อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 36 เผชิญหน้า แบล็กแอนไวท์
ตอนที่ 36 เผชิญหน้า แบล็กแอนไวท์
หุ่นยักษ์ที่ควบคุมโดยเรดปรากฏตัวขึ้นและใช้พลังอันมหาศาลในการจัดการสัตว์ประหลาดยักษ์
การเคลื่อนไหวของหุ่นที่ดูคล่องตัวจนชวนให้เชื่อได้ยาก ว่านั่นคือหุ่นจริงๆ ทำการต่อยร่างของอีกฝ่ายจนชิ้นเนื้อหลุดออกมาง่ายดาย
「ไอ้เจ้าวิญญาณร้ายจากยุคครีเทเชียสนี่!」
「อุ้ววววว!!」
ทว่าคำพูดคำจาของเธอมันค่อนข้างแบบว่า…
ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเธอพูดแบบนี้เป็นปกติหรือเฉพาะตอนขี่หุ่น แต่มันก็นะ
「จะได้เวลาปิดฉากสักที……!」
「อุ้วววว!!」
เรดทำการหักเขาที่เหลืออีกข้างของมันออกมา
ก่อนจะใช้เขานั้นแทงกลับเข้าไปที่ร่างของสัตว์ประหลาดแล้วต่อยซ้ำ
ทางฉันก็ทำได้เพียงตกตะลึงกับการต่อสู้ที่ไม่มีความเห็นอกเห็นใจศัตรูเลยแม้แต่น้อย
「อย่างกับออพติมัส ไพร์ม……」
ฉากที่ฉันเห็นตรงหน้าชวนให้นึกถึงหนังที่ฉันกับพี่ดูกันเมื่อวันก่อน…..
แม้ว่าเธอจะอยู่ฝ่ายแห่งความยุติธรรม แต่ลักษณะการต่อสู้ของเธอช่างดุเดือดเหลือเกิน
แม้จะแอบกลัว ฉันก็รู้สึกว่าควรเรียนรู้หลายๆ อย่างจากเธอ
เช่นเดียวกับเยลโล่และบลู การเอาชนะศัตรูได้โดยไม่พึ่งแต่พลังที่สูทมอบให้ นั่นคือเส้นทางที่ฉันคิดว่าตัวเองควรมุ่งไป
「ดีใจที่ได้พบ」
「หืม!? 」
ก่อนจะรู้สึกตัวก็มีคนมายืนอยู่ข้างฉันแล้วพูดขึ้น
ฉันตกใจจนถอยออกไปนิดหน่อย แล้วก็พบว่าอีกฝ่ายคือหญิงสาวสวมชุดสีน้ำเงิน บลู เธอลงมาจากรถที่ออกแบบคล้ายกับรถของฉัน
「ยินดีที่ได้รู้จักครับ บลูซัง」
「รุ่นพี่ ไม่จำเป็นต้องสุภาพ 」
「รุ่นพี่……? 」
「อื้อ……」
บลูเอามือปิดปากตกใจราวกับว่าไม่อยากจะเชื่อว่าฉันลืมเรื่องพวกนี้
รุ่นพี่? ฉันเนี่ยนะถามจริง?
อย่าบอกนะว่าบลูก็เป็นคนรู้จักของฉันเหมือนกัน?
แบบว่าเป็นรุ่นพี่เธองั้นเหรอ?
