อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 35 ผู้กำจัดเหล่าร้าย
ตอนที่ 35 ผู้กำจัดเหล่าร้าย
「พลังนี้คือสิ่งที่ฉันได้มาจากพวกเธอ」
เสียงของใครบางคนพูดขึ้นในฝัน
ความรู้สึกที่ออกมาจากน้ำเสียงคือพึงพอใจและหมดห่วงใดๆ
「ในที่สุดฉันก็สามารถก้าวต่อไปได้สักที จากที่เป็นเพียง——ซึ่งรู้จักแต่การต่อสู้…..แต่เพราะพวกเธอเลยทำให้ฉันได้กลายเป็นมนุษย์กับเขาสักที…ขอบคุณนะ นี่คือทั้งหมดที่ฉันจะให้พวกเธอได้」
พื้นที่โดยรอบมืดมิด
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของฉันก็คือใครไม่รู้
แต่พวกเธอกำลังร้องไห้อยู่
ร้องไห้โดยจ้องมองมายังใครบางคนที่ไม่ใช่ฉัน
「ทำไมนายถึงพูดเอาตอนนี้ละ?คิดจะทำอะไรอยู่ หยุดเลยนะ….」
ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขากำลังจะทำอะไร
แม้มันจะเป็นร่างที่ผ่านจากมุมมองของฉันก็ตาม
「ฝากที่เหลือด้วยล่ะ —–」
ภาพได้มืดลงเมื่อฉันได้ยินเสียงเรียกชื่อของใครบางคน
ความทรงจำนี้เป็นของใครกันนะ
ความเจ็บปวดภายในจิตใจราวกับกำลังเรียกร้องโหยหาบางสิ่ง
「……」
ฉันลุกขึ้นมาจากเตียง
ช่างเป็นฝันที่ดูสมจริงมาก
เกิดอะไรขึ้นกับฉันกันนะ
หรือจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนฉันจะเสียความทรงจำไป
「วันหยุดสิน้า」
ตั้งแต่ฉันได้พบกับผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่าเรด ฉันก็เริ่มฝันแปลกๆ แถมคนที่อยู่ในฝันก็ไม่ใช่ฉันซะด้วย
ไม่รู้เลยว่ากำลังพูดหรือทำอะไรกับใครอยู่
แต่มันก็เป็นฝันที่ดูสนุกสนาน ใช้ชีวิตธรรมดาทั่วไป ทานอาหารนั่งเล่นเกมกับคนอื่นๆ
เนื่องจากวันนี้ฉันกับพี่ไม่ได้ทำงาน
ปกติก็จะพากันออกไปที่ไหนสักแห่ง แต่ว่า….
「ฝนตกซะงั้น」
「ฝนตก」
สภาพอากาศภายนอกไม่เอื้ออำนวย
เสียงน้ำฝนดังก้อง
ระหว่างที่ฟังเสียงฝน ฉันก็เปิดคอมที่ยืมมาจากพี่เพื่อดูนั่นนี่ในเน็ต
「ขอแค่พาพวกเด็กๆ กลับมาได้ ฉันไม่สนหรอกว่าแกจะพูดอะไร แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้แกทำตามใจได้อีก」
「อุ อะ ฮี้!? 」
เรดฟันสัตว์ประหลาดตุ๊กตาทิ้ง
แม้ว่าร่างครึ่งท่อนของเธอจะเปลี่ยนเป็นตุ๊กตาไปแล้ว เธอก็ไม่ได้มีความหวาดกลัวหรือลังเล
「คิดเหรอวะฉันจะสนใจ!」
「แทงข้างหลัง……แกมัน ขี้ขลาด」
เรดพุ่งไปแทงข้างหลังสัตว์ประหลาดที่สวมชุดยูโด
「ลุยกันเลย! อัศวินดำคุง!」
