อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 24 ทิศทางที่เคลื่อนไป
ทิศทางที่เคลื่อนไป
(มุมฮาคัว)
คัตซึนกับฉันตกอยู่ในสถานการวุ่ยว่ายที่พวกต่างดาวมารุกราน
พวกเราทั้งสองถูกแยกออกจากกันด้วยฝูงชนที่หนีตาย จากนั้นไม่นานก็มีเสียงของผู้คนพูดกันขึ้นมาว่า อัศวินขาวได้ปรากฏตัวขึ้น
「ไม่จริงน่า โผล่มาด้วยเหรอ!?」
「มันก็ต้องแน่อยู่แล้ว เพราะเมื่อวานเองก็เหมือนกันนี่นา!」
「ทำไมพวกเอ็งเรียกอัศวินขาวกันฟะ ดูยังไงมันก็อัศวินดำคุง!」
หากในแง่ของการกู้โลกดูเหมือนอัศวินดำจะมีชื่อเสียงมากกว่าเหล่าจัสติสครูเซเดอร์
หลายคนอยากจะรู้จักเขาให้มากขึ้น ทั้งรูปร่างหน้าตาวิถีชีวิต แต่ก็ไม่มีใครข้ามเส้นที่เหมือนเขาจะขีดเอาไว้มาก่อน
ความวุ่ยวายได้จบลงก่อนที่พวกจัสติสครูเซเดอร์จะมาถึง และอัศวินขาวได้วิ่งหนีฝูงชนกับเหล่าสาวๆที่ไล่ล่าอย่างสุดชีวิต
คัตซึนทำไมยังไม่มาอีกนะ
บางส่วนในใจของฉันยังแอบหวังว่า นั่นจะไม่ใช่เขา
คนที่ถูกเรียกอัศวินขาวต้องไม่ใช่คัตซึน
……ไม่ชอบใจเอาเสียเลย
นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด
ฉันไม่อยากให้เขาต่อสู้อีก
จะดีกว่าไหมหากเขาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขห่างไกลจากการต่อสู้เหมือน 3 เดือนที่ผ่านมา
……ไม่ชอบเลยสักนิด
ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว
ฉันไม่อยากหลอกลวงเขา
เขาจะได้รับความทรงจำกลับมาไหมนะ
หากเขาฟื้นความทรงจำได้ เขาจะยังเขากับฉันหรือเปล่า
หรือเขาจะเลือกต่อสู้แม้จะไม่เหลือความทรงจำเก่า
ฉันไม่รู้เลย
ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นมากมาย ทำฉันกลัวเหลือเกิน
「พี่ฮาคัว」
「หือ……」
ฉันหันไปหาเสียงของใครบางคนที่เรียกชื่อของฉัน
ในมือของเขามีชามกับตะเกียบ แสดงให้เห็นว่าพวกเรากำลังทานข้าวเย็นกันอยู่
มาโบโทฟุสีแดงฉานราดบนข้าวขาว บ่งบอกได้ว่ารสชาติของเต้าหู้นี้เข้ากับข้าวได้ดีขนาดไหน
ฉันนำมันเข้าปากไปเรื่อยๆ โดยที่ใจก็ล่องลอยไปไหนต่อไหน คัตซึนที่เห็นฉันเป็นแบบนั้นจึงแสดงท่าทางกังวลออกมา
「พี่ไม่สบายหรือเปล่า? ปกติจะกิน 3 ชามเลยแท้ๆ แต่นี่ยังแค่ครึ่งเดียวเองนะ หรือกลิ่นไม่ก็ความเผ็ดมันแรงไป? ก็จริงนะว่ารอบนี่มันปรุงค่อนข้างจะหนักไปหน่อย…แต่ก็…」
ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่าทำไมเขาถึงพูดเหมือนฉันเป็นคนกินจุ
ทารกอย่างฉันกำลังอยู่ในวัยเติบโตแท้ๆ
ว่าแล้วฉันก็ยื่นชามให้กับเขา
「ขอเพิ่ม」
「โอ้ส……!」
เขานำชามไปตักข้าวใส่อย่างมีความสุข
เพราะฉันทำอาหารไม่ได้เลย ดังนั้นคัตซึนจึงได้พัฒนาฝีมือในการทำอาหารตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเพื่อดูแลฉัน
ฉันรับชามที่เต็มไปด้วยข้าวมา ก่อนจะดื่มน้ำนิดหน่อย
「……พี่ อันที่จริงแล้ว ผมแปลงร่างได้….」
「อื้อ」
……。
……、……!?