ในขณะที่ฉันกำลังเค้นความคิดในหัวบลูก็พูดต่อ
「เรื่องของเรดวันก่อน ขอโทษ」
「มะ ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็ผิดที่เอาแต่หนี」
「เพื่อจะให้เรดได้รู้สำนึก ฉันจะทำการลงโทษอีกรอบ」
ลงโทษ……。
ฉันแอบรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นรูปแบบความสัมพันธ์ของพวกเธอ
อันที่จริงฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องคราวก่อนแล้ว แถมมันยังช่วยทำให้ฉันได้ย้อนนึกถึงความสามารถที่ตัวเองมีอยู่ในขณะนี้ด้วย
ดะ เดี๋ยวก่อนนะ
ทำไมฉันถึงคิดจะตามรอยพวกเธอเหมือนเป็นเรื่องปกติไปได้ล่ะ
『ถึงจะใหญ่ขึ้นแต่ก็กระจอกชะมัด!』
ฉันได้ยินเสียงตะโกนของเรดและเสียงกรีดร้องของสัตว์ประหลาด จนทำให้สติกลับมาแล้วตั้งใจจะขึ้นรถเพื่อไปช่วยเรด
บลูก็เหมือนจะไม่ได้พยายามหยุดอะไรฉัน
――ถ้างั้นขอลองอะไรอีกสักหน่อยละกัน
「……ชิโระ? 」
เหมือนฉันได้ยินชิโระพูดอะไรสักอย่าง แต่ดันฟังไม่ทัน
พอหันไปตรงหัวเข็มขัดก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ทว่าอยู่ดีๆ ก็เกิดความแปลกประหลาดขึ้นตรงบริเวณทะเลที่เรดกำลังต่อสู้
สิ่งที่ออกมาจากมิติแปลกประหลาดนั้นคือเข็มฉีดยา
「นั่นมันอะไรกัน……」
「รูหนอน……? 」
『อุ้ววววว!!』
「หา!? 」
เมื่อประตูมิติหายไป ก็เกิดความผิดปกติกับสัตว์ประหลาดตัวนั้น
เขาของมันงอกขึ้นมาใหม่ ร่างกายของมันดูแกร่งขึ้น พร้อมกับมีแขนอีกสองข้างงอกออกมาจากทางด้านหลัง
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือร่างอัพเกรดของมัน จากนั้นมันก็ทำการยิงหนามจากด้านหลังเพื่อโจมตีพวกเราที่อยู่บนพื้น
「บลู!」
「ไม่ต้องห่วง」
ฉันเปลี่ยนมาใช้บลูฟอร์มแล้วใช้ Liquid Shooter ยิงหนามที่ตรงมาหาพวกเรา
ระหว่างนั้นฉันก็หันไปมองข้างๆ พบว่าบลูกำลังยิงพวกหนามอย่างแม่นยำด้วยท่าทีสงบนิ่งยิ่งกว่าฉันเสียอีก ทันใดนั้นเยลโล่ที่ทั้งตัวปกคลุมไปด้วยสายฟ้า ก็กระโดดผ่านหน้าพวกเราไปแล้วใช้ขวานที่มีประจุไฟฟ้าแรงสูงไปข้างหน้า
「โอ้วววว!!」
เยลโล่ทำลายหนามพวกนั้นทิ้งทั้งหมดด้วยสายฟ้า ก่อนจะร่อนลงมาตรงหน้าพวกเรา
พอมาได้เห็นใกล้ๆ หนามพวกนี้มีขนาดใหญ่ชะมัด
「เจอกันอีกครั้งแล้วน้อ อัศวินขาวคุง」
「อะ อื้อ ว่าแต่เรดจะไม่เป็นไรเหรอ ศัตรูท่าทางแข็งแกร่งขึ้นด้วย」
「หื้ม……ถ้าเป็นเรดละก็ ไม่เป็นไรหรอก」
『อะไรกันยะ ยังมีชิ้นส่วนให้ทำลายเพิ่มงั้นเหรอ ก็มาเซ่ จัดกันอีกยก!』
『อุ้วววว!? 』
「……อย่างที่เห็น」
「อะ อื้อ คงจะไม่เป็นไรจริงๆ 」
ฟู้มมมม!! หุ่นของเรดชักดาบเพลิงออกมาตัดแขนสัตว์ประหลาดทิ้งอย่างง่ายดายราวกับเนย