「อย่ามาสั่งกันนะเว้ยยยย!!」
「ล-ล็อกไม่ได้―――!? 」
เรดฟันหัวสัตว์ประหลาดที่เหมือนตัวล็อคทิ้ง ในขณะเดียวกันอัศวินดำก็กระชากร่างของมัน จนกระจายออกไป 3 ส่วน
「ถ้าฟันไม่เข้าก็ทุบให้ยับเลยละกัน!」
「อั๊ค หยุด นะ อุ๊ก!? 」
เรดทำการฟาดสัตว์ประหลาดโคลนด้วยสันดาบของเธอ
เธอคนนี้ คือผู้นำของทีมจัสติสครูเซเดอร์
ใครเป็นคนสอนวิธีการต่อสู้แบบนี้ให้เธอกันนะ
ถ้าจะให้นึกคนที่ต่อสู้แบบเดียวกับเธอก็คงเป็นอัศวินดำ คิดแล้วก็ปวดหัว
「คัตซึน ไปหาอย่างอื่นดูไม่ดีกว่าเหรอ…นั่นมันค่อนข้างรุนแรงไปหน่อยนา เซนเซอร์เต็มจอเลยด้วย….」
「ไม่ได้ตั้งใจดูหรอก…พอดีว่ามันยอดวิวสูงนะก็เลยขึ้นมาแนะนำ」
ฉันปิดคลิปแล้วเอนหลังพิงเก้าอี้ถอนหายใจ
「ถ้าเป็นฉัน คงไม่ไหว」
「หือ? ปะ เป็นอะไรไปเหรอ….ทำไมอยู่ดีๆ ก็พูดแบบนั้น? 」
「ก็แบบว่าถ้าจะให้ผมไปทำอะไรป่าเถื่อนแบบนั้นคิดยังไงก็ไม่น่าไหวน่ะ」
เรดคือคนที่น่ากลัวสุดๆ ในตอนที่เจอกันครั้งแรก แถมจากที่เห็นสัตว์ประหลาดที่เธอเคยต่อสู้ก็แกร่งกว่าตัวที่ฉันเลยสู้ด้วยหลายเท่า
แอบเสียใจที่ตัวเองกลัวแล้วทำเรื่องเสียมารยาทกับเธอจริงๆ
「ควรจะไปพูดคุยกับเธอให้มันถูกต้อง」
「แต่ว่านะคัตซึน การจะหนีออกมาแบบนั้นก็ไม่เห็นจะเป็นไร….」
「ไม่ได้หรอกพี่ ผมต้องทำให้มันถูก……!!」
「พี่ก็ไม่ได้จะบอกว่ามันไม่ดีหรอก แต่ว่า…..」
ก็จริงอยู่ว่าน่ากลัวที่ตัวเธอท่วมไปด้วยเลือด แต่นอกเหนือจากนั้นก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย
ถ้าจิตใจของฉันเข้มแข็งกว่านี้สักหน่อยคงได้พูดคุยกันมากกว่านี้
เพราะนอกจากความกลัวแล้วฉันรู้สึกว่าเธอน่ะ―――
「เท่ชะมัด……!」
「คัตซึน ไปโรงพยาบาลกันดีกว่าไหม!!」
ดูเหมือนพี่จะไม่ค่อยชอบใจแปลกๆ
เมื่อโดนดึงสติกลับมาโลกความจริง ฉันก็จ้องมองไปยังมือของตัวเอง
「ผมอ่อนแอจัง」
「หรือว่ากำลังเอาตัวเองไปเทียบกับพวกจัสติสครูเซเดอร์อยู่? อย่าคิดแบบนั้นสิ นายกำลังเริ่มต่อสู้ได้ไม่นานเองนะ….จะให้เทียบกับพวกเธอที่สู้กับสัตว์ประหลาดมานานแล้วได้ยังไงกัน」
「แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีว่าผมอ่อนแอ」
ฉันบ่นออกมา
พวกเธอแข็งแกร่งกันมาก ทางฉันคงมีแค่ความเร็วในการมาถึงที่เกิดเหตุก่อนเท่านั้น
ถ้าเกิดว่าฉันติดต่อแล้วขอความร่วมมือจากพวกเธอ….
――ฉันว่าแบบนั้นไม่น่าจะดีนะ
――หรือว่า แกไม่เชื่อใจฉันกัน?
