อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 22 จุดสิ้นสุดและจุดเริ่มต้นการต่อสู้
ตอนที่ 22 จุดสิ้นสุดและจุดเริ่มต้นการต่อสู้
『SAVE FORM!!! COMPLETE……』
ร่างกายของฉันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นเมื่อครู่พลันหายไป
เมื่อสัตว์ประหลาดที่เรียกตัวเองว่าแอ็กซ์เห็นร่างของฉันเปลี่ยนไปเธอก็ประหลาดใจทันที
「น-นั่นมันอะไรกัน! ทำไมมันถึงต่างไปจากเดิม….! เขาสามเขานั่นก็ด้วย! 」
ฉันตรวจสอบร่างกายตัวเองด้วยการเอามือไปสัมผัสบริเวณหัว มันมีเขางอกขึ้นมาอย่างที่เธอบอก
ร่างกายก็มีเกราะสีขาวติดไว้ส่วนนอกส่วนร่างข้างในเป็นสีดำสนิท
ชิโระได้กลายร่างเป็นหัวเข็มขัด เห็นได้ชัดว่าปัจจุบันรูปร่างของฉันมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
「ถ-ถ้าเป็นแบบนี้ไหวแน่!!」
ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไรแต่ฉันมันใจว่าฉันสามารถสู้กับเธอไหม
เมื่อฉันพูดคำนี้ออกมา อีกฝ่ายก็เหมือนจะตั้งสติได้แล้วเริ่มโจมตี
「ไม่มีทาง แกทำได้ยังไงกันทั้งที่ไม่เหลือความทรงจำแท้ๆ!!」
「ย้าก!!」
ฉันก้าวออกไปข้างหน้าพร้อมกำปั้นของตัวเอง
หมัดของฉันกระแทกเข้าที่อกของอีกฝ่ายเต็มๆ จนทำให้มันกระเด็นไปข้างหลัง
———เต็มข้อ!
「ไงล่ะเอ็ง เล่นฉันไว้ซะเยอะเลยนะ!!」
คำพูดคำจาที่รุนแรงและหยาบคายซึ่งไม่เคยพูดก็ออกมาจากปากฉัน ระหว่างนั้นแขนขาของฉันก็ขยับโจมตีอีกฝ่ายอย่างเป็นธรรมชาติ
แรงถูกส่งไปยังหมัดเพื่อโจมตี
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ต่อยตีกับคนอื่น
ทว่าฉันกลับคุ้นเคยและรู้ว่าต้องโจมตีอีกฝ่ายอย่างไร
「……อุ!? 」
ทำไมกัน?
ทำไมฉันถึงได้ รู้วิธีต่อสู้?
ในขณะที่ฉันรัวหมัดใส่อีกฝ่าย มันก็โต้กลับฉันด้วยการคว้ามือของฉันเอาไว้
「อะไรกัน!? 」
「ถึงจะแปลงร่างได้ แต่แกอ่อนแอลงแล้วจริงๆ ด้วย คิดเหรอว่าหมัดแบบนี้จะทำอะไรฉันได้? 」
มีบางอย่างคล้ายกับเชือกออกมาจากข้อศอกของเธอซึ่งมันมีกระแสไฟฟ้าสถิตอยู่
ฉันรู้ได้ทันทีว่าอันตราย ทว่ามันก็สายเกินไปแล้ว เชือกเส้นนั้นได้เข้ามาปะทะกับร่างของฉันอย่างรุนแรง
「อั๊ก!? 」
ประกายไฟเกิดขึ้นบริเวณหน้าอกของฉัน จนทำให้ฉันกระเด็นกลับไป
ฉันกลิ้งไปมากับพื้นก่อนจะพยายามทรงตัวแล้วลุกขึ้น จากนั้นจึงตรวจสอบอาการบาดเจ็บ ทว่ามีเพียงแค่รอยเล็กน้อยบริเวณหน้าอก
ไม่ได้รู้สึกเจ็บขนาดนั้น
แปลว่าหมัดที่ฉันต่อยเธอไปก็รู้สึกประมาณนี้เหรอ?!
