อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 25 เมนูใหม่และฟอร์มสีแดง
เมนูใหม่และฟอร์มสีแดง
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วตั้งแต่สู้กับสัตว์ประหลาดในเมือง
หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษเกิดขึ้น ไม่ได้มีเสาแสงหล่นมาจากฟ้าหรืออะไร ฉันยังใช้ชีวิตตามปกติ
วันนี้ฉันก็มาทำงานพาร์ทไทม์ตามปกติอย่างขันแข็ง ตอนนี้เป็นช่วงก่อนเที่ยง ร้านก็เลยไม่มีคนเข้ามาเยอะเท่าไหร่
『CIRCINUS (เซอร์ซินัส) 』
ร้านตั้งอยู่ใจกลางตัวเมืองที่เต็มไปด้วยร้านค้า ส่วนที่น่าประทับใจก็คงเป็นร้านไม่ได้เล็กหรือใหญ่จนเกินไป มันให้ความรู้สึกๆ สบายๆ
『ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่าอัศวินขาวและอัศวินดำมีส่วนเกี่ยวข้องกัน!』
『เกิดเหตุเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของประชาชน หายไปอย่างลึกลับ!!』
『จัสติสครูเซเดอร์ยังไม่ได้มีการแสดงท่าทางใดๆ กับการปรากฏตัวของอัศวินขาว!!』
「มีเรื่องเกิดขึ้นร้อยแปดเลยแฮะ」
ฉันไม่ใช่อัศวินดำหรืออะไรทำนองนั้นอย่างที่ผู้คนเขาเรียกกัน แอบชวนให้รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยพอมีคนมาทัก
「คัตสึกิ ช่วยฉันคิดเมนูใหม่หน่อยสิ」
「ผมน่ะเหรอ? 」
「นอกจากแกแล้วจะมีใครอีกล่ะ พนักงานทั้งร้านก็มีแค่แกนี่นา」
ระหว่างที่กำลังทำความสะอาดโต๊ะเพราะไม่มีลูกค้า มาสเตอร์ที่กำลังเตรียมอาหารในครัวก็พูดขึ้น
「จากเมนูอาหารที่มีอยู่มันก็ดีแล้วนี่ครับ จำเป็นต้องเพิ่มอะไรเข้าไปอีกเหรอ? 」
「ไอ้เจ้านี่ คิดเหรอว่าร้านจะอยู่รอดต่อไปได้ด้วยกาแฟกับเมนูเดิมๆ ถึงกาแฟของฉันมันจะอร่อยขนาดไหนแต่ถ้าไม่มีอะไรใหม่ๆ มาเติมก็ไปไม่รอดหรอก」
「ผมคิดมาสักพักแล้วนะว่าทำไมถึงได้มั่นใจเรื่องกาแฟขนาดนั้น? 」
พูดตามตรงว่ามันก็ไม่ได้เลิศรสอะไร ออกไปทางเรียบง่ายด้วยซ้ำ ทว่าฉันก็ชอบในความเรียบง่ายของมัน
「เอ้า ลองเอาไปดูแล้วคิดมา」
「หือ? 」
พอหยิบเมนูขึ้นมาก็พบว่ายังเป็นเมนูที่เรียบง่าย ไม่ต่างอะไรกับที่มาทานกับพี่คราวก่อนเลย
เมนู
อาหาร
・แซนด์วิช ……¥490
สามารถเลือกไส้ได้ โดยประกอบด้วย แฮม ชีส ทูน่า และไข่
・นโปลิตัน ……¥500
เมนูดั้งเดิมที่มีความเรียบง่าย
・ข้าวไข่เจียว ……¥700
ไข่ที่ห่อหุ้มข้าวและไก่ผัดเอาไว้ภายใน
เมนูแนะนำของร้าน
・ขนมปังปิ้ง ……¥400
สามารถเลือกระดับความหวานและไส้ได้ประกอบด้วย ชีส แยมสตรอเบอร์รี่ ไข่ แฮม
・ชุดอาหารเช้า ……¥500
ขนมปังปิ้ง+ไข่ดาว+สลัด+กาแฟ
※ขายเฉพาะช่วงเช้าเท่านั้น
กาแฟ
・กาแฟเบลนด์ ……¥390
เมนูที่ร้านภูมิใจนำเสนอ!!