นั่นสิ คงจะไปขอความร่วมมือไม่ได้แน่ๆ
จริงอยู่ว่าพวกเธอแข็งแกร่ง แต่ข้อมูลขององค์กรที่พวกเธออยู่เป็นยังไงก็ไม่อาจรู้ได้
คงขำไม่ออกแน่หากเชื่อใจคนอื่นมั่วโดยไม่คิดให้ดี สุดท้ายอาจจะเกิดผลเสียซะเอง
เหนือสิ่งใด พี่สาวของฉันอาจจะถูกเล็งเป้าด้วยก็ได้
「ผมเป็นคนเดียวในตอนนี้ที่สามารถมาถึงจุดเกิดเหตุได้เร็วสุด สิ่งที่ผมทำได้ก็คือการซื้อเวลาปกป้องผู้คน จนกว่าพวกจัสติสครูเซเดอร์จะมาถึง….」
「…………ฝันก็มาตกเอาวันแบบนี้ซะได้……」
จู่ๆ พี่ก็มองออกไปนอกหน้าต่างแล้ว บ่นพึมพำออกมา
「เอาเถอะ งั้นก็มาช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะเอายังไงต่อ ยังไงสองหัวก็ดีกว่าหัวเดียว」
「……นั่นสินะครับ」
『โฮก!』
「ขอโทษที ไม่ใช่สองแต่เป็นสามนี่เนอะ ชิโระ」
นั่นคือสิ่งเดียวที่ทำได้ในวันแบบนี้
ฉันควรทำยังไงดีในขอบเขตที่ตัวเองพอจะทำได้ในตอนนี้
「ตอนนี้ผมสามารถเอาชนะพวกที่มาบุกได้ แต่จะทำยังไงดีล่ะหากมันมีตัวที่สามารถขยายร่างได้แบบสัตว์ประหลาดแมวยักษ์นั่นอีก」
「ดีที่สุดก็คงต้องจัดการมันให้เรียบร้อยก่อนจะขยายร่างได้ แต่จากที่เห็นนายก็พยามใช้ว่าสังหารใส่มันแล้ว แต่สุดท้ายก็ดันขยายร่างได้อยู่ดีสินะ」
ถ้ามันขยายร่างก็จะสร้างความเสียหายให้เมืองหนัก
วิธีการที่ดีที่สุดก็คงเป็นการฆ่ามันให้ตายก่อนจะขยายร่างนั่นแหละ แต่ว่าพูดน่ะมันง่าย ทำน่ะยาก
「….งั้น ถ้าเราสามารถย้ายพวกมันไปที่ที่ไม่มีคนได้ล่ะ? 」
「เป็นแผนที่ดีนะครับ แต่วิธีน่ะสิจะทำยังไง」
『โฮก!』
「หือ? เอ๋!? 」
ระหว่างที่กำลังคิดอยู่กับพี่ ดวงตาของชิโระก็เปล่งแสงออกมาเป็นภาพ 3 มิติฉายไปบนอากาศ
「เหมือนไอรอนแมนชะมัด」
「เทคโนโลยี้จะล้ำไปไหน……」
ฉันกับพี่จ้องไปที่ภาพโฮโลแกรมซึ่งลอยอยู่ในอากาศ
ภายในนั้นมีภาพของLupus Strikerอยู่ด้วย พอเอามือไปสัมผัสดูก็พบว่ามันสามารถขยับไปมาได้ตามแรงของฉัน
「เหมือนกับของเล่นเลยแฮะ」
「คัตซึน ทางนั้นมันอะไรน่ะ? 」
「หือ? 」
พี่ชี้ไปทางกล่องสีแดง เหลือง น้ำเงิน ที่ลอยอยู่ใกล้ๆ
เมื่อฉันบีบนิ้วพยายามดึงมันเข้ามากใกล้ ฉันก็เห็นข้อความที่ติดอยู่ในแต่ละกล่อง
「นี่มัน ARMY BLUE เหรอ? อันที่ใช้ยิ่งสัตว์ประหลาดตัวก่อน」
ใช่แล้ว มันมีข้อความว่าARMY BLUEติดอยู่
เมื่อลองสัมผัสมันซ้ำ กล่องก็แตกกระจายออกแล้วเข้าไปประกอบกับ Lupus Striker
เป็นไปตามที่คาด มันคือเครื่องยิงขีปนาวุธที่ฉันใช้วันก่อน
แต่จากที่เห็นเหมือนมันจะมีอะไรเพิ่มขึ้นมาด้วยนะ
หรือกำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงให้ดีขึ้น?
