อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่780 สายเลือด
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่780 สายเลือด
“มุกมังกรลูกที่แปด?” กู้ชูหน่วนเลิกคิ้ว
ผู้อาวุโสเผ่าหยกกับจดหมายลายลักษณ์อักษรที่บรรพบุรุษตกทอดมาไม่ได้บันทึกไว้ว่าต้องใช้มุกมังกรลูกที่แปดนี่……
สุดยอดผู้อาวุโสผิดปกติ เขาถอนหายใจอย่างหมดหนทาง สีหน้าเข้มงวดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“นั่นสิ มุกมังกรลูกที่แปดเป็นลูกที่สำคัญมากที่สุด ก็เหมือนกับสายเลือดของคน ขาดมุกมังกรลูกนี้ไป มุกมังกรลูกอื่นก็แค่……”
“มุกมังกรลูกที่แปดอยู่ที่ไหน? ข้าจะไปหามา ขอแค่เจ้าอย่าบอกข้าว่ายังมีลูกที่เก้า ลูกที่สิบก็พอ”
กู้ชูหน่วนไม่อยากเสียเวลาอีก
สุดยอดผู้อาวุโสส่ายหน้า สักพักใหญ่ก็ถอนหายใจอีกครั้ง มองออกไปยังนอกหน้าต่างห้องประชุมด้วยความรู้สึกหมดหนทาง
“หาไม่เจอหรอก ไม่มีทางหาเจอด้วย”
กู้ชูหน่วนชักสีหน้า ความโกรธในใจก็เพิ่มพูนขึ้นมาอีกครั้ง
“ตาแก่ เจ้าล้อข้าเล่นหรือไง? ข้าล่ะสงสัยจริงๆว่า เจ้าทำยังไงถึงเป็นสุดยอดผู้อาวุโสของเผ่าหยกได้”
“ข้าก็หวังว่าตัวเองจะไม่ใช่สุดยอดผู้อาวุโสเหมือนกัน ถ้าเป็นแบบนี้……ข้าก็ไม่ต้องแบกรับภาระหน้าที่อันหนักอึ้งนี้ ใช้ชีวิตระมัดระวังตลอดเวลา”
คำพูดและสีหน้าของเขาทำให้กู้ชูหน่วนอดไม่ได้ครุ่นคิดขึ้นมา
คนคนหนึ่งโกหกคนอื่นได้ทุกครั้ง แต่สิ่งเดียวที่โกหกไม่ได้คือสายตา
สายตาของสุดยอดผู้อาวุโสทั้งเหนื่อยใจและรู้สึกผิด ดวงตาที่เป็นกังวลคู่นั้นเหมือนกำลังเก็บซ่อนความลับอะไรไว้อยู่ และความลับนี้ก็รบกวนเขามานานหลายปี
“อาหน่วน หลอมมักมังกรไม่ได้หอก เผ่าหยกใช้ชีวิตแบบนี้มานานหลายพันปีแล้ว เรื่องมักมังกร ต่อไปพวกเราอย่าพูดถึงอีกเลย และอย่าหลอมมันอีกเลย”
“เจ้าหมายความว่า……จะยอมแพ้งั้นเหรอ?”
“ใช่”
“เจ้าบอกว่ายอมแพ้ก็ยอมแพ้ง่ายๆงั้นเหรอ งั้นข้าจะลำบากตามหามุกมังกรเพื่ออะไร เสี่ยงอันตรายไปเพื่ออะไร การสละชีพของพี่เฉินเฟยกับพี่น้องเผ่าน้ำแข็งจะนับยังไง?”
