อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่758 ไปแดนต้องห้ามทำอะไร
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่758 ไปแดนต้องห้ามทำอะไร
“พวกเจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?”
ผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสรองทำหน้ามึนงง
คืนนี้เผ่าหยกเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ พวกเขาแทบจะเอาตัวไม่รอด จะมีเวลาไปจัดการพวกไป๋จิ่นได้ยังไงกัน?
พวกผู้อาวุโสคนอื่นๆก็งงและทำตัวไม่ถูก
กู้ชูหน่วนสีหน้าแย่มาก ทันใดนั้นในสมองก็มีสองคำปรากฏขึ้น
สังเวย
“น้องฉีหลัว ไปกัน ไปที่ห้องหลอมยา”
“ห๊ะ……อืม……”
ผู้อาวุโสใหญ่เหมือนนึกอะไรได้ ลากร่างกายที่ทรุดโทรมนี้ รีบเดินไปที่ห้องหลอมยาอย่างโซเซ แล้วพูดทิ้งท้ายว่า “เจ้าเจ็ด เจ้าสิบ ไป๋เฉ่า พวกเจ้าอยู่จัดการเรื่องที่เหลือนะ คนอื่นตามข้าไป”
“ผู้อาวุโสใหญ่ เจ้าหมาเผ่าเทียนเฟิ่นนี่ล่ะ?”
ผู้อาวุโสใหญ่พึมพำ ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “พาไปที่ห้องหลอมยาด้วย”
ที่นี่วุ่นวายมาก เขาอาจจะคิดทำอะไรไม่ดีอีก กันไว้ดีกว่าแก้ พาเขาไปด้วยปลอดภัยกว่า
เมื่อกี้ยังมีคนอยู่เยอะแยะ พริบตาเดียวก็เหลือแค่ผู้อาวุโสของเผ่าหยกไม่กี่คนแล้ว
เจี่ยงเสวียพยุงเย่จิ่งหานที่เป็นลมล้มลงไป เขาเป็นลมอยู่ แต่สีหน้าของเขายังคงบิดเบี้ยวอย่างเจ็บปวด
เจี่ยงเสวียขอร้องไป๋เฉ่า “ช่วยดูท่านอ๋องให้หน่อยได้หรือไม่ ท่านอ๋องดูเจ็บปวดมากเลย”
“เจ้าดูสิ ตรงนี้มีใครบ้างที่ไม่เจ็บ?”
ไป๋เฉ่าและคนอื่นๆตอบอย่างไม่พอใจ
ถ้าไม่ใช่เพราะหัวหน้าเผ่าสั่งเอาไว้ พวกเขาคงฆ่าเย่จิ่งหานไปนานแล้ว
นึกถึงเมื่อกี้ตอนที่เขาฆ่าผู้อาวุโสเก้า ยังมีชาวบ้านมากมายขนาดนั้นอีก ไป๋เฉ่าและคนอื่นๆก็ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่
ภายในห้องหลอมยา
ตอนที่พวกกู้ชูหน่วนไปถึง ลูกศิษย์ที่เฝ้าอยู่ในห้องหลอมยาก็คุกเข่าทำความเคารพ
“อี้เฉินเฟยกับไป๋จิ่นล่ะ พวกเขาได้มาที่นี่หรือเปล่า”
“ตอบหัวหน้าเผ่า เจ้าสำนักชิงกับจอมมารนำประกาศิตหัวหน้าเผ่าเข้าไปแล้วขอรับ”
“ประกาศิตหัวหน้าเผ่า? ข้าให้พวกเขาเมื่อไหร่?”
“ตอบหัวหน้าเผ่า ประกาศิตหัวหน้าเผ่าของเจ้าสำนักชิงเป็นของหัวหน้าเผ่าคนก่อน ไม่ใช่ของท่านขอรับ”
“แล้วไป๋จิ่นล่ะ” กู้ชูหน่วนเดินเข้าไป พร้อมกับถามไปด้วย
“พวกทูตศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าน้ำแข็งพาลูกศิษย์ร้อยกว่าคนของเผ่าน้ำแข็ง เข้าไปในแดนต้องห้ามแล้วขอรับ”
ฝีเท้าที่ก้าวไปข้างหน้าของกู้ชูหน่วนก็ชะงักค้าง
“เข้าไปแดนต้องห้ามร้อยกว่าคนเหรอ? แดนต้องห้ามของเผ่าหยกอนุญาตให้คนอื่นบุกรุกตั้งแต่เมื่อไหร่? นอกจากพวกนางแล้วไม่มีคนอื่นแล้วใช่ไหม? เช่นผู้อาวุโสเผ่าหยกคนไหนพาเข้าไป?”
“คือ……ไม่มีขอรับ มีเพียงทูตศักดิ์สิทธิ์สามท่านกับลูกศิษย์ร้อยกว่าคน พวกเขาเอาประกาศิตสุดยอดผู้อาวุโสเข้าไปขอรับ”
แดนต้องห้ามที่พวกแม่นางไป๋จิ่นเข้าไปนั้น นอกจากหัวหน้าเผ่าแล้ว ก็มีแค่สุดยอดผู้อาวุโสเท่านั้นที่เข้าไปได้ และหากมีประกาศิตสุดยอดผู้อาวุโส ก็ถือว่าสุดยอดผู้อาวุโสมาเองแล้ว
พวกเขาจะกล้าขวางได้ยังไง
กู้ชูหน่วนไม่รู้เหตุผล
ทุกคนก็ไม่รู้เช่นกัน
ขนาดผู้อาวุโสใหญ่ยังไม่เข้าใจเลย
ถึงจะสังเวยก็ต้องไปทำที่ห้องหลอมยาไหม พวกนางไปแดนต้องห้ามทำไมกัน?
ฮัวฉีหลัวพูดว่า “พี่หน่วน พี่ไป๋หลงทางหรือเปล่า หลงเข้าไปในแดนต้องห้าม? ถ้าพี่ไป๋หลงเข้าไป พี่อย่าโทษนางเลยนะ นางคงไม่ได้ตั้งใจ”
หลงทาง?
จะหลงทางได้ยังไง
ถึงจะหลงทาง แล้วประกาศิตสุดยอดผู้อาวุโสมาจากไหนล่ะ?
และเมื่อเทียบกันแล้ว กู้ชูหน่วนเลือกที่จะไปห้องหลอมยาก่อน แล้วพูดกับผู้อาวุโสใหญ่อย่างเย็นชาว่า
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประกาศิตหัวหน้าเผ่าคนอื่น ประกาศิตสุดยอดผู้อาวุโสรวมไปถึงประกาศิตผู้อาวุโสใหญ่ยกเลิกให้หมด ไม่ว่าใครที่จะเข้าไปในห้องหลอมยาและแดนต้องห้าม ต้องได้รับอนุญาตจากข้าเสียก่อน”
“ขอรับ……”
เดินอ้อมเลี้ยวไปมา ในที่สุดพวกกู้ชูหน่วนก็มาถึงห้องหลอมยาเสียที
“ปัง……”
ประตูใหญ่ถูกเปิดออก สิ่งที่เห็นตรงหน้าก็คือ อี้เฉินเฟยยืนอยู่บนเบ้าหลอมยา กำลังจะโดดลงไป และมีจอมมารเฝ้าอยู่ข้างๆด้วยสีหน้าเศร้าโศก