(ร้อน/เย็น)
・กาเฟโอแล ……¥430
(ร้อน/เย็น)
เครื่องดื่ม
・โคล่า ……¥250
・น้ำส้ม ……¥250
・ชาอูหลง ……¥250
「ก็ดูเรียบง่ายดีนะครับ」
นั่นคือความประทับใจแรกของฉัน
ราคาก็ถูก ตอนมากับพี่แรกๆ ก็หยิบมาอ่านเป็นบางครั้ง ราคาก็ไม่ได้ขยับไปจากเดิมเลยด้วย
「จุดที่ควรแก้ไขมีไหม? 」
「จุดที่ควรแก้ไขสินะครับ คงจะเป็นรูปภาพประกอบ ผมมองว่าลูกค้าจะสามารถสั่งอะไรได้ง่ายขึ้นจากรูปภาพประกอบ」
「……งั้นเหรอ」
มาสเตอร์พยักหน้า
ถ้าสามารถดูรูปภาพประกอบได้ ก็จะตัดสินใจสั่งอะไรได้ดีขึ้น
「ลองเอาเมนูพิเศษยกไปขายช่วงกลางวันด้วยดีไหมครับ จะไม่ได้ต้องทำอะไรเพิ่มมากด้วย」
「ไม่น่าจะดี ฉันอยากได้การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนกว่านั้น ส่วนตัวฉันมองว่าจะลองเพิ่มพวกแฮมเบิร์กเข้าไปดู」
เปลี่ยนอะไรสักอย่าง
อื้ม
「ถ้างั้น……เซ็ตอาหารกลางวันสำหรับเด็กเป็นไงครับ? 」
「เซ็ตอาหารกลางวันสำหรับเด็ก? ทำไมเราต้องทำเมนูสำหรับเด็กด้วยล่ะ? 」
นั่นสิ แต่มันก็เป็นสิ่งแรกที่โผล่มาในใจของฉัน ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
「ว่ายังไงครับ」
「ฉันว่าตอนที่แกพูดถึงมัน ท่าทางเหมือนคิดถึงมากเลยนะสำหรับคนความจำเสื่อม โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้วยังกินของเด็กกินอีกเหรอ」
「ไม่มีทางที่ผมจะกินหรอกน่า」
「เอาเถอะๆ …เซตอาหารกลางวันสำหรับเด็กสินะ อาจจะไม่แย่อย่างที่คิด พ่อแม่ก็คงพาพวกเด็กๆ มากินที่ร้านได้ด้วย เอาเป็นแฮมเบอร์เกอร์กับไข่เจียวคงพอได้ เอาล่ะ คราวหน้าเดี๋ยวลองเพิ่มขึ้นไปในเมนูละกัน」
「เอาจริงเหรอครับ? 」
「ไปรอดูกระแสตอบรับของลูกค้ามันง่ายกว่ามานั่งคิดเอาเองนี่」
มาสเตอร์หันมายกนิ้วให้ฉัน
「ได้ไอเดียอะไรใหม่มาก็ใช้มันให้หมด ไม่งั้นก็เสียของกันพอดี」
อย่างที่เขาพูด
จากนั้นมาสเตอร์ก็นำพวกวัตถุดิบออกมาลองทำตัวต้นแบบดู
แบบนี้คงได้เห็นเมนูใหม่โผล่ในใบเมนูพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้แน่
「จะว่าไปแล้ว」
「ครับ? 」
「คุณพี่สาวชิราคาวะเป็นยังไงบ้างล่ะ หลังทำงานเมืองนี้มาพักหนึ่ง? 」
「เอ๋ พี่ฮาคัว? เมืองนี้? 」
ฉันรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดของมาสเตอร์ที่ตอกไข่อย่างรวดเร็วในครัว
ไม่เห็นรู้มาก่อนเลย ไม่ใช่ว่าพี่อยู่นี่มานานแล้วเหรอ…..