「ฉ-ฉันควรจะทำยังไงดี……」
――ไม่ใช่แบบนั้น
「เสียงนี่มัน!? 」
ฉันได้ยินเสียงลึกลับอีกครั้ง
ตอนแรกคิดว่าแค่หลอนไปเอง แต่ว่า….
「ชิโระ?! นั่นแกเหรอ?!」
ไม่มีเสียงตอบกลับ
ทว่าผู้ที่อยู่เคียงข้างฉันตลอดเวลาก็คือชิโระ
บางทีเขาอาจจะส่งกระแสจิตมาให้กำลังใจฉันก็ได้
ถ้าเป็นแบบนั้นก็น่าจะอธิบายทุกอย่างได้ทั้งหมด
「แกกำลังเหม่ออะไรของแกอยู่? 」
「หา? ดะดะดะดะเดี๋ยว อาวุธนั่นมันอะไรกัน!? 」
ก่อนที่ฉันจะรู้สึกตัว อีกฝ่ายก็ดึงเอาของที่เหมือนเลื่อยไฟฟ้าออกมา
ฉันพยายามหลบการโจมตีของเลื่อยที่ถูกเหวี่ยงไปมาอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะหาจังหวะเตะใส่เธอ
「———อ๊ะ!? 」
「เอ๋? 」
แคร๊ก!! เสียงของชุดที่เธอใส่เกิดแตกทันที ก่อนจะปลิวไปจากจุดที่เธออยู่ประมาณ 10 เมตรได้ แล้วกระแทกลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด
――จงรู้จักอาวุธที่มี
「อาวุธ ของฉัน? 」
…แปลว่าการเตะของฉันมันแรงกว่าต่อยสินะ?
พอยกเท้าของตัวเองขึ้นมาดู ก็พบว่าบริเวณเท้าขวามันมีดีไซน์แตกต่างจากอีกข้างไปเล็กน้อย
ถ้าจะให้อธิบายก็คือมีช่องเหมือนท่อพ่นระบายอากาศติดอยู่ตรงส้นเท้า กับน่อง
『LUPUS DAGGER!!』
「……อ่ะ? เอ๋? หือ!? 」
เสียงดังออกมาจากหัวเข็มขัด ก่อนจะเกิดอนุภาคแสงขึ้นที่มือฉัน
สิ่งที่ปรากฏคือมีดขนาดพอดีมือ
「นี่มัน……」
ใหญ่กว่ามีดปกติประมาณ 2 เท่า ซึ่งตัวใบมีดถูกปกคลุมด้วยพลังงานสีเหลืองประหลาด
ด้ามจับก็ถูกออกแบบมาให้ถือได้ง่ายด้วยมือข้างเดียว มันไม่ใช่มีดธรรมดาที่หาได้ตามร้านแน่
เมื่อกี้อะไรนะลูปัสแดกเกอร์?
หมายความว่าให้ใช้ไอ้นี่สู้เหรอ?
「แกนะแก!!」
「ดะ เดี๋ยวก่อนสิ!? 」
ก่อนจะรู้ตัวอีกฝ่ายก็ฟื้นตัวกลับมาถือเลื่อยไฟฟ้ามาจากโจมตีอีกครั้ง
ฉันจึงจับมันไว้แน่นเพื่อรับการโจมตีของอีกฝ่าย ประกายไฟแห่งการปะทะกันเกิดขึ้น คมมีดของฉันได้สะท้อนเลื่อยไฟฟ้ากลับไปจนเลื่อยเกิดความเสียหาย
ในขณะเดียวกัน ใบมีดของฉันกลับไม่มีแม้แต่รอยข่วน อีกทั้งแสงที่ปกคลุมใบมีดกลับจ้ากว่าเดิม
「เพียงแค่ทีเดียว……!? อาวุธบ้าอะไรของมัน!? 」
「ฉันจะไปรู้เหรอวะ!! ……เอ๋!!」
มีบางอย่างไหลเข้ามาในหัวของฉัน
นี่มัน วิธีใช้สิ่งนี้เหรอ?