อย่างที่คิด ความโหดเหี้ยมขอเธอฉันคงต้องเรียนรู้เอาไว้บ้าง
เพราะสิ่งที่ฉันรู้สึกขาดไปสำหรับตัวฉัน คือความดิบเถื่อน
「……หือ? 」
「……บลู เห็นตรงนั้นไหม? 」
「อื้อ」
เหมือนกับฉันทั้งเยลโล่และบลูมองไปยังจุดหนึ่ง ก่อนจะเตรียมอาวุธในมือให้พร้อม
พวกหนามที่ตกลงมาก่อนหน้านี้ซึ่งควรจะถูกทำลายไปหมดแล้ว กลับมาอะไรบางอย่างอยู่ภายใน
ทันทีที่ฉันเตรียมจะเปลี่ยนฟอร์ม หนามเหล่านั้นก็แตกออกมาราวกับไข่ที่ถูกฟัก แล้วสัตว์ประหลาดหลายตัวก็โผล่ออกมาจากข้างในนั้น
「「「「อุ้วววว……」」」」
「อะไรของมันกัน」
「อาจจะเป็นเพราะเข็มที่ฉีดมันก่อนหน้านี้」
「……ไม่ยอมปล่อยให้มันหลุดออกไปได้แน่」
ด้วยจำนวนของพวกมันฉันคงไม่สามารถปล่อยให้มันหลุดไปได้
ตรงนี้ก็มีแค่บลูกับเยลโล่ ถ้าเป็นพวกเธอฉันน่าจะสามารถใช้เยลโล่ฟอร์มได้
『RE:BUILD!! AXE YELLOW→ OK? 』
ฉันยืนยันด้วยการแตะหัวเข็มขัด
กระแสไฟฟ้าปกคลุมทั่วร่างของฉันก็ที่ชุดเกราะภายนอกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองซึ่งมาพร้อมกับขวานยักษ์ในมือ
『CHANGE!! AXE YELLOW!!』
『LIGHTNING CRUSHER!!』
ฉันใช้มันพุ่งเข้าไปโจมตีสัตว์ประหลาดตรงหน้าทันที ขวานยักษ์ได้ทำการกวาดพวกมันจนกระเด็นไป
「อย่ามองฉันด้วยสายตาผู้ชนะได้ไหม รำคาญ」
「อ่ะ เอ๋ ก็แบบว่าฟอร์มของเธอมันบ่เหมาะกับตอนนี้นี่เน้อ…เอาเถอะ รีบไปช่วยเขาดีกว่า」
ฉันได้ยินสองสาวพูดคุยกันเล็กน้อย ก่อนจะเข้ามาช่วยจัดการกับพวกสัตว์ประหลาด
ประกายไฟฟ้าพุ่งไปตลอดเส้นทางที่ฉันผ่าน
ก่อนจะพวกมันให้กระเด็นออกไปอีกครั้ง
「ย้าาา!!」
พอเป็นฟอร์มนี้แล้ว ทั้งพลังและความเร็วค่อนข้างได้เปรียบพวกมันมากที่เดียว
เยลโล่กับบลูเองก็เหมือนจะรับมือกับมันได้เช่นเดียวกันแถมความเร็วของพวกเธอยังพอๆ กับฉันอีก
「……ฉันเองก็ต้องตั้งใจสู้」
『DEADLY!! AXE YELLOW!!』
ฉันเปิดใช้งานท่าพิเศษ แล้วจับขวานไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง
สัตว์ประหลาด 4 ตัวรอบๆ ฉันพุ่งเข้ามาหาอีกครั้ง แต่มันก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ออร่าสีเหลืองอร่ามก่อตัวขึ้น ก่อนที่ฉันจะใช้มันผ่าพวกมันทั้ง 4 เป็นสองส่วน แล้วร่างของพวกมันก็ระเบิดเป็นจุล
「อุ้ววววว!!」
「……อึก」
หลังจากปล่อยท่าพิเศษไป เหมือนจะมีตัวที่เล็งช่องโหว่ตรงนี้ 3 ตัวพุ่งเข้ามาหาฉันจากด้านหลัง
ฉันพยายามหันกลับไปเพื่อป้องกันการโจมตี ทว่าก็มีกระสุนพลังงานพุ่งมาเจาะหัวของพวกมันทั้งหมดเสียก่อน
เป็นฝีมือของบลูนั่นเอง โดยอีกฝ่ายยกนิ้วในฉันที่กำลังตกใจกับภาพตรงหน้า
