อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่752 พิษคำสาปเลือดของเย่จิ่งหานกำเริบ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่752 พิษคำสาปเลือดของเย่จิ่งหานกำเริบ
“อินเอ๋อร์……ทำไมเจ้าถึงโง่แบบนี้……ข้าให้เจ้ามาปกป้องเวินเส้าหยี ไม่ได้ให้เจ้ารับมีดแทนเขา”
กู้ชูหน่วนพยายามห้ามเลือดของนาง เลือดยังคงไหลออกมาจากตัวนางไม่หยุด
นางถูกแทงเข้าหัวใจอย่างจัง ไม่สามารถรักษาได้เลยด้วยซ้ำ แถมวันนี้ยังเป็นวันที่อินเอ๋อร์อ่อนแอที่สุดด้วย แค่มองแวบเดียวกู้ชูหน่วนก็รู้แล้วว่า ไม่สามารถช่วยกลับมาได้แล้ว
อินเอ๋อร์เห็นคนของฮัวฉีหลัวมาถึง แต่ละคนขับไล่ผู้อาวุโสสามกับชาวบ้านออกจากบ้านเล็ก นางก็ถึงฉีกยิ้มออกมาอย่างสบายใจ
นางเอาจี้หยกในเสื้อออกมาด้วยมืออันสั่นเทา จี้หยกนั้นเป็นรูปสลักของกระต่ายตัวหนึ่ง กระต่ายนั้นดูมีชีวิตชีวา พื้นผิวของหยกได้ขัดจนเรียบ เกรงว่าเจ้าของจี้หยกนี้คงจะลูบบ่อยๆ
“พี่……พี่หน่วน นี่เป็นกระต่ายที่พี่แกะสลักให้ข้าเป็นของขวัญวันเกิดตอนอายุสิบขวบกับมือตัวเอง พี่ดูสิ ข้าเอาไว้กับตัวตลอดเลยนะ”
“ถ้าเจ้าชอบ ต่อไปพี่หน่วนจะทำให้เจ้าทุกปีเลยนะ วันละอันก็ได้”
“ไม่ต้องหรอก……ข้ามีอันเดียวก็เพียงพอแล้ว……พี่ไม่ต้องเสียใจนะ ถ้าพี่เสียใจ อินเอ๋อร์ก็จะเสียใจด้วย อินเอ๋อร์รู้ว่าพี่ไม่อยากให้ผู้ชายคนนั้นตาย อินเอ๋อร์ดีใจมากที่ได้ปกป้องเขาแทนพี่”
เวินเส้าหยีก็ถูกแทงไม่น้อยเหมือนกัน เขาปิดบาดแผลไว้แน่น ความรู้สึกที่มีให้อินเอ๋อร์ นอกจากจะเสียใจแล้วก็มีแต่ความเสียใจ
หญิงสาววัยใสที่อายุสิบกว่าขวบ เพิ่งได้เริ่มใช้ชีวิต แต่กลับต้องมาทรมานเพราะพิษคำสาปเลือดของเผ่าเทียนเฟิ่น สุดท้ายเพื่อช่วยเขา ยังต้องมาถูกคนในเผ่าตัวเองฆ่าตายอีก……
เขา……ติดหนี้ชีวิตของนาง……
เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย สิ่งที่เห็นคือไฟที่ลุกโชนตรงหน้า และคนของเผ่าหยกฆ่าฟันกันเอง
ผู้ชายพวกนั้นไม่ก็ดวงตาแดงก่ำและเสียสติ ยกมีดขึ้นฆ่าภรรยากับลูกและเพื่อนๆของตัวเอง ไม่ก็กอดร่างกายตัวเองไว้อย่างเจ็บปวด และตะโกนร้องออกมาสุดเสียงไม่หยุด
ร่างกายของพวกเขาจากภายในสู่ภายนอก ถูกกัดกร่อนไม่หยุด เจ็บจนพวกเขากลิ้งพื้น และยิ่งกว่านั้น น้ำหนองที่ถูกกัดกร่อนก็ไล่ออกมาจากจมูกของพวกเขาไม่หยุด เหมือนตายทั้งเป็นเลยก็ว่าได้
แล้วดูผู้หญิงพวกนั้น ขนาดอยู่ห่างกันมาก ก็ยังได้ยินเสียงกระดูกของพวกนางหักร้าวไปทีละซี่ มีกระดูกลั่นไม่หยุด
ผู้ใหญ่ยังรับแทบไม่ไหว พวกเด็กๆจะรับไหวได้ยังไง เสียงเด็กร้องไห้ดังก้องในหูของเขา วนเวียนอยู่แบบนั้นไม่หยุด
“พุ่ง……”