「เธอย้ายมาอยู่เมืองนี้ก็เพราะมีปัญหาอะไรสักอย่างนี่แหละ…อ๊ะตอนนั้นแกก็เกาะติดเธอมาด้วยนะ」
「ผมน่ะเหรอ……」
「ก็งั้นแหละ…ตอนนั้นพี่สาวชิราคาวะเหมือนคนไม่มีที่ไปเลย ฉันก็เลยให้มาช่วยงานนิดหน่อยนะ」
มาสเตอร์หัวเราะขณะนึกถึงเรื่องในอดีต
「แต่เธอไม่ได้มีนิสัยเหมือนกับนายทั้งปากเสีย หน้าตาไม่รับแขกก็เลยลาออกแล้วไปเก็บตัวอยู่หน้าคอมกับห้องสมุดแทนน่ะ」
「หรือตอนนั้นพี่ตั้งใจจะไปสอบพยาบาล? 」
「……จากที่เห็นคงงั้น」
หลังจากหยุดมือไปพักหนึ่ง
มาสเตอร์ก็หันกลับมามองฉันที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์
「แล้วความฝันของแกเป็นจริงหรือยังล่ะ? 」
「…ทำไมถึงมองผมแล้วถามแบบนั้นล่ะ? 」
「ก็ไม่มีอะไรมากหรอก….เพียงแค่ ครอบครัวคนเรานี่มันก็มีหลากหลายจริงๆ น้อ」
พูดจบเขาก็หันกลับไปทำงานในครัวต่อ
「ก็แค่บอกให้รู้เฉยๆ น่ะ (・・・) เพราะค่อนข้างรู้สถานการณ์ของแกพอสมควรด้วยสิ」
「……? ผมว่าก็คงงั้นแหละ……ไม่งั้นคุณคงไม่จ้างผมที่เสียความทรงจำไปหรอก」
「……พอทำตัวซื่อตรงแบบนี้ มันก็แอบเป็นปัญหาเหมือนกันวุ้ย ฮ่าๆๆ 」
……? บางครั้งฉันก็ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่ามาสเตอร์กำลังจะสื่อถึงอะไร
「คึก」
อยู่ดีๆ ก็มีเสียงระฆังดังขึ้นในหัวของฉัน
ฉันพยามเอามือจับไปยังหน้าผากและทนกับเสียงที่ดังในหัว ชิโระ หมาป่าจักรกลได้วิ่งกระโดดเข้ามาหาฉันจากหลังร้าน
『โฮก!』
「ชิโระ ก็บอกแล้วไงว่าอย่าโผล่มา….」
『โฮก……』
เสียงของมัน เหมือนบอกกับฉันว่าฉันต้องออกไป ออกไปต่อสู้กับบางสิ่ง
――มันกลับมาแล้ว
「……」
――ภัยร้ายที่มาคุกคามความสงบสุข
เสียงของชิโระดังขึ้น
สิ่งที่เหมือนเอเลี่ยนจะมาอีกเหรอ?
「ฉันบอกพี่ไว้…」
――ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเอง
「ตะ แต่ว่า……」
――หากตั้งใจจะทำแล้ว ก็จงทำเสีย
ชิโระพูดด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น
ถ้าฉันไม่ไปจะมีคนเดือดร้อนอีกมากมาย
ด้วยพลังที่มีอยู่ในมือของฉัน ฉันทำใจปล่อยเมินไม่ได้จริงๆ
「มาสเตอร์…คือว่า…ผมขอตัวออกไปข้างนอกเดี๋ยวนะครับ」
「หือ? ได้สิ แต่แกกลับมาก่อนเที่ยงด้วยล่ะ」
「ครับ……」
เสียงในหัวยังดังไม่หยุดตั้งแต่ออกมาจากร้าน
「พวกมันอยู่ไหนกัน……」
『โฮก!』
「หือ? อะไรเหรอชิโระ? 」
ชิโระส่งเสียงร้องออกมาแล้วมองมาทางฉัน ก่อนจะหันไปตรงตรอกเล็กๆ
จากนั้นมันก็อ้าปากเล็กๆ ของมัน ทันใดนั้นเอง แสงสีทองก็ส่องออกมาจากปากของมันแล้ว….