「ส่วนกล่องข้างๆ Assault RedกับBind Yellow เป็นของที่ใช้ติดกับรถได้เหมือนกันหรือเปล่านะ? 」
「….ชิโระตั้งใจจะบอกว่าหากใช้ของพวกนี้จะสามารถพาสัตว์ประหลาดไปยังที่ที่ไม่มีคนได้เหรอ? 」
ฉันลองกดไปที่กล่องอีกสองกล่องเพื่อตรวจสอบ
กล่องสีแดงเหมือนจะมีความสามารถในการเร่งความเร็ว ส่วนอีกกล่องเป็นอุปกรณ์คล้ายแม่เหล็กตัว U ติดอยู่หน้ารถ
พอตรวจสอบเสร็จก็พอเข้าใจวิธีใช้งานแล้ว
「ชิโระ นายสามารถโหลดแผนที่เมืองจากในคอมมาได้ไหม? 」
『โฮก? 』
「แบบว่าอยากจะตรวจสอบจุดที่พวกมันลงมากัน แล้วก็สำรวจพื้นที่รอบๆ น่ะเผื่อใช้วางแผน」
『โฮกกกก!』
ชิโระส่งเสียงตอบรับ ก่อนจะยื่นหางของมันที่เหมือนสายเคเบิลไปเสียบกับคอม
จากนั้นหน้าจอคอมก็ทำงานโดยอัตโนมัติแล้วข้อมูลแผนที่ต่างๆ ก็ถูกคัดลอกเข้าไปในร่างของชิโระ
『โฮก』
「อื้อๆ เก่งมากๆ เด็กดี」
「ช่างเป็นจักรกลที่ลึกลับจริงๆ เจ้าเด็กนี่….อ๊ะ เดี๋ยวสิ ฉันชมอยู่นะยะทำไมมามองกันแบบนี้….……」
ฉันเริ่มวางแผนในหัวขณะมองแผนที่ที่ชิโระฉาย ส่วนพี่ก็มองฉันโดยไม่พูดอะไร
ที่เหลือก็อยู่ที่ตัวฉันว่าจะทำไหวไหม
「พอเห็นแบบนี้ก็รู้ว่าตัวเองยังมีเรื่องที่ทำได้อีกเยอะ เพียงแค่เผลอละเลยไป」
「หมายความว่ายังไงเหรอ? 」
「ก็แบบว่า―――อึก」
ระหว่างที่กำลังจะอธิบายให้พี่ฟัง เสียงก็ดังขึ้นในหัวฉัน
….มาได้จังหวะชะมัด
เอาเถอะ ช่วยไม่ได้มีแต่ต้องลุย…
「พี่ฮาคัว เหมือนมันจะมาอีกแล้ว」
「คัตซึน….ว่าแต่ทำไมมีแค่นายที่รู้ถึงการมาของพวกมันล่ะ? 」
「ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน…แต่ถึงจะยังไม่เข้าใจ ยังไงผมก็ต้องไป」
แม้จะเห็นใบหน้าเศร้าของพี่สาว ฉันก็ทำได้เพียงขอโทษแล้วหยิบชิโระขึ้นมา
ถึงฝนจะตกหนักก็ไม่ได้ช่วยหลุดการรุกรานของพวกต่างดาว
ฉันต้องรีบไปก่อนที่มันจะทำร้ายผู้คน
「แปลงร่าง」
ฉันเดินทางไปถึงย่านการค้าแห่งหนึ่งด้วยLupus Strikerในขณะที่ฝนยังโหมกระหน่ำ
คู่ต่อสู้คราวนี้เป็นสัตว์ประหลาดร่างคล้ายไทรเซราทอปส์ ซึ่งมีเครื่องพันธนาการเอาไว้ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ประหลาดมนุษย์แมวคราวก่อน
มีหมายเลข 169 สลักเอาไว้ตรงไหล่ของมัน ขณะนี้มันกำลังทำการวิ่งชนร้านค้าต่างๆ ไปมาเหมือนวัวคลั่ง