เวินเส้าหยีกระอักเลือด กุมหน้าอกตัวเองไว้แน่น เจ็บจนเหงื่อไหลไม่หยุด
เขาไม่ได้กระอักเลือดเพราะบาดเจ็บสาหัส หรือถูกแทงจนเจ็บปวดใจ
แต่เจ็บปวดใจแทนชาวบ้านที่บริสุทธิ์ไม่ได้ทำอะไรผิดพวกนั้น
เมื่อก่อนเขาคิดมาตลอดว่าอาการพิษคำสาปกำเริบ จะทำให้คนของเผ่าหยกเจ็บปวดอย่างมาก แต่ไม่คิดว่าจะเป็นนรกบนโลกมนุษย์แบบนี้
ถึงแม้เขาจะเป็นหัวหน้าเผ่าน้อยของเผ่าเทียนเฟิ่น ก็ยังรู้สึกโกรธและแค้นแทนคนของเผ่าหยกเลย
และรู้สึกอับอายและอดสู่แทนบรรพบุรุษของตัวเองด้วย
มีความแค้นอะไรที่ถึงขั้นสาปแช่งทุกคนแบบนี้
“อินเอ๋อร์……อินเอ๋อร์……หลานสาวของข้า ทำไมเจ้าถึงเป็นแบบนี้ ใครแทงเจ้า ใช่เจ้าคนชั่วเผ่าเทียนเฟิ่นหรือเปล่า?”
ผู้อาวุโสไป๋เฉ่ารีบวิ่งเข้ามา เห็นหลานสาวตัวเองนอนจมอยู่ในกองเลือด แทบจะสลบลงไป
ญาติของเขาตายหมดแล้ว เหลือแค่หลานสาวคนเดียว ถ้าหลานสาวของเขาเป็นอะไรไปอีก เขาไม่อยากจะคิดถึงชีวิตหลังจากนี้ของเขาเลย
“ท่านปู่…ข้า……ข้าขอโทษ อินเอ๋อร์ไม่อาจดูแลท่านปู่ได้แล้ว”
“ไอ้สารเลว ข้าจะฆ่าเจ้า……”
ไป๋เฉ่าตะคอกอย่างโมโห พุ่งเข้าไปหาเวินเส้าหยีด้วยรังสีพิฆาต
อินเอ๋อร์ชักแขนเสื้อของเขาไว้ แล้วไอคอกแคกอย่างตื่นเต้น “ไม่……เขาไม่ได้ฆ่าข้า ข้า……ข้าอยากช่วยเขาเอง……”
“ว่า……ว่าไงนะ……”
“ท่านปู่ อย่าโทษพี่หน่วนกับเขาเลย อินเอ๋อร์สมัครใจเอง……พี่หน่วน พี่ช่วยดูแลท่านปู่แทนข้าได้หรือไม่……”
“ท่านปู่อายุมากแล้ว เขา……เขาตัวคนเดียว……คนที่อินเอ๋อร์คิดถึงมากที่สุด ก็คือพี่หน่วนก็ท่านปู่นะ……”
“ได้……” กู้ชูหน่วนพูดเสียงสะอื้น
“ท่านปู่จะต้องปกป้องพี่หน่วนดีๆนะ พี่หน่วนมีชีวิตที่ลำบากมากจริงๆ……”
“ได้ ขอแค่เจ้าไม่เป็นอะไร ปู่จะตกลงเจ้าทั้งหมด”
น้ำตาหยดสุดท้ายของอินเอ๋อร์ไหลออกมาจากหางตา กวาดตามองไปยังชาวบ้านที่กำลังฆ่ากันเองอยู่ข้างนอก มองดูไป๋เฉ่ากับกู้ชูหน่วนอย่างคิดถึง ยิ้มและพูดคำสุดท้าย จากนั้นก็ลาจากโลกนี้ไป
“ข้าจะไปหาพ่อแม่แล้ว พวกเขากำลังเรียกข้า……”
“อินเอ๋อร์……หลานสาวของข้า……”
ไป๋เฉ่ากอดหลานสาวตัวเองไว้แน่น น้ำตาไหลพราก หยดลงใบหน้าของอินเอ๋อร์ กู้ชูหน่วนกับเวินเส้าหยีเห็นแล้วก็อดไม่ได้น้ำตาไหลตาม
กู้ชูหน่วนโซเซลุกขึ้นยืน สบตากับเวินเส้าหยี ความสัมพันธ์ที่เพิ่งจะดีขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ กลับห่างไกลมากขึ้นเพราะเรื่องพิษคำสาปเลือดของเผ่าหยกกำเริบและการตายในครั้งนี้ของอินเอ๋อร์
กู้ชูหน่วนกระชากเวินเส้าหยีที่บาดเจ็บสาหัส ให้เขามองดูภาพการฆ่าฟันกันตรงหน้าดีๆ และพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า