「หาาาาา!? 」
『โฮกกกกก!』
เหมือนกับตอนที่ฉันแปลงร่าง ชิ้นส่วนต่างๆ ได้ปรากฏขึ้นในอากาศ ก่อนจะประกอบร่างกันกลายเป็นมอเตอร์ไซต์ที่ฉันเห็นในวันก่อน
『LUPUS STRIKER!!』
เชี่ย นั่นมันCBR1000RR!?
มอเตอร์ไซต์สองเฉดสีดำขาว ทว่าดีไซน์ของมันกลับล้ำกว่าที่ฉันเห็นเมื่อวันก่อนอีก ตรงส่วนหน้าของรถก็มีเขาทั้ง 3 ติดอยู่เหมือนกับบนหัวของฉันตอยแปลงร่าง
อย่าบอกนะว่าก่อนหน้านี้ชิโระทำการสแกนรถเพื่อนำมาสร้างของใหม่เอง?!
『โฮก!』
「จะบอกให้ฉันขี่เหรอ? แต่ฉันไม่มีใบขับนี่นะ ถึงจะแปลงร่างแล้ว แต่จะให้ฝืนกฎจราจรมันก็….ดะ เดี๋ยวสิอย่าดึงชิโระ เข้าใจแล้วๆ!」
ฉันรู้สึกเหมือนโดนบังคับให้ไปขับ ก็เลยต้องยอมตามน้ำไป
ทันทีที่ฉันคร่อมมัน หมวกกันน็อคเต็มใบก็ถูกสร้างขึ้นแล้วเข้าประกบส่วนหัวของฉันทันที
「โห สุดเยอะเลย….แต่ฉันไม่รู้วิธีขับมันจริงๆ นะ…อ่าว รู้เฉย」
วิธีขับและการใช้งานส่วนต่างๆ ของรถถูกส่งเข้ามาในหัวทันที ไม่นานฉันก็เริ่มบิดคันเร่ง เสียงเครื่องยนต์ก็ดั่งลั่นออกมา
ช่วยไม่ได้สินะ! มาถึงขั้นนี้แล้วคงต้องเลยตามเลย!!
「ชิโระ!!」
『โฮก!!』
『LUPUS DRIVER!!!!』
เข็มขัดได้ปรากฏขึ้นตรงเอวของฉัน ฉันทำการบิดคันเร่งทันใดรถก็พุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว สมรรถนะของมันสูงกว่ารถปกติจริงๆ
「แปลงร่าง!」
『FIGHT FOR RIGHT!!』
ฉันแปลงร่างขณะกำลังขับรถอยู่ ชิ้นส่วนต่างๆ ได้เข้ามาประกอบตัวของฉันเองอย่างรวดเร็ว
「ถ้ามีไอนี่ก็ไม่น่าจะสร้างความเดือดร้อนให้คนบนถนนด้วย!」
『SAVE FORM!!! COMPLETE……』
เมื่อการแปลงร่างเสร็จสิ้น ระบบการทำงานของรถที่ใช้ได้ก็เปิดออก เมื่อกดปุ่มตรงหน้ารถ อนุภาคแสงสีขาวก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากล้อหน้าและหลัง ก่อนจะถักทอให้กลายเส้นทางสำหรับวิ่งบนท้องฟ้า
「——เสาแห่งแสงนั่น……!」