「พร๊วดดด!?」
ฉันตกใจมากจนพ่นน้ำออกมาจากปาก
แรงพ่นนั้นมันพุ่งไปยังหน้าของคัตซึนทันที หยดน้ำจำนวนมากได้หยดลงมาผ่านใบหน้าของเขา
「……พะพะพะพี่ขอโทษ!」
「เอ่อ ไม่เป็นไรครับ เข้าใจดีว่าพี่ต้องตกใจ ผ้าเช็ดหน้า….」
「อะ อื้ม! รับไปสิ!」
ฉันยื่นผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ใกล้ๆให้เข้า
「ที่บอกว่าแปลงร่างได้…หรือว่าเรื่องเมื่อวานกับวันนี้ก็…」
「อื้อ ผมคิดว่าจะไว้เป็นความลับกับพี่ก็คงไม่ดี ผมเลยตัดสินใจว่าบอกไปดีกว่า」
ดาเมจที่ได้รับมันมากกว่าที่ฉันคิดอีก
พอโดนบอกตรงๆแล้วมันทำให้ฉันรู้สึกผิดแปลกๆ เพราะคัตซึนในอดีตไม่มีทางจะซื่อตรงและใจดีขนาดนี้หรอก
ตามที่คัตซึนบอก เหมือนว่าเมื่อวานเขาจะถูกสัตว์ประหลาดที่ไหนไม่รู้มาโจมตี
ชุดที่มันสวมเป็นสีทองคล้ายกับพวกเซนไต ฉันเลยมองว่ามันน่าจะเป็นตัวที่คัตซึนเอาชนะได้เมื่อ 3 เดือนก่อน….แปลว่าตัวที่รอดไปคิดมาแก้แค้นสินะ….
「แย่จริงๆ……」
「อื้อ แต่ต้องขอบคุณชิโระที่ทำให้ผมรอดมาได้ จังหวะนั้นอยู่ดีๆก็มีเข็มขัดพันรอบตัวแล้วชิโระก็แปลงร่างเป็นหัวเข็มขัดน่ะ」
ไม่รู้ทำไมแต่ฉันดันรู้สึกดีใจที่ความทรงจำของเขาไม่กลับมา
ทว่าเรื่องที่เขาต้องถูกบังคับให้ต่อสู้เพราะไม่มีทางเลือกมันก็น่าเจ็บปวด
ดีใจจริงๆที่เขายังปลอดภัย
「ดังนั้น หากมีพวกมันปรากฏตัวขึ้นมาอีก ผมตัดสินใจว่าจะต่อสู้กับพวกมัน」
「ไม่ได้เด็ดขาด!!」
ฉันยืนขึ้นพูดทันที
เขาถึงกับสะดุ้งและมองมาทางฉันด้วยความประหลาดใจ
พอฉันได้สติ ฉันก็กลับมานั่งที่เก้าอี้แล้วพูดต่อ
「พี่ไม่อยากให้นายต้องไปเจอเรื่องอันตราย….」
「น-นั่นสิ ขอโทษครับ ผมพูดอะไรไร้ความรับผิดชอบไปจริงๆด้วย….…」
ทำไมต้องเป็นคัตซึนที่เข้าต่อสู้เสมอล่ะ
ทั้งเมื่อวาน วันนี้ก็ด้วย
ทำไมกัน…
「…พี่ฮาคัว เดี๋ยวผมขอยืมใช้คอมหลังข้าวเย็นได้ไหม?」
「อื้อ แต่จะเอาไปทำอะไรเหรอ?」
ฉันถามเป้าหมายของเขา เขาจึงกอดอกคิดก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าที่จริงจัง
「ผมอยากจะลองหาข้อมูลเกี่ยวกับอัศวินดำน่ะ」
คำพูดดังกล่าวเป็นเหมือนมีดเข้ามากรีดแทงใจของฉัน