「อุ้วววววววว!!」
「……หา」
「กรี๊ดดดดด!」
ด้านหน้าของมันตอนนี้มีคู่สามีภรรยากับลูกพวกเขาอีก 2 คน
เด็กสาวที่ถูกแม่ตนกอดกำลังกรีดร้องออกมา ฉันจึงพุ่งเข้าไปชนร่างของมันทันทีจนมันกระเด็นออกไป
「รีบหนีไปเร็วเข้า!!」
หลังพวกเขาหนีไปได้สำเร็จฉันก็หยิบ Lupus Dagger ออกมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย
「ฉันไม่ปล่อยให้แกทำอะไรได้อีกแน่!」
「อุ้ว!!」
ตอนนี้ฉันอยู่ในร่างเซฟฟอร์ม ต่อสู้โดยการหลบหลีกการโจมตีของมันแล้วสวนกลับไปด้วยมีด
พอหลบการโจมตีของมันไปได้ ฉันก็สวนกลับไปด้วยการเตะ
「อุ้วววว!!」
「ชิบ แข็งชะมัด! อั๊คคค!!」
ฉันถูกชนจนกระเด็นออกมาทันที
จะให้ใช้เยลโล่ฟอร์มก็ไม่ได้อีก
เพราะคนรอบๆ ยังอพยพกันไม่หมด
「ไม่ว่าสิ่งที่มีจะแกร่งขนาดไหน แต่ถ้าใช้ไม่ได้ก็จบกัน…!」
เอาสิวะ ยังไงก็ต้องลุกขึ้นสู้
จนถึงตอนนี้ที่เอาชนะพวกมันมาได้ก็เพราะพลังของสูทที่ใส่
ในตอนที่ลำบาก พลังใหม่ของสูทก็จะตื่นขึ้นและทำให้ฉันเอาชนะมันได้
แต่แค่นั้นมันไม่พอหรอก
เช่นเดียวกับพวกสาวๆ จัสติสครูเซเดอร์ ตัวฉันเองก็จำเป็นต้องพัฒนาทักษะส่วนตัวไปด้วย
「……อึก」
――ยังจำคำแนะนำแรกของฉันได้ไหม?
「โอ้ แน่นอนสิจะลืมได้ยังไง」
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วจับมีดไว้แน่น
จงรู้จุดแข็งของตัวเอง โจมตีให้มีประสิทธิภาพสูงสุดทุกครั้ง ปิดมันให้เร็วที่สุด
「อุ้ววววว!!」
สัตว์ประหลาดนั่นพุ่งเข้าโจมตีฉันจนเกิดแรงระเบิดขึ้น
พอเห็นมันพุ่งเข้ามา ฉันก็ทำการก้าวเท้าหลบอย่างใจเย็นแล้ว ใช้แรงขาเตะเต็มแรงเพื่อตัดขาของมันตอนพุ่ง
「อุ้ว!? 」
「ก่อนอื่นก็ต้องจัดการโมเมนตั้มของอีกฝ่าย」
ฉันทำการซ้ำมันด้วยมีดเพื่อให้เสียการทรงตัว
「ตัดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นไปให้หมด」
เตะเข้าลำตัว เตะสีข้าง สลับไปมา เมื่อมันเซถอยไป ฉันก็พุ่งไปเตะอัดซ้ำจนกระแทงเข้ากับกำแพง
แม้จะโดนไปขนาดนั้น การเตะของฉันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่เพียงพอจะจัดการมันได้จริง
เมื่อมันตั้งตัวได้ มันก็พุ่งเข้ามาหาฉันด้วยความโกรธอีกครั้ง ฉันอ่านการเคลื่อนไหวของมันแล้วหมุนตัวหลบ ก่อนจะแตะหัวเข็มขัดสามครั้งเพื่อเปิดใช้งานท่าพิเศษ