พอได้ขับอยู่บนท้องฟ้า ก็เลยเห็นเสาแห่งแสงได้ง่าย
ระยะทางจากที่ฉันอยู่ก็ประมาณ 10 กิโลได้ ฉันได้ทำการเร่งความเร็วและมุ่งไปยังปลายทางทันที
________________________________________
สัตว์ประหลาดที่โผล่ออกมาจากเสาแสงตรงกลางเมืองนั่น
เป็นสัตว์ประหลาดอ้วน 2 ตัว
โดยลำตัวของมันมีสีดำเทา ส่วนหัวมีเขาคล้ายกับปีศาจ ตอนนี้มันกำลังสร้างมลพิษให้กับพื้นที่รอบๆ ด้วยการพ่นพิษอะไรบางอย่างออกมาจากปาก
「ไอ้เจ้าพวกนั้น……!」
――ครั้งนี้มันมีสอง ต้องระวังตัวหน่อย
เมื่อยืนยันจำนวนของศัตรู ฉันก็ร่อนลงพื้นโดยไม่ได้ชะลอความเร็วของรถลง
『DEADLY!! TYPE LUPUS!!』
――จัดการ
『BITING! ATTACK!!』
「เปิดก่อนได้เปรียบเว้ย!!」
「หา!? 」
ฉันพุ่งเข้าหาสัตว์ประหลาดด้วยความเร็วสูง ก่อนจะทำการเบรกหน้าแล้วหมุนล้อรถข้างหลังที่มีไฟฟ้าสีแดงห่อหุ้มเข้าที่หน้าของมันตัวหนึ่ง
เมื่ออีกฝ่ายโดนอัดเข้าไป ก็ปลิวขึ้นไปในอากาศแล้วระเบิดตูม
「พรี่? ปะ เปงปายม่ายล่าย……」
「ทีนี้ก็เหลือแค่แกแล้ว」
ฉันลงจากมอเตอร์ไซที่สร้างพื้นไฟไปตามล้อที่วิ่งผ่าน แล้วเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาด
――……คุคุคุ
ไอ้ที่ระเบิดไปเป็นแฝดของมันหรือเปล่านะ?
เราเพราะท่าทางของมันดูตกใจมาก แต่ยังไงมันก็เป็นเพียงสัตว์ประหลาดที่หมายจะทำร้ายผู้คน
แม้แกจะเจ็บปวด ฉันก็ไม่รู้สึกสงสารหรอก
「แกนะแก ข้าลามดาบแห่งดวงดารา 303!! เดโมกอล!! สาดตูของพรี่———」
「หนวกหูเว้ย!!」
ฉันทำการเปิดใช้งานท่าพิเศษและกระโดดขึ้นไปหมายจะเตะร่างของมันทิ้ง
อีกฝ่ายแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา แต่เพราะไม่เข้าใจภาษาฉันเลยคิดว่าคุยไปก็เสียเวลาเปล่า
『BITING! CRASH!!』
「ยั่มมาล้อกานเล่น———」
ลูกเตะที่เต็มไปด้วยพลังงาน กระแทกเข้ากับร่างของมัน ก่อนจะทะลวงร่าง