เขาอยากจะรู้ถึงตัวตนของอัศวินดำที่เป็นอดีตของเขา
ฉันมองว่ามันจะกลายเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูความทรงจำของเขาอย่างแน่นอน
『เห้ย ไอ้สารเลวนี่!! อย่ามาล้อกันเล่นนะเว้ย!!』
อัศวินดำต่อยพวกสัตว์ประหลาดด้วยความโกรธแค้น
『หุบปาก!!』
อัศวินดำกระโดดเตะหน้าของโลกา
『คุคุคุ แกมาได้แค่นี้แหละโว้ย!!!』
อัศวินดำหัวเราะขณะเอาหัวเขกอัดสัตว์ประหลาด
『ถ้าเอ็งยิ้มไม่ออก เดี๋ยวฉันช่วยยิ้มให้เอง!!』
อัศวินดำใช้มือแทงทะลุร่างของเจ้าตัวยิ้ม
『ฮ่าๆๆ ! ฉันว่าแกไม่ต้องใช้แขนพวกนี้แล้วแหละ!』
อัศวินดำกระชากแขนของสัตว์ประหลาดมือจับ
『เลเซอร์เชี่ยไรเนี้ย เอาคืนไป๊!!』
อัศวินดำจัดการเลเซอร์ที่พุ่งมาก่อนจะสะท้อนมันกลับไป
「……」
เขากำลังนั่งดูวิดีโอที่หน้าคอม
มันเป็นวิดีโอที่รวมมิตรฉากอัศวินดำกระทืบสัตว์ประหลาดอย่างโหดร้าย
นั่นคือสิ่งที่อัศวินดำหรือเขาทำในอดีต
เมื่อเขาได้มาเห็นอะไรแบบนี้ความทรงจำของเขาก็คง―――
「หื้ม…นี่นะเหรอคนที่พวกนั้นพูดถึงกัน….」
「ค-คัตซึน?」
เขาละสายตาจากจอแล้วถอนหายใจอย่างเซ็งๆ
「ผมจะไปเป็นเจ้าหมอนี่ได้ยังไงกัน」
หะ นั่นนายนะ ทำไมถึงบอกแบบนั้นล่ะ
ฉันเริ่มสับสนกับท่าทีของเขา
「จะบอกว่าผมเป็นพวกป่าเถื่อนพูดจารุนแรงขนาดนั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว」
「อ่ะ เอ่อ……」
「ดูวิธีการต่อสู้ของเขาสิพี่ มันป่าเถื่อนเกินไปหรือเปล่า ทำไมถึงต้องพยายามเอาชนะศัตรูด้วยหมัดเพียวๆกันล่ะ ….คือก็เข้าใจนะว่าเขาช่วยเหลือผู้คน แต่มันก็แบบว่า….」
มันเหมือนเป็นความย้อนแย้งในตัวเองแปลกๆ
พอฉันเห็นว่าเขาต่อว่าตัวเองในอดีตแบบดูถูกหน่อย ฉันก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไง
「น้ำเสียงก็ไม่เห็นจะเหมือนผมเลยเนอะพี่?」
「เอ่อ ฉันก็..ว่างั้นแหละ……」
「ใช่ไหมล่ะ」
「……อะ อื้อ」
ฉันแพ้ให้กับความต้องการของตัวเองอย่างเลี่ยงไม่ได้!!
คือไม่ว่าจะฟังจากดาวอังคารฉันก็รู้ว่าเป็นเสียงของเขาอ่ะ แล้วทำไมเขาถึงฟังเสียงตัวเองไม่ออกกันล่ะ แปลกเกินไปไหม?!
「ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมผมถึงได้ถูกเอาไปเทียบกับอัศวินดำคนนี้ แต่คราวหน้านี่แหละผมจะ――」
「คัตซึน」
「จริงสิ ขอโทษด้วยครับ……」
เขาไม่ควรจะต่อสู้อีก
เขาสู้มามากพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปเสี่ยง
แค่เอเลี่ยนพวกนั้น ยังไงจัสติสครูเซเดอร์ก็รับมือได้
「อื้ม……」
และเหตุผลที่ใหญ่ที่สุดก็คือ
ฉันไม่อยากจะอยู่คนเดียวอีก
แม้จะเป็นเพียงความสัมพันธ์อันจอมปลอม แต่สำหรับฉันมันมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใด
—
(มุมเรด)
ฮีโร่คนใหม่ปรากฏตัว อัศวินขาว
ตัวตนของเขาได้สร้างความตกใจให้กับพวกเราเหล่าจัสติสครูเซเดอร์
ครั้งแรกที่ปรากฏตัวเขาได้จัดการเอเลี่ยนสวมชุดสีทอง โดยการเตะทะลุร่างผ่านแสงจันทรา
จากนั้นเขาก็ปรากฏตัวในเมืองแล้วเอาชนะเอเลี่ยนที่บุกมา
ฉันรู้ได้ทันทีว่าเขาคือใคร
แม้สไตลน์การต่อสู้และรูปลักษณ์ของสูทจะต่างกันมาก แต่ท่าทางที่ไม่ลังเลและใช้ร่างของตัวเองเข้าปกป้องเด็กชายที่หนีไปไม่ทัน ไม่มีทางจะเป็นใครไปได้นอกจากคัตสึมิคุง
「เราได้ทำการยืนยันถึงตัวตนของอัศวินขาวผู้ลึกลับนั่นแล้ว สูทของเขาถูกสร้างมาจากองค์กรแน่นอน นอกจากนี้โครงสร้างแกนพลังงานภายในยังคล้ายกับแกนพลังงานของโปรโตสูทอีกด้วย」
ที่สำนักงานใหญ่ของจัสติสครูเซเดอร์ พวกเรานั่งอยู่ในห้องประชุม
ตรงหน้าของเรามีเหล่าเจ้าหน้าที่มากมายนั่งอยู่ โดยตรงกลางมีประธานกำลังชี้ไปยังอัศวินขาวที่ฉายบนโปรเจ็กเตอร์ด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ภาพต่อมาเป็นภาพที่เขาใช้มีดในมือผ่าเอเลี่ยนออกเป็นสองส่วน
「ความสามารถของเขาจัดว่าสูงมาก เขาสามารถจัดการอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดายราวกับปลอกกล้วย 」
「「「……」」」
ทุกคนนิ่งเงียบไป
รูปร่างของเขาหลังแปลงร่างนั้นคือ มีเขาอยู่บนหัวด้วยกัน 3 เขา เข็มขัดก็ต่างออกไปจากเดิม แถบ 3 สีที่อยู่บนร่างเหมือนกับการต่อสู้ชี้ขาดคราวก่อนก็หายไป ราวกับถูกลบออก
「ดังนั้นไม่ว่าจะมองยังไง ไอ้หมอนี่มันก็คัตสึมิคุงชัดๆ!!」
ผ่ามผ๊ามมม ประธานพูดออกมาขณะบ่นถึงสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า