『BITING! SLASH!!』
「อุ้ว!!」
ฉันใช้มีดที่ถูกอัดแน่นไปด้วยพลังงานแทงเข้าไปยังลำตัวที่ไม่มีอะไรป้องกันทันที
「อุ้ววววว!? 」
เมื่อเห็นว่าการโจมตีดังกล่าวได้ผล ร่างของมันก็เกิดรอยร้าวขึ้นตรงช่องท้องคล้ายกับสัตว์ประหลาดคราวก่อน ฉันไม่รอช้าขึ้นไปขี่Lupus Striker
「ไปกันเลย ชิโระ!」
『LUPUS STRIKER!! BIND YELLOW!』
ฉันเปิดใช้งานอุปกรณ์เสริมของLupus Striker
ตรงหน้ารถเกิดอุปกรณ์ที่คล้ายกับแม่เหล็กรูปตัว U ขึ้นโดยมันปล่อยกระแสไฟฟ้าออกไปรอบๆ พื้นที่
ฟอร์มในการจับกุม
เป้าหมายคือสัตว์ประหลาดตัวนั้น ฉันบิดคันเร่งแล้วพุ่งไปชนมันทันที
「อุ้วววว!? 」
ร่างของมันติดอยู่ตรงตัวกลางตัว U และไม่สามารถสลัดหลุดไปได้เพราะพลังดูดของแม่เหล็ก
นอกจากนี้กระแสไฟฟ้ายังทำการช็อตร่างของมันเพื่อไม่ให้ต่อต้านได้อีก
「เอาล่ะ หากเป็นตรงนี้จะไปที่ไหนดีล่ะ!」
ฉันขอให้ชิโระเปิดแผนที่ขึ้นมา
เมื่อเห็นปลายทางที่เหมาะสมแล้ว ฉันก็ตรงไปทันที
「อุ้วววววว!!」
「เชี่ย ไอ้เจ้าบ้านี่!!」
แม้จะถูกล็อคเอาไว้แต่มันก็ยังไม่สิ้นแรงไปเสียทีเดียว ไม่รู้ว่าจะถึกไปไหน
มันพยายามใช้แขนของมันในการต่อต้านฉันที่ขับรถอยู่แต่ว่า―――
『CHANGE!! SWORD RED!!』
『FLARE CALIBER!!』
ฉันเปลี่ยนโหมดใช้ดาบทันที ก่อนจะทำการฟันมันโดยใช้มือซ้าย
แค่นี้ก็น่าจะพอสกัดมันได้ระยะหนึ่งในขณะที่ขับรถไปถึงปลายทาง
「ตรงนั้นไง!」
ท่าเรือร้าง
พอไปถึงฉันก็เหยียบเบรก แล้วปล่อยให้ร่างของสัตว์ประหลาดกระเด็นออกไปจากรถ
มันกลิ้งไปตามพื้นแล้วพยายามลุกขึ้นยืน ทางฉันที่ลงจากรถก็ปล่อยดาบออกจากมือ
「เอาละ ถ้าเป็นที่นี่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรถึงจะขยายร่าง」
「อุ้ววววววววว……!」
มันพุ่งเข้ามาหาฉันเหมือนวัวคลั่งอีกครั้ง ฉันจึงตอบโต้ด้วยการแตะตัวเข็มขัดสามครั้ง
เพื่อเปิดใช้งานท่าพิเศษ
ฉันยกแขนที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงขึ้นมา
『DEADLY!! SWORD RED!!』
「อุ้ววววว!!」
「เล็งไปยังจุดสำคัญจุดเดียว……!」
คู่ต่อสู้พุ่งเข้าหาด้วยพลังทำลายล้างสูง
แต่ฉันจะไม่หนี……!
ขอเพียงแค่วิเคราะห์และใช้พลังของศัตรูให้เป็นประโยชน์….!