เข็มขัดสามารถบอกวิธีการใช้ได้ด้วยสินะ?
「แกได้ยังไงกัน อย่ามาล้อกันเล่นนะเห้ย!!」
「……」
อีกฝ่ายพยายามจะเข้ามาคว้าตัวฉัน ฉันจึงสลับมีดไปที่มืออีกข้างแล้วเหวี่ยงขึ้น
ความเงียบงันเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววิก่อนที่แขนขวาของอีกฝ่ายจะกระเด็นล่องไปในอากาศ ในที่สุดมันก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นหลังของเหลวสีน้ำเงินไหลออกมาจากร่างของมัน
「หะ? อึก? อ้าาา!? 」
ฉันก้าวไปข้างหน้า แล้วฟันเป็นแนวทแยงสลับไปมา
เสียงการโจมตีต่อเนื่องและประกายไฟได้เกิดขึ้นบนร่างของสัตว์ประหลาด จนทำให้มันล้มลงกับพื้นแล้วกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
「รู้วิธีใช้แล้ว」
นี่คือวิธีการต่อสู้ด้วยมีดเล่มนี้
เข็มขัดได้ทำการบอกสิ่งที่จำเป็นต้องทำทั้งหมด
――เอาละ ทีนี้ก็เข้าใจแล้วสินะ
「ชิโระ……!」
ชิโระสอนวิธีการต่อสู้ให้กับฉัน
ทั้งการต่อสู้ระยะประชิดด้วยมีดและการเตะที่รุนแรง
เมื่อรู้ว่าตัวเองสามารถทำอะไรได้บ้าง ฉันก็สูดหายใจเข้าก่อนจะมองไปยังอีกฝ่ายที่พยายามลุกขึ้น
「อ๊าาาาาา!! ยกโทษให้ไม่ได้ๆๆ!!」
「……」
เมื่อมันลุกขึ้นมา มันก็ใช้เชือกที่พุ่งออกมาจากร่างแทนแขนขวาที่หายไป
มันพุ่งเข้ามาหาฉันเป็นจำนวนมากจากระยะไกล
ในขณะเดียวกันมันก็ใช้กระสุนพลังงานยิงออกมาจากไหล่อีกข้าง
「ฟู่ว」
พยายามตั้งสติและลับประสาทสัมผัสให้คมขึ้น
ใช้มีดตัดกระสุนพลังงานที่โจมตีเข้ามา ในขณะเดียวกันก็หลบเชือกที่พุ่งเข้ามาหาด้วย
――ขจัดความคิดไร้สาระทิ้งไป
รู้จักการรุกเข้าออก การสร้างระยะห่าง ความคุมพื้นที่
――ลับคมสมองให้แข็งแกร่งขึ้น
ขยับร่างกายให้น้อยเพื่อผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม
จนในที่สุดฉันก็ใช้หมัดอัดเข้าที่หน้าของมัน
――ตัดกำลังอีกฝ่าย
ในจังหวะเดียวกันก็ฟันสีข้างของอีกฝ่ายด้วยมีด ก่อนจะสลับไปยังมืออีกข้างเพื่อทำลายที่ยิงกระสุนพลังงานบนไหล่
――โจมตีให้แม่นยำ
ใช้มีดฟาดฟันไปมาทำให้ชิ้นส่วนที่ดูอันตรายของอีกฝ่ายถูกทำลาย เมื่อได้จังหวะก็ใช้โมเมนตัมของร่างเตะไปที่สีข้างซ้ำ
――ฟุฟุ ยอดเยี่ยม
「อะ อ๊ากกก……!? ทำไม ได้ยังไงกัน ทั้งที่ข้อมูลของฉันมีเยอะกว่าแท้ๆ ……!!」
อย่างที่คิด พลังเตะนั้นรุนแรงกว่าหมัดหลายเท่า อีกฝ่ายกระเด็นออกไปซะไกลเลย
อีกฝ่ายพยายามลุกขึ้นยืนก่อนจะกรีดร้องอีกครั้ง จากนั้นจึงพยายามใช้พลังบางอย่าง
「ถ้างั้นก็ลองรับกระสุนแรงโน้มถ่วงดูซะสิ!!……!!」
「……!」
ฉันยกมีดขึ้นมาเพื่อจะรับการโจมตี ทว่ากลับมีบางอย่างไหลเข้ามาในหัวอีกครั้ง
———。
แบบนี้ก็ได้เหรอ!!