นางไม่เชื่อว่าสุดยอดผู้อาวุโสจะไม่เคยเห็นอาการทรมานตอนที่พิษคำสาปเลือดกำเริบ
เขายอมแพ้ได้ แต่นางทำไม่ได้
ตอนนี้คำสาปเลือดในตัวเย่จิ่งหานก็ถูกกระตุ้นแล้วด้วย ทุกเดือนเขาจะต้องเผชิญกับความทรมานจากคำสาปเลือด
นางไม่อยากให้ชีวิตหลังจากนี้ของเย่จิ่งหานเหมือนกับคนอื่นในเผ่าหยก
“หลายปีมานี้ เจ้าคงจะเหนื่อยแย่เลยสินะ”
สุดยอดผู้อาวุโสหกอยากลูบหัวกู้ชูหน่วน แต่กลับถูกนางปัดออกเสียก่อน
นางจ้องมองเขาอย่างเย็นชา และพูดเตือนว่า
“ข้ารู้ว่าเจ้าจะต้องรู้ว่ามุกมังกรลูกที่แปดอยู่ไหน และรู้ว่าทำไมยังถึงจะหลอมมุกมังกรได้ วันนี้ถ้าเจ้าไม่บอกข้า ข้าก็จะฆ่าทุกคนในเผ่าหยกทั้งหมด จากนั้นค่อยฆ่าตัวตาย ยังไงก็ต้องทนทรมานจากคำสาปเลือดอยู่แล้ว สุดท้ายก็ต้องตายทั้งเป็น ก่อนที่จะฆ่าคนที่ตัวเองรัก ฆ่าตัวตายเองยังจะดีกว่าเสียอีก”
“ข้ากู้ชูหน่วนพูดแล้วทำได้แน่นอน ถ้าเจ้าไม่เชื่อ ก็ลองได้ทุกเมื่อ”
สุดยอดผู้อาวุโสขมวดคิ้ว
กู้ชูหน่วนเป็นเด็กที่เขาดูแลมาตั้งแต่เล็กจนโต เขารู้ดีว่านางมีนิสัยยังไง
ถ้าบีบบังคับนางเกินไป นางทำได้ทุกอย่างตามที่พูดไว้จริงๆ
แต่ว่า……
“ข้านับถึงสาม ถ้าเจ้าไม่พูด ระวังข้าจะทำให้เผ่าหยกกลายเป็นนรกบนโลกมนุษย์”
“หนึ่ง……”
“สอง……”
เห็นว่ากู้ชูหน่วนจะนับถึงสามแล้ว สุดยอดผู้อาวุโสก็รีบพูดว่า
“เจ้าอยากรู้จริงเหรอว่ามุกมังกรลูกที่แปดอยู่ไหน”
“ไร้สาระ เจ้าเห็นว่ามีเวลาพูดจาไร้สาระกับเจ้าหรือไง?”
“ก็ได้ ข้าบอกเจ้าก็ได้ มุกมังกรลูกที่แปดก็คือตัวเจ้า”
สุดยอดผู้อาวุโสพูดจบ เขาก็เหมือนถูกสูบพลังไปจากร่างกายทั้งหมด ทรุดตัวลงไปนั่งบนเก้าอี้อย่างหมดแรง
กู้ชูหน่วนอึ้ง
“มุกมังกรลูกที่แปดคือข้า? หมายความว่ายังไง……เจ้าพูดมาให้ชัดเจนเลยนะ”
“ยัยเด็กโง่ เจ้ายังไม่เข้าใจอีกเหรอ? มุกมังกรลูกที่แปดก็คือเจ้าไง เจ้าก็คือมุกมังกรลูกที่แปด ต้องสละชีพของเจ้า คว้านเลือดจากหัวใจของเจ้าออกมา ถึงจะหลอมมุกมังกรได้ และลบล้างคำสาปเลือดได้ในที่สุด”
สุดยอดผู้อาวุโสขอบตาแดงก่ำ
หลายปีก่อน ตอนที่พวกเขารู้เรื่องนี้ก็ตะลึงมากเหมือนกัน
หลายปีมานี้ เขาคิดหาทางดูว่ามีอะไรที่จะแทนมุกมังกรลูกที่แปดได้บ้าง หรือคว้านเลือดจากหัวใจของอาหน่วนออกมา โดยที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตของนาง
แต่เขาจำศีลมานานหลายปี ก็ยังคิดหาวิธีไม่ได้อยู่ดี
ถ้าอยากลบล้างคำสาปเลือด จำเป็นต้องใช้เลือดจากหัวใจของนางเท่านั้น และไม่ใช่แค่เลือดหยดสองหยดจากหัวใจของนางเท่านั้น แต่ต้องเป็นเลือดทั้งหมดจากหัวใจของนาง