「ฮีโร่ ต้องช่วยเหลือกัน」
「อะ อื้อขอบคุณ……」
ในจังหวะที่พูดขอบคุณเธอ หัวใจของฉันก็รู้สึกตื้นเต้นแปลกๆ
เป็นความรู้สึกที่แสนคิดถึง
นับตั้งแต่ที่เจอพวกจัสติสครูเซเดอร์ ความทรงจำของฉันที่ขาดหายไปก็เหมือนจะถูกกระตุ้นขึ้นมา
「อึก」
อยู่ดีๆ ก็มีเสียงประหลาดดังขึ้นในหัว จนเกิดภาพแปลกประหลาดขึ้นมาภายในหัวของฉัน
ความทรงจำในอดีตเหมือนจะค่อยๆ ประกอบกันขึ้นมาที่ละส่วน
แล้วมันก็ถูกเล่นผ่านหัวของฉันไปอย่างรวดเร็ว
「มะ ไม่นะ!! อ๊ากกกก!!」
「แกนะแก อัศวินดำ!」
「อ้าาาาาา!!」
「ไอ้เวรเอ้ย ถ้าไม่มีแก ขอแค่ไม่มแกสักคน!!」
「พลังที่แสนไร้เหตุผลนี่มัน อั๊ก!? 」
เป็นเสียงแห่งความเคียดแค้นจากบางอย่างที่ไม่ใช่มนุษย์
ในขณะที่พวกมันกำลังจะสิ้นใจ ฉันก็ได้ทะลวงหมัดเข้าไปซ้ำที่ร่างของพวกมัน
「อะ อะไรกัน……!? นี่ฉัน เป็นใครกันแน่……!? 」
ใบหน้าของพวกสัตว์ประหลาดเหล่านั้นถูกทาสีทับเอาไว้
ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังเอาชนะใครอยู่
ในระหว่างที่ฉันกำลังเผชิญหน้ากับความทรงจำมากมายที่สาดซัดเข้ามา พวกสัตว์ประหลาดก็เหมือนจะคิดว่าได้โอกาสที่จะกำจัดฉัน
「หนวกหูเว้ยยยย!!」
ฉันฟาดขวานใส่พวกมันที่พุ่งเข้ามาหาทันที
ไม่ว่าพลังของเยลโล่ฟอร์มจะมากขนาดไหน แต่ถ้าเป็นการโจมตีธรรมดาก็ไม่น่าจะกำจัดพวกมันได้ทันที―――ทว่าขวานที่ฉันเหวี่ยงออกไปนั้นมีออร่าสีดำถูกเคลือบเอาไว้ และนั่นก็ทำให้พวกสัตว์ประหลาดระเบิดตาย
「นี่มัน บ้าอะไร……」
――แบบนี่มัน ไม่สิ
――ความเป็นไปได้ในการวิวัฒนาการที่ไร้ขอบเขต
「อึก อ้ากกก」
ความทรงจำได้โหมเข้ามาอีกครั้ง
คราวนี้ไม่ใช่ฉากต่อสู้
ไม่มีเสียงแห่งความเคียดแค้นของพวกสัตว์ประหลาด แต่เป็นภาพของการใช้ชีวิตประจำวันที่แสนสงบสุข
รู้สึกเหมือนมีใครบางคนคอยอยู่เคียงข้างฉัน
ใครบางคนที่ทำตัวน่ารำคาญ แต่ก็ตัดไม่ขาด
ใครบางคนที่มักจะกังวลอยู่เสมอเกี่ยวกับเอกลักษณ์ของตัวเอง
ใครบางคนที่ไม่ค่อยพูดและชอบทำอะไรที่ฉันมักไม่เข้าใจเสมอ
ใบหน้าของคนพวกนี้มันเบลอมากเกินกว่าที่ฉันจะรู้ได้ว่าเป็นใคร
แม้จะไม่เข้าใจว่าอะไรเป็นยังไง แต่ฉันรับรู้ได้ว่านี่คือความทรงจำที่แสนสำคัญของฉันซึ่งถูกลืมเลือนไป
『CHANGE SAVE FORM!!!』
เข็มขัดของฉันถูกบังคับให้กลับไปเป็นร่างปกติ
ก่อนจะรู้ตัวในมือของฉันก็มีไดรฟ์สีดำซึ่งฉันไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่
ข้อมูลได้ไหลเข้ามาในหัวฉัน ฉันทำการกดปุ่มสีเงินที่อยู่ด้านข้างของไดรฟ์นั้นทันที
――อื้ม……
――แบบนี้แหละ ดีแล้ว
『GRAVITY!!』