ทั้งที่มันควรจะเป็นแบบนั้นแท้ๆ แต่เท้าของฉันกลับถูกมันคว้าเอาไว้ได้
「ฟางที่คนอื่นเค้าพูดให้โจบบ้างสิว้อยยยยยย!!」
「หา!? 」
ขาของฉันถูกมันเหวี่ยงออกไป มันคงตั้งใจจะฟาดฉันกับพื้น
ฉันจึงทำการใช้ขาอีกข้างแตะนิ้วมือของมันแล้วถอยมา
「ม่ายสนลำดาบแห่งดวงดาราอารายนั่นแล้ว!! ต้องฆ่า!! ฆ่าเท่าน้านนน!!」
「คึก」
ร่างของมันใหญ่กว่าฉันถึงสองเท่า
โชคดีว่ามันค่อนข้างเคลื่อนไหวช้า
ฉันจึงทำการหลบหลีกการโจมตีที่เข้ามาแล้วเตะสวนไป
「หา!? 」
ทว่าการเตะนั้นก็สไลออกจากร่างของมันเพราะยางยืดแปลกๆ ที่ปกคลุมร่างของมันเอาไว้ ราวกับดูดซับและเบี่ยงการโจมตีได้
แม้จะหยิบมีดออกมาฟัน คมของมันก็ไม่อาจทะลวงผิวของอีกฝ่ายได้
「ป่าวปาโหยด!!」
「โถ่เว้ย!? 」
ในขณะที่ฉันล้มและเสียการทรงตัว แขนทั้งสองข้างของมันก็จับร่างของฉันแล้วยกขึ้นมา
ชุดสูทของฉันส่งเสียงกรีดร้องออกมาเนื่องจากแรงบีบอันน่าเหลือเชื่อ
จากนั้นมันก็อ้าปากแล้วพ่นอะไรบางอย่างไปตรงมีดที่ฉันถือเอาไว้
「เชี้ย!? สกปรกชิบ!? 」
สิ่งที่มันพ่นออกมาแข็งตัวทันที และเกาะเข้ากับร่างของฉัน
ร่างกายของฉันค่อยๆ ถูกน้ำลายของมันแช่แข็งไปเรื่อยๆ
ไม่ดีแน่หากปล่อยไว้แบบนี้ ฉันจึงกระแทกมันด้วยขาขวาที่ยังไม่ถูกผนึกเอาไว้อย่างสุดกำลัง โชคดีที่หลุดออกมาได้
「ม่ายป่อยให้หนีหรอก!!」
「โถ่เว้ย!!」
ฉันพยายามคิดว่าจะทำยังไงเพื่อรับมือกับมันดี
การเตะก็ไม่ได้ผล
มีดก็ทะลวงร่างไม่ได้
ร่างกายก็ดันขยับยากเพราะน้ำลายของมัน
หากจะฆ่ามันก็คงต้องเป็นที่พิเศษของ Lupus Striker แต่อีกฝ่ายไม่มีทางยอมให้เกิดขึ้นแน่
「มีอาวุธอะไรที่จะรับมือมันได้หรือเปล่านะ……」
『OK!』
「หา? 」
ดวงตาของชิโระตรงเข็มขัดส่องแสงกระพริบออกมาเป็นสีแดง น้ำเงิน เหลือง เหมือนไฟจราจร
『SALVAGE…→SALVAGE…→SALVAGE…』
ระหว่างที่ฉันกำลังหลบการโจมตีของอีกฝ่าย เสียงก็ดังไม่หยุด
ชิโระคิดจะทำอะไรกันนะ?!