“เจ้าเห็นหรือยัง นี่เป็นฝีมือของเผ่าเทียนเฟิ่นพวกเจ้า ภาพแบบนี้จะเกิดขึ้นทุกเดือน บางทีเดินหนึ่งอาจจะเกิดขึ้นหลายครั้งก็ได้”
เวินเส้าหยีหลับตาลงอย่างเจ็บปวด
กู้ชูหน่วนปล่อยมือออกจากตัวเขา ร่างกายของเขาทรุดล้มลงไปกับพื้น
ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาเห็นกู้ชูหน่วนเข้าไปร่วมรบแล้ว และคอยสั่งการคนนอกเผ่าให้แยกชายหญิงออก อีกด้านก็รวบรวมกำลังคนให้รักษาผู้บาดเจ็บ
เรื่องดำเนินไปตลอดทั้งคืน เลือดนองไปทั่วเผ่าหยก เสียงร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวดไม่ขาดสาย
หลังจากที่ถูกแยกกันแล้ว พวกผู้ชายที่เสียสติก็เริ่มฆ่ากันเอง กู้ชูหน่วนให้คนแยกพวกเขาออกจากกัน แล้วขังเข้าไปในกรงเหล็ก
เวินเส้าหยีนั่งคุกเข่า หยิบพิณหิมะออกมาจากแหวนมิติ นิ้วมือที่อ่อนเสมือนไร้โครงกระดูกวางลงบนสายพิณ
“ตึง……”
เสียงพิณดังขึ้น ไพเราะเสนาะหู เสียงพิณเหมือนดั่งน้ำไหลหลาก ทำให้หัวใจที่เศร้าโศกแตกสลายและแรงอาฆาตอันรุนแรงของชาวเผ่าหยกสงบลง
เพลงนี้มีชื่อว่า เพลงสงบใจ
ไม่ว่าใครที่ได้ฟังเพลงนี้แล้ว ถึงแม้อารมณ์ร้อนแค่ไหน ก็จะใจเย็นลงช้าๆ
เวินเส้าหยีอยากจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น พยายามดึงสติของพวกเขากลับมา
เพลงนี้มีผลดีมาก มีชาวบ้านบางคนเริ่มใจเย็นลง
แต่ทว่า ตอนที่เพลงสงบใจบรรเลงไปถึงครึ่ง ตามด้วยเวินเส้าหยีที่กระอักเลือด ชาวบ้านที่เริ่มใจเย็นลง ก็กลับมาบ้าคลั่งอีกครั้ง
สองมือของเวินเส้าหยีสั่นเทา นานมากก็ยังไม่ดีขึ้น และยังหายใจลำบากอีกด้วย
ตอนที่บรรเลงเพลงสงบใจต้องใช้กำลังภายในเยอะมาก
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาสามารถบรรเลงเพลงได้เรื่อยๆ
แต่ตอนนี้……เขาเสียพลังไปมาก ขนาดเพลงสงบใจก็ยังบรรเลงไม่ได้เลย แต่กลับถูกเพลงนี้ตีกลับแทน
ไม่รอเวินเส้าหยีรู้สึกดีขึ้น แรงอาฆาตอันรุนแรงก็พุ่งเข้ามา
เวินเส้าหยีเงยหน้ามอง ด้วยไหวพริบของร่างกาย เขากลิ้งไปข้างๆ หลบแรงอาฆาตนั้นอย่างรวดเร็ว
“โครม……”
ตรงที่นั่งอยู่เมื่อครู่ก็แตกร้าวออกมาเป็นหลุมขนาดใหญ่ หลุมนั้นยังมีควันลอยออกมาด้วย
สีหน้าของเวินเส้าหยีเปลี่ยนไป นี่มันเป็นพลังที่แข็งแกร่งมากจริงๆ
เขาเงยหน้าขึ้น กลับเห็นคนที่จะฆ่าเขาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเย่จิ่งหาน
แต่เย่จิ่งหานมีอาการดวงตาแดงก่ำ เสียสติ เห็นคนแล้วฆ่าเหมือนกับคนของเผ่าหยกเลย
ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยแรงอาฆาตของเย่จิ่งหานจ้องมองเขานิ่ง เหมือนเห็นเขาเป็นคนตายไปแล้ว และจะทำให้ได้ตามที่คิด
นี่เขา……คิดจะฆ่าเขาเหรอ?