ก็จริง ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนนั่นก็คือคัตสึมิคุง
จะมีใครนอกจากเขาไปได้อีกล่ะ
「แค่เสียงก็ชัดแล้วไหมคะ?」
「รูปร่างท่าทางของเขาก็ด้วย」
「สัมผัสที่6 บอกว่าเป็นเขา」
「บอกตามตรงนะ บางครั้งฉันก็แอบเสียวสันหลังเพราะนิสัยของพวกเธอจริงๆ」
ประธานพูดต่อโดยแสดงท่าทีหวาดกลัวหน่อยๆออกมา
「แล้วทำไมเขาถึงไม่กลับมาหาพวกเราล่ะคะ?」
「ในเวลาแบบนี้ หรือเขาอยากจะเคลื่อนไหวอย่างอิสระไปอีกสักพัก?」
「….ไม่นะ ถึงแม้เขาจะเป็นพวกสมองกล้าม แต่ก็ยังมีหัวคิดพอที่จะรู้ว่าการกระทำของตัวเองมันไม่ได้ช่วยปกปิดอะไรได้เลย สำหรับเหล่าผู้คนที่รู้อยู่แล้วว่าตัวตนจริงๆของเขาคือใคร」
ประธานส่ายหน้าไปมา
นั่นคือเขาจริงๆ ดังนั้นเขาก็ควรจะกลับมาได้แล้วสิ
แต่นี่มัน3เดือน…..ตั้ง3เดือนแล้วนะ ทำไมเขาถึงยังเอาแต่ไปไหนมาไหนมากลับมาสักทีล่ะ
「มาฟังคำพูดสุดท้ายของเขาสิ」
「เอ่อ คือผมไม่ใช่ได้อัศวินดำนะครับ พวกคุณสับสนกับใครหรือเปล่า?!」
ภาพกับเสียงได้ฉายขึ้น
เป็นคำพูดของเขาที่บอกกับคนที่เข้ามาทัก
「หากเขาปฏิเสธมันด้วยน้ำเสียงเคียดแค้นสักหน่อยก็น่าจะพอพูดถึงเรื่องว่าเป็นร่างโคลนอะไรทำนองนั้นได้อยู่หรอก แต่ดันไม่ใช่นี่สิ」
「ดูยังไงนั่นก็คือคัตสึมิคุงค่ะ……」
แค่เสียงมันก็ชัดมาพอแล้วว่านั่นคือเขา
「การจากตรวจด้วยเครื่องคำนวณ รูปร่าง น้ำเสียง และท่าทางที่แสดงออกมา ระบุได้ว่า 93% คือเขาแน่นอน」
「……แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่กลับมา」
「อย่างที่เธอพูด ดังนั้นความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุดก็น่าจะ….」
ประธานแสดงสีหน้าปั้นยากออกมา
「เขาสูญเสียความทรงจำไปเรียบร้อยแล้ว」
「「「……คึก」」」
「นอกจากวิธีการต่อสู้ที่เปลี่ยนไปแล้ว ประสิทธิภาพของสูทที่แสดงออกมาได้ก็ลดลงไปด้วย นั่นก็หมายความว่าปัจจัยต่างๆในตัวเขาไม่ได้เป็นดั่งเดิม เพราะพลังของสูทพวกนี้จะเปลี่ยนพลังภายในให้ออกมาเป็นรูปร่างที่ชัดเจนตามเจตจำนงด้วยสิ」
เขาลืมเรื่องของพวกเราไปแล้ว
นั่นคือความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
เจ็บปวดเหลือเกิน
เขาลืมเรื่องในวันวานของพวกเราจนสิ้น….