『COMPLETE!!』
「……! แบบนี้นี่เอง ขอบคุณมากชิโระ!!」
วิธีใช้งานของใหม่โผล่ขึ้นมาในหัวฉันทันที
เมื่อรู้แล้วว่าต้องทำอะไร ฉันจึงถอยเว้นระยะออกมาแล้ว สับคันโยกด้านข้างหัวเข็มขัดหนึ่งครั้งด้วยมือขวา
เสียงที่ต่างออกไปจากเมื่อก่อน ดังขึ้นตรงหัวเข็มขัด
『RE:BUILD!! SWORD RED!! → OK? 』
「จัดมา!」
ฉันตอบแบบไม่ต้องคิด ก่อนจะแตะที่ปุ่มบนหัวเข็มขัดเบาๆ
เปลวเพลิงได้เอ่อล้นออกมาจากร่างของฉัน
เพลิงนั้นได้ทำการหลอมละหลายน้ำลายของศัตรูจนหมด อีกทั้งยังแผดเผาอีกฝ่ายที่พุ่งเข้ามาด้วย
「หา!? 」
『CHANGE!! SWORD RED!!』
นอกจากนี้มันยังเปลี่ยนชุดเกราะสีขาวให้กลายเป็นสีแดงอีกด้วย
ฉันใช้แขนที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงนั้นซัดเข้าไปที่ลำตัวของสัตว์ประหลาด
「ฮ่า!!」
「อั๊ก!? 」
เพียงแค่หมัดเดียว สัตว์ประหลาดถึงกับเซจนถอยไป
「ร่างใหม่นี่มันอะไรกัน……!」
พลังโจมตีที่รุนแรง ไฟที่ลุกโชน
พอฉันเอาหมัดที่ชกไปกลับมา ก็ยื่นแขนขวาไปยังความว่างเปล่า
『FLARE CALIBER!!』
ดาบยาวมือเดียวปรากฏขึ้นมาในมือขวาของฉัน
ก่อนจะหันไปหาสัตว์ประหลาดที่กระโดดเข้ามาหาฉัน
「ได้เวลาแก้แค้นแล้วเว้ย……!」
ฉันก้าวไปข้างหน้าหมายจะเอาเอาดาบฟันไปที่ร่างของมัน
มันแสดงสีหน้าสับสนออกมาทันที
หลังหลบการโจมตีของมันได้ ฉันก็ใช้ดาบฟันไปที่สีข้างของมัน จริงอยู่ว่าคมของดาบไม่ได้ผ่าร่างมันเป็นครึ่งท่อน แต่ว่าเปลวไฟก็ได้เผาไหม้ทั้งร่างของมัน
「อ๊ากกกก!? 」
「โดนเข้าให้!!」
『DEADLY!! SWORD RED!!』
จะปล่อยให้ยืดเยื้อไม่ได้แล้ว!!
ฉันเปิดใช้งานท่าพิเศษทันที พลังงานจำนวนมากจากหัวเข็มขัดได้ส่งไปยังดาบ
เปลวเพลิงได้ลุกโชนขึ้นมาเต็มใบดาบ
ฉันจับมันเอาไว้ด้วยมือทั้งสองแล้วเหวี่ยงไปข้างหน้า
「ย้ากกก!!」
『BURNING!! SLASH!!』
เปลวไฟที่ปลดปล่อยออกมาได้คลุมร่างของสัตว์ประหลาดเอาไว้ ก่อนร่างของมันจะระเบิดในวินาทีต่อมา
เมื่อตรวจสอบแล้วว่าอีกฝ่ายถูกกำจัดจริงๆ ฉันก็ถอนหายใจออกมา
「……เหนื่อยชะมัด……」
――ทำได้ดีมาก เด็กดีๆ
「ขอบคุณ……」
ฉันดีใจจริงๆ ที่ได้รับคำชม ทว่าพอสิ้นเสียงนั้น เฮลิคอปเตอร์ลำใหญ่ก็บินมาอยู่เหนือหัวของฉัน
จัสติสครูเซเดอร์ก็สามารถตรวจจับสัตว์ประหลาดเหมือนฉันได้งั้นเหรอ? ความเร็วที่มาถึงก็แอบน่าเหลือเชื่อจริงๆ
「ตอนนี้รีบหนีก่อนดีกวา่」
คิดได้แบบนั้นฉันก็ขึ้นไปขี่มอเตอร์ไซค์
ฉันเอามือลูบไปที่หัวของรถ แล้วสตาร์ทเครื่อง
「เอาละ รีบหนีจากการไล่ล่าก่อนแล้วกัน! ไปเลยชิโระ!!」
บรื้นนนนนน! เสียงเครื่องยนต์ดังราวกับตอบสนองเจตจำนงของฉัน
ระหว่างที่กำลังวิ่งรถไปตามท้องถนนด้วยความเร็วสูงฉันก็มานึกขึ้นได้ว่า เรื่องคราวนี้พี่ต้องรู้แน่ๆ ใบหน้าอันสิ้นหวังของฉันก่อตัวขึ้นภายใต้หน้ากาก แย่แล้วสิ…