อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่755 พิณหิมะถูกทำลาย
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่755 พิณหิมะถูกทำลาย
ในวินาทีอันตรายนั้น เสียงพิณก็ดังขึ้น
เสียงพิณบรรเลงอย่างเชื่องช้า ดั่งโศกาดั่งบ้าบ่น ความโศกเศร้าวนเวียน บ้างก็เหมือนคู่สามีภรรยาที่จะเข้าเรือนหอแต่กลับถูกบังคับให้แยกจากกัน บ้างก็เหมือนหุบเขาและน้ำพุในหุบเขา ไหลอย่างเชื่องช้าและบริสุทธิ์ น้ำเสียงน้ำไหลหลากไพเราะเสนาะหู
ได้ยินเสียงพิณ เย่จิ่งหานก็ชะงัก เหมือนถูกดึงวิญญาณไป
พวกผู้อาวุโสใหญ่เห็นแล้ว ก็ขยับออกห่างจากเย่จิ่งหานอย่างลำบาก ขณะเดียวกันก็กวักมือเรียกให้ทุกคนวางสุดยอดค่ายกล ไม่ว่ายังไงก็จะปล่อยเจ้ามารร้ายนี่กลับไปไม่ได้ ไม่งั้นคืนนี้เผ่าหยกต้องนองเป็นเลือดแน่
กู้ชูหน่วนถอนหายใจออกมายาวๆ ให้ฮัวฉีหลัวควบคุมค่ายกลสองชีวิตแทนนาง
ฮัวฉีหลัวพูดว่า “พี่หน่วน……ข้า……ข้าทำไม่เป็น ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจะทำยังไง ให้พี่ไป๋จิ่นมาช่วยดีกว่านะ……จิ๊ พี่ไป๋จิ่นพวกนางไปไหนแล้วนะ? เมื่อกี้ยังอยู่ตรงนี้แท้ๆ?”
กู้ชูหน่วนที่คิดถึงแต่เย่จิ่งหาน พอได้ยินฮัวฉีหลัวพูดแบบนี้ กวาดตามองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นไป๋จิ่นกับทูตศักดิ์สิทธิ์อีกสองคนของเผ่าน้ำแข็งเลย
เผ่าหยกเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไป๋จิ่นไม่มีทางไปที่อื่นแน่นอน หรือว่านางกำลังช่วยเหลือคนอื่นๆในเผ่าหยกอยู่
ไม่รอนางคิดอย่างละเอียด ในหมู่ผู้คนไม่รู้ว่าใครกรีดร้องออกมาสุดเสียง เสียงกรีดร้องนั้นกลบเสียงพิณ ทำให้เย่จิ่งหานเสียสติอีกครั้ง
เย่จิ่งหานที่เสียสติอีกครั้ง สิ่งแรกที่ทำเลยนั่นก็คือพุ่งเข้าไปฟาดพิณหิมะของเวินเส้าหยีขาดเป็นสองท่อน
เวินเส้าหยีรีบไปเก็บพิณหิมะขึ้นมา เพราะพิณหิมะนั้นเป็นสิ่งที่แม่ให้เขาไว้ก่อนจะจากไป
และเป็นสิ่งของชิ้นสุดท้ายที่จะระลึกถึงแม่ด้วย หลายปีมานี้เขาเก็บรักษาอย่างดีมาตลอด
มือขวาถูกเย่จิ่งหานจับไว้ เสียงกรอบดังขึ้น แขนข้างขวาถูกเขาบิดจนหักละเอียด
“ซี๊ด……”
เวินเส้าหยีร้องซี๊ดอย่างเจ็บปวด
“เย่จิ่งหาน ปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ”
กู้ชูหน่วนวิ่งไปอย่างเร็ว แต่ทว่า ข้างหน้ายังมีชาวบ้านที่เสียสติไปไม่น้อย พวกเขาขวางทางของนางเอาไว้
กู้ชูหน่วนไม่มีทางอื่น จึงต้องชักดาบออกมาขับไล่พวกเขาออกไป
ภายในบ้านเล็ก หลังจากที่เย่จิ่งหานหักแขนขวาของเวินเส้าหยีแล้ว ก็ตบเขาด้วยฝ่ามือพิฆาตจนกระเด็นออกไปไกล
เขาตบแรงมาก ทำเอาเวินเส้าหยีเสียความสามารถในการสู้ต่อไป
“พลั่ก……”
ถ้าถูกตบจนกระเด็นออกไปไกล เวินเส้าหยีอาจจะยังมีทางรอดอยู่บ้าง
แต่ขาของเขาถูกโซ่หนาล่ามเอาไว้และโซ่นั้นก็ลากเขากลับมา สุดท้ายก็ล้มลงพื้นอย่างแรง
ล้มลงแนบเท้าเย่จิ่งหาน
เย่จิ่งหานไม่ได้ปล่อยเขาไปด้วยเหตุนี้ เขาเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ยกเท้าขึ้นอยากเหยียบเขาตาย
“แขวก……”
ไป๋เฉ่าลากขาขวาของเวินเส้าหยีออกมา ลากเขาไปข้างๆ หลบเท้าของเย่จิ่งหานที่กำลังจะเหยียบลงมา
เวินเส้าหยีแผ่นหลังเย็นวาบ
มองดูหลุมที่เย่จิ่งหานเหยียบลงไป ก็พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “ขอบ……ขอบใจมาก”
“เหอะ ถ้าไม่ใช่เพราะหลานสาวของข้า ข้าก็ไม่ช่วยเจ้าหรอกนะ ฝันไปเถอะ ปลดโซ่ที่ล่ามขาเจ้าไว้ก่อน”
ไป๋เฉ่าโยนกุญแจให้เวินเส้าหยี ให้เขาปลดเอง
สงสารก็แต่เวินเส้าหยี มือขวาของเขาหักไปแล้ว เจ็บจนเขาไม่มีแรงปลดโซ่ออกเอง
ผู้อาวุโสไป๋เฉ่าเห็นแล้วก็อดร้อนใจแทนไม่ได้
เขารู้ว่าตัวเองสู้เย่จิ่งหานไม่ได้ แต่ก็ยังคอยปกป้องเวินเส้าหยี
จนกระทั่งพวกผู้อาวุโสใหญ่วางค่ายกลเสร็จ อยากจะใช้ค่ายกลควบคุมตัวเย่จิ่งหานไว้ ตัวเองถึงจะช่วยเวินเส้าหยีปลดโซ่ที่ล่ามเอาไว้ได้
“พ่อหนุ่ม ข้าจะบอกเจ้านะ หลังจากที่ข้าปลดให้เจ้าแล้ว เจ้าอย่าคิดที่จะหนีไปเชียวล่ะ เจ้าจะหนียังไงก็หนีออกจากเผ่าหยกไม่ได้หรอก”
“ข้าไม่หนีหรอก ท่านวางใจได้”
เสียง ‘แกรก’ ดังขึ้น โซ่ที่ล่ามขาของเขาไว้ก็ถูกปลดออก
ค่อยกลที่พวกผู้อาวุโสสร้างขึ้นก็ถูกทำลาย
ทุกคนสูดหายใจลึกอีกครั้ง
ทลายค่ายกลได้เร็วขนาดนี้เชียว……
วิทยายุทธของเย่จิ่งหานวิปริตแค่ไหนกันนะ?