「———ตอนนี้แหละ!」
『BURNING!! FIST!!』
ฉันย่อตัวลงเล็กน้อยเพื่อหลบเขาแหลมของมัน ก่อนจะปล่อยหมัดแรงสุดกำลังไปยังช่องท้องที่แตกร้าวก่อนหน้านี้ของมัน
เมื่อรวมเข้ากับแรงพุ่งที่มันเข้ามาหาฉัน แรงปะทะก็สูงขึ้นเป็นทวีคูณ ร่างของมันได้กระเด็นร่วงลงไปในทะเล
『อุ้ววววว!!』
แรงนั้นทำให้เครื่องพันธนาการที่ติดกับร่างของมันแตกสลาย
ไม่กี่วินาทีต่อมา ก็เกิดแรงระเบิดขนาดใหญ่ในทะเล น้ำจำนวนมากได้พวยพุ่งขึ้นมาปะปนกับสายฝนที่ร่วงหล่น
『กุ อุ้วววววว!!!』
ฉันมองไปยังสัตว์ประหลาดที่ขยายร่างซึ่งปรากฏตัวเหนือผิวน้ำ
มันมองมาที่ฉันด้วยความเกลียดชังและหมายจะกำจัดฉันต่อ
「อย่างที่คิด พอใส่ของแบบเดียวกันมาสามารถขยาย――」
ฉันพูดในขณะที่กำลังจะเปลี่ยนร่างเป็นเยลโล่ฟอร์ม ทว่า
ฉันก็ได้ยินเสียงเครื่องกลบางอย่างมาจากบนหัว
มันไม่ใช่เฮลิคอปเตอร์ เป็นบางอย่างที่เร็วยิ่งกว่านั้น
ทันใดนั้นเองก็มีกระสุนพลังงานสีน้ำเงินก็สาดเข้าไปที่ร่างของสัตว์ประหลาด
「ดะ เดี๋ยวสิ นั่นมันอะไรกัน? 」
ก็รู้ว่าไม่ใช่เฮลิคอปเตอร์ แต่ไอนั่นมันบ้าอะไรฟะ?
ขณะที่ฉันกำลังจะสู้ต่อ ฉันก็เห็นวัตถุสีแดง เหลือง น้ำเงินร่วงลงมาจากฟ้า
ก่อนที่มันจะล้อมสัตว์ประหลาดเอาไว้และสาดกระสุนพลังงานใส่
「……เอ๋? 」
ยานพาหนะมีขนาดประมาณรถยนต์เล็ก
สีแดงเป็นยานทรงหัวแหลม สีน้ำเงินเป็นยานยักษ์ที่ติดอาวุธเต็มไปหมด ส่วนสีเหลืองเป็นเหมือนมีดติดปีกเครื่องบินขนาดใหญ่ หากฉันเข้าใจไม่ผิดนั่นน่าจะเป็นยานพาหนะของจัสติสครูเซเดอร์
「อิหยังฟะ」
ไม่เข้าใจเลยสักนิด
ทำไมของที่เหมือนจะหลุดมาจากโลกอนิเมะถึงมาอยู่ที่นี่ได้
『ฟอร์เมชั่น! เรด 1!』
เป็นเสียงของเรด เมื่อสิ้นเสียงนั้นสนามพลังงานสีแดงขนาดใหญ่ก็ก่อตัวขึ้น
『เข้าใจแล้ว』
『รับทราบเด้』
『ทุกคนลุยกันเลย!!』
『『『ยูเนี่ยน!』』』
「……ประกอบร่าง? เอ๋ ประกอบร่างเนี่ยนะ」
――มันจำเป็นต้องทำสิ่งที่ไร้สาระแบบนี้ด้วยเหรอ?