มีเสียงดังขึ้นจากไดรฟ์ ฉันทำการกางแขนออกแล้วเสียบมันเข้าไปตรงรูพิเศษซึ่งอยู่ด้านข้างเข็มขัดของชิโระ
『BLACK!! & WHITE!!』
เสียงทั้งสองสอดประสานกัน จนเกิดสนามพลังงานขึ้นรอบตัวฉัน
『EVIL OR JUSTICE!!』
ชุดเกราะสีขาวส่วนหนึ่งบนร่างฉันได้หายไป ก่อนจะมีชุดเกราะชิ้นใหม่ถูกสร้างขึ้นแล้วเข้ามาติดบนร่างของฉันเอาไว้
สัดส่วนในร่างกายของฉันตอนนี้เรียกได้ว่าขาวและดำอย่างละครึ่ง ก่อนจะปิดท้ายด้วยชุดคลุมถูกถักทอขึ้นมาพันรอบเอวเอาไว้
『ANOTHER FORM!! COMPLETE……』
ฉันมองไปยังฝ่ามือของตัวเอง
ไม่ใช่ว่าความทรงจำทั้งหมดของฉันกลับมาแล้ว
ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร
ฉันกำลังคุยกับใครอยู่
「……แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น」
ฉันก็มั่นใจว่าทั้งหมดนั้นคือเรื่องราวในอดีตที่ฉันเคยเผชิญมา
ต้องนึกให้ออกให้ได้
อยากจะจดจำใครสักคนภายในความทรงจำนั้นให้ได้
「หลังจบเรื่องคงต้องไปถามพี่ให้รู้เรื่อง」
เพื่อการนั้นฉันต้องรีบจบเรื่องตรงนี้ให้เร็ว
ฉันจ้องมองไปทางพวกสัตว์ประหลาดที่เหลือแล้วนับจำนวน
อีก 6 สินะ
『DEADLY!! WHITE SIDE!!』
ฉันกดหัวเข็มขัด 3 ครั้งเพื่อใช้งานหนึ่งในท่าพิเศษของร่างนี้
เสียงดังก้องกังวาล ฉันตั้งท่าเตรียมเตะปิดบัญชี
「อุ้วววว!!」
『LUPUS! FIRST CRASH!!』
เท้าของฉันถูกห่อหุ้มไว้ด้วยพลังงานสีขาว แล้วใช้มันทำการเตะไปยังตัวที่ใกล้ที่สุดจนมันระเบิดตายทันที
หากจะให้เทียบประสิทธิภาพกับ SAVE FORM ก็เรียกได้ว่าเหนือกว่าหลายเท่า
พอรู้แบบนี้ฉันก็กดปุ่มตรงไดรฟ์ที่ถูกเสียบ เพื่อใช้ท่าพิเศษอีกท่า
『DEADLY!! BLACK SIDE!!』
หมัดของฉันถูกปกคลุมด้วยออร่าสีดำ จากนั้นฉันก็ใช้มือซ้ายชี้ไปทางศัตรู
「อุ้ววว!? 」
『GRAVITY! SECOND KNUCKLE!!』
สัตว์ประหลาดสองตัวที่ถูกออร่าสีดำห่อหุ้มเอาไว้ถูกดึงมาหาฉัน ก่อนที่ฉันจะใช้หมัดนั้นต่อยพวกมันทิ้งจนระเบิดไป
「อัศวินขาวคุง นั่นมันอะไรกัน!? 」
「ฉันจะใช้ท่าใหญ่สักหน่อย ช่วยออกไปห่างๆ ด้วย!!」
หลังจากโจมตีพวกมันเสร็จ ฉันก็แตะหัวเข็มขัดอีกสามครั้งเพื่อใช้ท่าพิเศษถัดไป
『BLACK!→ WHITE!→ DEADLY LIMITOVER!!』
ฉันกระโดดขึ้นไปในอากาศ ก่อนจะวาร์ปไปอยู่ตรงจุดที่เหนือหัวของพวกสัตว์ประหลาดที่เหลืออีก 3 ตัว
จากนั้นก็เตะกระสุนพลังงานสีดำตรงเท้าขวาไปหาพวกมัน
กระสุนพลังงานนั้นได้ดูดพวกมันเข้าไปหาราวกับแม่เหล็ก
「อุ้ววววว!!」
ฉันสะบัดผ้าคลุมตรงเอว ก่อนจะตั้งท่าเตะกลางอากาศแล้วพุ่งตรงลงไปหาพวกสัตว์ประหลาดทั้ง 3 ตัวที่ถูกล็อกเอาไว้
『DOUBLE!! FEVER CRASH!!』