จะไม่เป็นไรใช่ไหม!!
――จัดการเสีย
「ฮ่าๆ! แกน่ะ จบแค่นี้แหละ!!」
ฉันทิ้งมีดแล้วเปิดใช้งานเข็มขัด
กดปุ่มข้างบนเข็มขัดสามครั้งเพื่อใช้งานท่าพิเศษ
『DEADLY!! TYPE LUPUS!!』
ขาขวาของฉันถูกกระแสไฟฟ้าสีแดงปกคลุม ควันประหลาดพ่นออกมาจากท่อพ่นตรงขา
พลังงานที่ปลดปล่อยออกมานั้นทำให้ร่างกายของฉันแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก
「ย้ากกกก!!」
ในขณะที่กระสุนแรงโน้มถ่วงสีดำสนิทถูกปล่อยออกมา ฉันก็พุ่งสวนไปข้างหน้าอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนจะหลบมันได้อย่างง่ายดาย
เมื่อประชิดตัวอีกฝ่ายได้――
「ฮ่า!!」
「ได้ยังไง!!」
ฉันเตะมันขึ้นไปบนท้องฟ้า
เพราะไม่อยากสร้างความเสียหายให้พื้นที่รอบๆ นัก
ดังนั้นบนฟ้าจึงเป็นคำตอบ!!
「ไปกันเถอะ ชิโระ!!」
ฉันส่งแรงไปที่เท้าแล้วกระโดดอย่างสุดแรงจนลอยไปเหนือกว่าร่างของอีกฝ่าย
ก่อนจะทำการตั้งท่าเพื่อพุ่งลงมาเตะอีกฝ่าย ออร่าสีขาวได้ปะทุออกมาขาขวาและหลังของฉัน ความเร็วที่พุ่งลงมานั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ลูกเตะของฉันเข้ากระแทกกับลำตัวของอีกฝ่ายเต็มๆ
「ย้ากกกกก!!」
『BITING! CRASH!!』
「มะ ไม่จริงน่า นี่ฉันจะ――」
แรงกระแทกมหาศาลได้เจาะทะลวงร่างของอีกฝ่ายทันที
วินาทีต่อมาที่ฉันไถลตัวลงพื้นอย่างปลอดภัย ก็เกิดเสียงระเบิดดังลั่นขึ้นบริเวณข้างหลังของฉัน
「……ฟู่ว」
ถึงพื้นโดยสวัสดิภาพ ก่อนจะหันกลับไปมองจนพบว่าสัตว์ประหลาดตัวนั้นได้พ่ายแพ้ไปแล้ว
ควันได้ลอยคลุ้งไปทั่ว ชิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ ของมันตกลงมาจากฟ้า
ว่าแต่ต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยไหมนะ?