「หัวหน้า! ฉันว่าแล้วเชียวเขาน่ะแค่สูญเสียความทรงจำ แต่เดี๋ยวอีกไม่นานตัวเขาก็จะตื่นขึ้นอีกครั้ง ด้วยพลังที่มากกว่า――」
「เจ้าหน้าที่! รีบพาโอโมริคุงที่คลั่งออกไปก่อน!」
「ไม่นะ! ปล่อยฉัน! ปล่อยฉันปายยยยย!」
….คุณโอโมริดิ้นไปมาเหมือนกับปลาขาดน้ำเลย
ก็เข้าใจได้แหละว่าเธอคือคนที่ชอบเอาขนมไปให้คัตซึมิคุงบ่อยๆ ดังนั้นจึงทำใจไม่ค่อยได้ที่ต้องมาสูญเสียเขาไป
……แต่ว่า….ใช่แล้วยังไงคัตสึมิคุงก็ยังมีชีวิตอยู่
แค่นั้นมันก็เพียงพอให้พวกเราก้าวต่อไปแล้วไม่ใช่เหรอ
「อัลฟ่าเป็นยังไงบ้าง?」
「เธอมีอาการซึมๆไปบ้างค่ะ แต่พอได้ข่าวของเขา เธอก็กลับมาดีขึ้น」
「หากเป็นเธอ อาจจะใช้พลังเปลี่ยนการรับรู้แล้วแอบหนีออกไปข้างนอกก็ได้ แต่ถ้าทำแบบนั้นพวกผู้รุกรานก็คง….」
ฉันส่ายหัวให้กับคำพูดของประธาน
「ก็จริงค่ะ แต่ก่อนที่เธอจะทำแบบนั้นได้ฉันได้ใช้สันมือฟาดคอของเธอจนสลบไปแล้ว」
「นี่หล่อนเป็นตัวอะไรกันแน่เนี่ย……?」
ไม่ใช่แค่ประธานแต่สายตาของพวกเจ้าหน้าที่ก็ไม่ต่างกัน
「การรับรู้ของฉันเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่งค่ะ จนฉันลืมไปเลยว่าอัลฟ่าจังเป็นใคร แต่เพราะจังหวะนั้นฉันเชื่อสัญชาตญาณตัวเองก็เลย…」
「ถามจริง……?」
จากนั้นการรับรู้ของฉันก็กลับมา จนฉันตกใจกับสิ่งที่ทำลงไป
ไม่รู้ว่าเพราะผลของการบิดเบือนมันยังอยู่หรือเปล่า
เพราะถ้าอาโออิกับคิราระไม่ตามเข้ามาทีหลัง ฉันลืมไปแล้วว่าตัวเองทำอัลฟ่าหมดสติไปแล้วออกมาจากห้องทั้งอย่างนั้น
「ตอนนี้เซนเซอร์ตรวจการมาของผู้รุกรานยังไม่สมบูรณ์คงต้องรีบหาทางรับมือเอาหน้างานแทนล่ะนะ…เพราะยังไงพวกมันก็ต้องมาอีกแน่นอน」
「การต่อสู้ครั้งใหม่สินะคะ?」
「อ้า ตอนแรกฉันก็ไม่แน่ใจหรอกว่าพวกมันต้องการอัลฟ่าอยู่หรือยังไง แต่พอลองถอดรหัสแปลภาษาที่ผู้บุกรุกคนนี้พูด ก็พบกับเรื่องน่าสนใจเข้า」
「เรื่องน่าสนใจ?」
ฉันเอียงหัวสงสัย จากนั้นประธานก็เปิดเทอมินัลในมือมาให้ฉันดู
เอเลี่ยนที่รูปร่างคล้ายไซบอร์กกำลังพูดกับคัตสึมิคุงในร่างอัศวินขาว
「ลำดับแห่งดวงดารา 458 อากอส ซาคัล」(ผ่านเครื่องแปล)
「ลำดับแห่งดวงดารา?」
「มันคือลำดับความแข็งแกร่งขององค์กรที่ฉันเคยอยู่นะ องค์กรบ้านั่นมันไม่มีชื่อเรียกจริงๆ แต่มันก็เป็นองค์กรที่รวบรวมเอานักรบสุดแกร่งจากทุกเผ่าในอวกาศมารวมกันไว้ ไอ้หมอนี่มันบอกว่าตัวเองอยู่ลำดับที่ 458 บางทีเวก้าที่บุกพวกเราคราวก่อนอาจจะเป็นหนึ่งในพวกมันด้วยก็ได้ห」
องค์กรที่ประธานเคยอยู่……。
คู่ต่อสู้ของพวกเราคราวนี้สินะ?
「ปัญหามันอยู่ต่อจากนี้นี่แหละ」
「หากฆ่าแกได้ลำดับของข้าก็จะสูงขึ้น」(ผ่านเครื่องแปล)
ถ้าเขาฆ่าคัตสึมิคุงได้ ลำดับจะสูงขึ้นงั้นเหรอ?!