ยานบิน 3 ลำที่มีขนาดประมาณรถยนต์เล็ก
ยานของเยลโล่กับบลูส่วนหน้าหลังค่อยๆ ถูกแยกออกจากกัน โดยที่ยังเหลือส่วนที่เยลโล่กับบลูสามารถควบคุมได้เอาไว้อยู่ ส่วนที่เหลือก็เข้าไปประกอบกับยานของเรดซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของสนามพลังงาน
『อุ้วววว!!』
「ไม่ยอมให้ทำหรอก」
「คิดเหรอว่าจะมาขัดการร่วมร่างได้」
เยลโล่กับบลูที่อยู่บนส่วนยานที่เหลือ ใช้กระสุนพลังงานป้องกันไม่ให้สัตว์ประหลาดขัดขวางการประกอบร่าง
รูปร่างของยานขนาดเล็กที่เหลืออยู่ดีไซน์มันแอบคล้ายๆ ฉันนิดหน่อยไหมนะ?
ในขณะเดียวกันยานของเรดก็ค่อยๆ ประกอบร่างกับยานของคนที่เหลือจนกลายเป็นหุ่นยักษ์ที่สูงเกือบ 10 เมตร โดยมีท่อนบนเป็นสีแดง ท่อนล่างเป็นสีน้ำเงินและแขนสองข้างเป็นสีเหลือง
เมื่อการประกอบร่างเสร็จสิ้น หุ่นยักษ์ก็ร่อนลงพื้นเพื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดยักษ์ จนน้ำทะเลกระจายไปทั่ว
『พาวเวอร์อามเมอร์!! จัสติสโรโบ!!!』
แล้วสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าของฉันก็คือหุ่นยักษ์รูปร่างคล้ายมนุษย์
แม้จะขาดส่วนหัวที่เป็นเหมือนคนไปแต่บรรยากาศที่แผ่ออกมาก็ช่างน่ากดดัน มันใช้กำปั้นในการต่อยอัดสัตว์ประหลาด จนร่างของอีกฝ่ายกระจุยกระจาย
เพียงแค่การโจมตีครั้งเดียว เขาทั้งสองของสัตว์ประหลาดก็กระจายร่วงลงทะเลทันที
「ขะ แข็งแกร่งชะมัด……」
พลังทำลายล้างเหมือนเรดไม่มีผิด…..
สิ่งที่ฉันทำได้มีเพียงยื่นตัวสั่นแล้วมองหุ่นนั่นเคลื่อนไหว….
「เอาจริงดิ……? 」
ฉันสั่นไม่หยุดเลย
ก็จริงว่าฉันรู้สึกประทับใจในพลังของพวกเธอ แต่สิ่งที่เรียกว่าจัสติสครูเซเดอร์นี่น่ากลัวชะมัด
***
สารานุกรมสัตว์ประหลาดท้ายตอน
ชื่ออย่างเป็นทางการ『จ้าวศาสตราเทคนิค』มีพลังในการเลียนแบบการเคลื่อนไหวและเทคนิคการต่อสู้ที่มันมองเห็นได้ ก่อนจะพัฒนาให้กลายเป็นรูปแบบของตัวเอง โดยมันได้ทำการบุกทำลายโรงฝึกวิชาเป็นจำนวนมาก แต่สุดท้ายก็มาแพ้ให้กับการลอบกัดของเรด
ชื่ออย่างเป็นทางการ『สัตว์ประหลาดแห่งการจองจำ ร็อค』มันจะสามารถกักขังล็อคเป้าหมายที่สัมผัสไม่ให้สามารถเคลื่อนไหวใดๆได้ และความน่ากลัวของมันคือการล็อคเจตจำนงความนึกคิดของอีกฝ่ายให้เป็นดั่งเดิมไม่เปลี่ยน ทว่าก็ซวยที่ศัตรูดันเป็นเรดที่คิดแต่เพียงจะฟันมันให้ตายและอัศวินดำที่จะต่อยมันให้ยับอย่างเดียว
ชื่ออย่างเป็นทางการ『สัตว์ประหลาดโคลน』ร่างกายของมันทำมาจากโคลน สัตว์ประหลาดที่การฟันหรือกระสุนพลังงานก็มิอาจทำอะไรได้ จนเรียกได้ว่าการโจมตีปกติไม่มีทางได้ผลกับมัน แต่ก็ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับเรดที่ใช้เปลวไฟแผดเผาร่างของมันปิดท้าย