ได้แค่นี้สินะ พวกเจ้าคงลืมความชอบธรรมและคำสัญญาของเผ่าใหญ่ไปแล้ว”
รองหัวหน้าเผ่าลุกขึ้น โค้งคำนับ แล้วพูดขึ้นว่า “ฝ่าบาท ในเมื่อมีวิญญาณนั้นเป็นสินสอด ให้ตอนไหนก็เหมือนกัน ท่านเอาสินสอดออกมาตอนนี้ แล้วค่อยทำพิธีแต่งงานดีหรือไม่?”
“เจ้าบังคับข้าเหรอ?”
“มิบังอาจ”
“วันนี้ข้าจะไม่ให้วิญญาณเด็ดขาด ข้าจะแต่งงานเข้าเรือนหอกับเวินเส้าหยีก่อน พวกเจ้าจะทำอะไรข้าได้?”
เวินเส้าหยีกวาดตามองทุกคน สุดท้ายก็มองไปยังรองหัวหน้าเผ่า
“วันนี้ฝ่าบาทผิดคำสัญญาก่อน ไม่ใช่ว่าข้าไม่ยอมแต่งงานกับนาง ข้าเป็นคนรักษาคำสัญญา ฝ่าบาทกลับไม่รักษา ขออภัยที่ข้าไม่สามารถแต่งงานกับฝ่าบาทได้”
รองหัวหน้าเผ่าขมวดคิ้ว
เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร หัวหน้าเผ่าทำทุกอย่าง ก็เพื่อที่จะไม่ต้องแต่งงานกับนาง
และตอนนี้……
ในตอนที่รองหัวหน้าเผ่าลังเลนั้น ราชินีก็ตบไปยังเวินเส้าหยี ถ้าไม่ใช่เพราะเวินเส้าหยีไหวพริบเร็ว คงจะโดนตบจนตัวกระเด็นแล้ว
เวินเส้าหยีหลบไปได้ แต่คนด้านหลังของเวินเส้าหยีกลับหลบไม่ทัน พวกเขาสำลักเลือดล้มกันเป็นแถม นับแล้วก็สิบกว่าคน