หมายความว่ายังไงกัน?! หากเป็นการแก้แค้นก็พอเข้าใจหรอก แต่นี่เพื่อลำดับที่สูงขึ้น!!
「บอกตามตรง ฉันเองก็สับสนเหมือนกัน ในองค์กร มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถเลื่อนลำดับให้กับคนในองค์กรได้」
「เป็นหัวหน้าของคนพวกนี้ทั้งหมดเหรอคะ?」
「จะบอกว่าเป็นหัวหน้าก็ยังไงอยู่ เอาเป็นว่าคนคนนั้นเป็นผู้ที่อยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง สิ่งที่สร้างความสิ้นหวังให้กับทุกชีวิตเป็นไปได้ก็อย่าคิดเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายเลย เพราะตรงปลายทางมีแค่ความตายเท่านั้นแหละ」
น้ำเสียงของประธานบอกได้เลยว่าเขากลัวขนาดไหน
อีกฝ่ายเป็นใครกันนะถึงทำให้เขากลัวขั้นสุดได้
「อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ก็บอกได้แล้วว่าโลกกลายเป็นเป้าหมายของพวกมันที่จะเข้ามารุกรานนับจากนี้」
ฉันเริ่มรู้สึกแล้วว่าบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กำลังค่อยๆเคลื่อนไหว
แต่นั่นมันก็เป็นเส้นทางที่เราต้องเข้าไปเผชิญ
「ไม่เป็นไร พวกเรายังมีหวัง สูทเวอร์ชั่นปรับปรุงของพวกเธอกำลังจะเสร็จในไม่ช้านี้!!」
「!」
「ฉันจะไม่ยอมให้สูทของฉันต้องแปดเปื้อนอีก ใช่..ฉันจะไม่แพ้อีกแล้ว!!」
ดูเหมือนการถูกปลดการแปลงร่างออกไปในคราวก่อนจะสร้างแผลใจให้ประธานมากทีเดียว
หลังจากนั้นเขาจึงเค้นพลังสร้างสูทใหม่แบบเอาเป็นเอาตาย
「นีโอจัสติสเชนเจอร์ ที่ฉันจะมอบให้กับพวกเธอมันต่างจากของเก่าที่แบ่งพลังหนึ่งส่วนให้ออกเป็นสามส่วน ตอนนี้พวกเธอทุกคนจะถือคอร์พลังงานกันคนละชิ้นไปเลย แน่นอนว่ามันสามารถนำมารวมกันเป็นหนึ่งได้ ดังนั้นประสิทธิภาพที่พวกเธอจะนำพลังออกมาใช้ก็จะมากกว่าโปรโตสูท 3 เท่า」
「คงไม่ได้มีปัญหาอะไรแปลกๆตามมาใช่ไหมคะ」
「แน่นอนสิ นอกจากนี้หากได้อาวุธเสริมเข้าไปอีก พวกเธอก็ไร้พ่าย」
เขากล่าวออกมาอย่างมั่นใจ
แต่ไม่นานนักเขาก็กลับมาทำหน้าเศร้าอีกครั้ง
「…ทั้งหมดก็เพราะข้อมูลที่ได้จากโปรโตเชนเจอร์….」
「ประธาน……」
「ไม่ว่ายังไงฉันก็อยากให้เขากลับมาโดยเราที่สุด สหายของฉัน ชายที่ทำให้ภาพในอุดมคติของฉันเป็นจริงขึ้นมาได้」
「……นั่นสินะคะ」
เพื่อจะทำแบบนั้นได้จำเป็นต้องหาตัวเขาให้พบ
แม้จะต้องใช้วิธีที่รุนแรงหากจำเป็นก็ตาม
….เหมือนฉันได้กลับไปอยู่ในยุคที่อัศวินดำต้องต่อสู้เพียงลำพังเลย