「อีกฝ่ายก็เหมือนจะรู้อดีตของฉันด้วยสิ」
ใจหนึ่งก็อยากจะฟังเรื่องราวซะก่อน แต่อีกฝ่ายก็ตั้งใจฆ่าฉันเต็มที่ด้วยสิ…เห้อคงต้องหาเบาะแสกันใหม่
จากนั้นฉันก็เอามือไปแตะชิโระที่ติดอยู่กับตัวล็อกเพื่อยกเลิกการแปลงร่าง
อีกฝ่ายที่เหมือนเข้าใจเจตนาของฉันก็ปลดตัวเองออกมาจากเข็มขัดทันที
「โห? 」
ชุดเกราะสีขาวที่ปกคลุมร่างของฉันสลายเป็นอนุภาค ก่อนที่ฉันจะกลับสู่ร่างเดิม
แอบกังวลว่าพอแปลงร่างกลับเสื้อผ้าจะหายไปไหม แต่หายห่วง จากนั้นฉันก็ไปอุ้มชิโระที่อยู่ตรงเท้าขึ้น
『โฮก!』
「ขอบคุณนะชิโระ ขอบคุณที่ช่วยเหลือฉันไว้ในตอนลำบาก」
『? โฮก! ฮู้!!』
「ฮ่าๆ กระโดดไปมาเชียวนะ หืม? 」
ฉันเห็นบางอย่างหล่นลงมาที่เท้าของฉัน
พอหยิบขึ้นมาดูก็พบว่ามันเป็นหินที่ส่องแสงอ่อนๆ ออกมา ชิโระที่อยู่ในอ้อมแขนก็อ้าปากแล้วกลืนมันเข้าไปทันที
「นี่แกทำอะไรของแก!? 」
『โฮก』
「เดี๋ยวเถอะ! อย่าไปกินอะไรมั่วซั่วแบบนั้นสิชิโระ!! คายออกมาเดี๋ยวนี้เลย!!」
ในขณะที่ฉันเขย่าร่างของชิโระเพื่อให้มันคายหิน ฉันก็ได้ยินเสียงไซเร็นรถตำรวจกำลังใกล้เข้ามา
บริเวณใกล้เคียงก็เกิดเสียงดังกันขึ้นละสิ
「……แย่แล้ว….เป็นเรื่องใหญ่ละสิ!! รีบกลับกันเถอะชิโระ!」
『โฮก!』
คงแย่ถ้ามีใครมาเห็นเข้า
แค่ความจำเสื่อมก็แย่พออยู่แล้ว ถ้าต้องมาเจอเรื่องสู้กับสัตว์ประหลาดได้อีกคงน่าปวดหัว
นอกจากนี้ตัวตนของชิโระหากถูกใครรู้เข้ามันอาจจะโดนทำอะไรแย่ๆ ก็ได้
ไม่แน่ว่ามันอาจจะถูกนำไปทดลอง
—
「เอาละชิโระ ห้ามบอกพี่ฮาคัวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเด็ดขาดเลย เข้าใจไหม? 」
『โฮก』
พอมาถึงหน้าอพาร์ทเมนต์ที่ฉันอาศัยอยู่ ฉันก็หันไปสบตากับชิโระเพื่อพยายามบอกให้ชิโระไม่ทำอะไรแปลกๆ จนพี่ฮาคัวรู้ตัว
ฉันกลัวว่าเธอจะเป็นห่วงฉันจนเป็นลมไปเสียก่อน ยิ่งถ้ารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วละก็นะ
ดังนั้นฉันจึงต้องปิดมันเอาไว้
「ถ้าเข้าใจพยักหน้ารับหน่อย」
『โฮก』
「โย้ช งั้นก็เข้าไปกันเถอะ」
พวกฉันพยักหน้าให้กัน จากนั้นฉันก็เก็บชิโระใส่กระเป๋าแล้วเปิดประตูห้อง
「กลับมาแล้วครับ!」
ฉันส่งเสียงดังกว่าปกติ พี่ที่ได้ยินก็รีบวิ่งมายังโถงทางเข้าทันที
「คัตซึน……」
「อ่า ครับเป็นอะไรหรือเปล่า? ทำไมพี่ทำหน้าอย่างนั้นล่ะ」
สีหน้าของเธอดูเป็นกังวลอย่างมาก
หรือว่าพี่จะห่วงเรื่องที่ฉันกลับดึกไปเหรอ….