ลูกเตะนั้นได้สังหารสัตว์ประหลาดทั้ง 3 ตัวพร้อมกัน
ฉันลงสู่พื้นด้วยความมั่นใจที่ว่าสามารถเอาชนะพวกมันได้จนหมดแล้วแน่นอนก่อนจะหันไปดูทางด้านเรด
『แกน่ะเลือกดาวผิดดวงแล้ว……!!』
『อุ้ววววว……』
『จงตายด้วยน้ำมือของฉันซ้าาาา……!』
แขนของหุ่นที่เรดควบคุมได้แทงทะลุหัวใจของสัตว์ประหลาดไปพร้อมกับดาบที่อยู่ในมือ
รู้สึกเหมือนเป็นภาพที่เคยเห็นบ่อยๆ อย่างบอกไม่ถูก
「……ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นไรสินะ」
หลังยืนยันสถานการณ์เสร็จ ฉันก็ขึ้นไปขับLupus Strikerเพื่อกลับบ้านทันที
แม้จะรู้สึกผิดที่ต้องเมินเสียงของเยลโล่กับบลูที่เรียกอยู่ข้างหลังก็ตาม จากนั้นฉันก็หันหน้าไปถามชิโระที่อยู่ตรงหัวเข็มขัด
「ชิโระ ไม่มีเครื่องส่งสัญญาณติดมาด้วยใช่ไหม? 」
『YES』
ไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าตัวเองมีความทรงจำไม่ค่อยดีนักกับเครื่องส่งสัญญาณ
แม้จะนึกอะไรไม่ออกก็ตาม
แต่หากไม่มีความเสี่ยงที่จะถูกตามมาทีหลัง ฉันก็กลับบ้านได้อย่างสบายใจเสียที
**
ว่ากันตามตรง เหมือนว่าสภาพความทรงจำของฉันตอนนี้กำลังพัฒนาไปในทางที่ดี
ถึงมาสเตอร์จะเคยบอกเอาไว้ไม่จำเป็นต้องนึกถึงเรื่องในอดีตแล้วใช้ชีวิตอย่างสงบสุขต่อไปก็ไม่เห็นเป็นไร
แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่ามีใครบางคนที่ฉันควรจะต้องจดจำและพบเจอให้ได้
ฉันจึงตัดสินใจว่าตัวเองต้องหันกลับมาเผชิญหน้าสิ่งที่อยู่ในอดีตอีกครั้ง
「ก่อนอื่นคงต้องไปคุยกับพี่」
เมื่อกลับมาร่างปกติฉันก็ตรงไปยังอพาร์ตเมนต์พลางหลบฝนไปด้วย
พอเปิดประตูเข้าไปกลับไม่มีเสียงทักทายของพี่ที่มักจะได้ยินทุกครั้ง
「กลับมาแล้วครับ พี่? อยู่หรือเปล่า? 」
มีรองเท้าที่ไม่คุ้นอยู่ 2 คู่ตรงหน้าห้อง
คู่หนึ่งเป็นรองเท้าหนังสีดำดูมีราคา ส่วนอีกอันเป็นรองเท้าผ้าใบสำหรับผู้หญิงใส่
มีแขกเหรอ? ฉันคิดระหว่างเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น
「ยะ ยินดีต้อนรับกลับนะ คัตซึน….」
「ผมกลับมาแล้ว…เอ่อ…พี่ฮาคัว」
พี่ทักทายฉันด้วยใบหน้าเกร็งแปลกๆ
แล้วก็อย่างที่คิดในห้องนั้นไม่ได้มีแค่พี่คนเดียว
คนพวกนี้คือ―――
「ว่าไง นายเองสินะ น้องชายของชิราคาวะคุง? 」
「……」
「ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันเรมะ ส่วนทางนั้นอัลฟ่า」
เป็นชายผมบลอนด์กับหญิงสาวผมดำ
ใบหน้าของพี่ที่แสดงออกมาเมื่อสองคนนั้นอยู่ตรงหน้ามันบอกฉันราวกับว่าโลกใบนี้กำลังจะล่มสลาย
นี่มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่ฉันไม่อยู่กัน?