เพราะเรื่องนี้ เขากลุ้มใจจนผมขาวโพลน
เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าหามุกมังกรเจ็ดลูกครบแล้ว
แล้วจะไม่รู้ได้ยังไงว่านางหลอมมุกมังกรล้มเหลวมาตลอด
นางใจร้อน เขาก็ใจร้อนเหมือนกัน
ดังนั้นเขาจึงพยายามจำศีลต่อไป เพื่อคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้……
ในที่สุด……
เขาก็หาทางได้แล้ว……
เขายอมสละพลังบำเพ็ญและชีวิตของตัวเอง แต่ก็ทำได้แค่รักษาดวงวิญญาณของนางไว้
ดวงวิญญาณทำให้นางกลับมามีชีวิตอีกไม่ได้
ทำได้แค่ให้วิญญาณของนางอยู่บนโลกนี้ต่อไปได้……
ต่อมา……
เย่จิ่งหานก็บุกเข้ามาและลากเขาออกมา
แถมยังต่อยเขาหนึ่งหมัดด้วย
จนถึงตอนนี้ ตาข้างซ้ายเขายังเจ็บอยู่เลย
กู้ชูหน่วนขาอ่อนทรุดลงไปกองบนพื้น
ร่างกายของนางสั่นเทา ภาพบนทะเลโลหิตปรากฏขึ้นมาในหัวอีกครั้ง
ในทะเลโลหิต นางคว้านเลือดจากหัวใจออกมา และสละชีพตัวเอง……
ที่แท้……
ภาพพวกนี้ก็เป็นเรื่องจริง……
เรื่องราวในฉากสุดท้าย มีเพียงการสละชีพของนาง ถึงจะช่วยทุกคนในเผ่าหยกได้……
นางควรจะนึกได้ตั้งนานแล้ว
ตั้งแต่ที่อี้เฉินเฟยสังเวย นางก็ควรนึกถึงภาพที่อยู่ในทะเลโลหิต จะกลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอนาคตจริงๆ……
“ยัยหนู สีหน้าเจ้าดูไม่ดีเลยนะ ปู่ทำให้เจ้าตกใจหรือเปล่า? พวกเราไม่ต้องคิดเรื่องมุกมังกรแล้วล่ะ เมื่อก่อนใช้ชีวิตยังไง ต่อไปพวกเราก็ใช้ชีวิตอย่างนั้นเถอะ”
กู้ชูหน่วนแสยะยิ้มอย่างขมขื่น
เมื่อก่อน……
นางไม่มีทางกลับไปใช้ชีวิตแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว……
ตอนนี้นางกลัวมาก
กลัวว่าเรื่องในทะเลโลหิตจะเกิดขึ้นจริงๆ
นางกลัวว่าจะตัดขาดจากเซียวอวี่เซวียนท่ามกลางสายฝน
นางกลัวว่าซือโม่เฟยจะช่วยนาง จนผมกลายเป็นสีขาว เสียวิทยายุทธทั้งหมดไป ใบหน้าชราภาพลง……
นางกลัวว่าตัวเองจะฆ่าเย่จิ่งหาน……
นางกลัวว่าจะลบล้างคำสาปเลือดของเผ่าหยกไม่ได้
นางกลัวไปหมดทุกอย่าง
นางไม่ใช่คนขี้ขลาด แต่ตอนนี้……
นางรู้สึกว่าตัวเองหมดหนทาง……หมดหนทางแล้วจริงๆ……
“ยัยหนู……ยัยหนู……ตื่นสิ……เมื่อกี้ปู่พูดเล่น เจ้าอย่าฟังปู่เลยนะ ไปกันเถอะ ปู่พาเจ้าไปกินขนมเปี๊ยะไส้ดอกไม้ที่เจ้าชอบกินกัน”
กู้ชูหน่วนจับแขนของเขาไว้แน่น และพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“เจ้าแน่ใจนะ มุกมังกรลูกที่แปดเป็นตัวข้าจริงๆ? ทำไมถึงเป็นข้าล่ะ?”
“เพราะ……เพราะสายเลือดของเจ้า”
สายเลือด……
ดังนั้น……