ระหว่างที่คิดเรื่องพวกนี้พี่ก็เข้ามากอดฉันเอาไว้
「อ่ะ!? พ-พี่ฮาคัวเป็นอะไรไปเหรอ!? 」
「……อึกๆ ……」
「หรือผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่า!? 」
ฉันอดสงสัยไม่ได้ที่อยู่ดีๆ พี่ก็เข้ามากอดฉัน แถมยังแน่นกว่าเก่าอีก
หลังผ่านไป 10 วิ พี่ก็เงยหน้าขึ้นมามองฉัน
「นี่! คัตซึนทำไมกลับมาเอาป่านนี้กัน!? 」
พี่ถามด้วยสีหน้าจริงจัง
ตอนนี้ฉันคงต้องพยายามปั้นหน้านิ่ง
แล้วคิดหาข้อแก้ตัว
「อ้อ พอดีว่ากว่าจะเสร็จงานที่มาสเตอร์ขอให้ช่วยก็ดึกแล้วน่ะ」
「จริงเหรอ!? ไม่ได้โกหกกันใช่ไหม? ถ้าโกหกพี่จะโกรธจริงด้วย!!」
แต่ท่าทางของพี่ตอนนี้ก็เหมือนโกรธมากละนะ….
แถมพี่ยังร้องไห้ออกมาอีก ฉันเลยสงสัยว่ามันต้องมีอะไรแปลกๆ แน่
「……มีอะไรแปลกๆ เกินขึ้นเหรอครับ? 」
「……ตามมาสิ」
พี่จับมือฉันไปยังห้องนั่งเล่น
ท่าทางพี่จะยังไม่ได้กินอะไรเลยด้วย ดูจากของบนโต๊ะที่ยังว่างเปล่า
และอีกฟากหนึ่งของทีวีก็ปรากฏภาพของ―――
『ฮีโร่คนใหม่ปรากฏตัวแล้วงั้นหรือ!? เงาดำลึกลับภายในสวน!!』
「……หา? 」
นอกจากพาดหัวข่าวที่ดูเวอร์แล้ว ก็มีวิดีโอที่ถูกถ่ายด้วยโทรศัพท์จากมุมสูงของอาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในบริเวณใกล้ๆ
ในขณะที่ฉันส่งเสียงตกใจออกมา ก็พบว่าพี่กำลังจ้องมองฉันด้วยสายตาอันคมกริบ ก่อนจะกลับไปดูทีวีต่อ
「ย้ากกกกก!!」
『BITING! CRASH!!』
ภาพของสัตว์ประหลาดถูกเตะขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยไรเดอร์ลึกลับที่ทั้งร่างถูกอาบด้วยแสงจันทร์ เห็นแบบนี้ฉันถึงกับไปไม่เป็น
นอกจากภาพแล้วยังมีเสียงด้วย……。
โชคยังดีที่เสียงมันไม่ได้ชัดมากจนแยกว่าใครเป็นใครได้
ร่างนั้นไม่สามารถมองเห็นได้ชัดนักเนื่องจากเงาสะท้อนของแสงจันทร์ ทว่าดวงตาสีเหลืองที่เปล่งประกายในความมืด และคลื่นพลังงานสีขาวที่ไหลผ่านร่างกายกลับสร้างความโดดเด่นเป็นอย่างมาก แม้จะเป็นตัวฉันเองแต่ก็อดตกใจไม่ได้จริงๆ
「น่ะ นี่มันอะไรกัน……」
「นายไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ ใช่ไหม……? 」
「ไม่รู้เลยครับ……」
แย่แล้วสิ ไม่นึกเลยว่าจะถูกแอบถ่าย
โซเชียลนี่มันน่ากลัวจริงๆ
มันคือสิ่งที่ฉันไม่เคยตระหนักมาก่อน การกระทำของฉันมันเริ่มจะย้อนกลับมาหาตัวเองละสิ