อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย - บทที่ 119 ไม่ได่รังเกียจคุณจริง ๆ
เฉินฮวนฮวนอ้าปากเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะตอบกลับยังไงจริง ๆ
“ฉัน ฉันไม่ได้เกลียดคุณ ฉันไม่ได้เกลียดคุณจริงๆ นะ ทำไมฉันต้องเกลียดคุณด้วย…..”
เธออยากจะอธิบาย แต่ทันทีที่อธิบาย ก็รู้สึกพูดสะเปะสะปะไม่รู้เรื่อง
“ถ้าคุณไม่ได้เกลียดผม แล้วทำไมคุณถึงยังสงสัยเหตุผลที่ผมอยู่ก่อนแต่งกับคุณตลอดเวลาด้วย?” น้ำเสียงของเฟิงหานชวนเย็นเยียบ และไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“ฉัน….” เฉินฮวนฮวนกำลังครุ่นคิดว่าจะพูดออกไปยังไงดี
แต่เฟิงหานชวนกลับตัดบทของเธออีกครั้ง : “คุณไม่อยากแต่งงานกับผมใช่ไหม? เพราะคนที่เป็นสามีของคุณคือผม ไม่ใช่อาเยี่ยน ดังนั้นคุณจึงผิดหวังมาก?”
“ไม่ ไม่ใช่นะ ไม่ใช่แบบนี้” เฉินฮวนฮวนรีบส่ายหน้า เธอไม่ได้หมายความว่าแบบนี้
และไม่ได้หมายความว่าอยากแต่งงานกับอาเยี่ยนด้วย
เมื่อเห็นเฉินฮวนฮวนปฏิเสธอีกครั้ง เฟิงหานชวนเดาไม่ออกจริง ๆ ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ ซึ่งนั้นทำให้เขาหงุดหงิดไม่น้อย
เมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของเฟิงหานชวน เฉินฮวนฮวนจึงตัดสินใจถามให้ชัดเจน
เธอหันมองไปรอบ ๆ ด้านจนมั่นใจว่าไม่มีคนอื่น แถมที่นี่ยังห่างไกลผู้คนด้วย จึงพูดเสียงเบา ๆ ว่า : “ก่อนหน้านั้นคุณเคยบอกฉัน คุณเคยมีประสบการณ์ด้านนั้นมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เมื่อคืนคุณกลับบอกฉันว่าไม่เคยมีแฟนมาก่อน แล้วครั้งนั้นที่คุณมี…. หมายความว่ายังไง?”
ความบริสุทธิ์แรกของเฉินฮวนฮวน ได้ถูกหลิวตงรุ่ยช่วงชิงไป และยังถูกบังคับฝืนใจอีกด้วย เรื่องนี้เฟิงหานชวนรู้ดี
แต่อดีตของเฟิงหานชวน เธอไม่เคยรู้เลย
จริงๆ แล้ว มีเรื่องเกิดขึ้นก่อนที่เฟิงหานชวนจะอยู่ก่อนแต่ง เธอไม่ควรถามมาก และก็ไม่จำเป็นต้องถามให้มากความด้วย แต่เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับเหตุผลที่เขาอยู่ก่อนแต่งกับเธอ ดังนั้นเธอจึงได้ถามออกไป
เฟิงหานชวนคิดได้ฉับพลัน ก่อนหน้านั้นเขาเคยบอกกับเฉินฮวนฮวนว่าเขาเคยมีประสบการณ์ด้านนั้นมาแล้วครั้งหนึ่ง
บนรถในคืนนั้น เขาเยาะเย้ยเฉินฮวนฮวน ตอนนั้นเขาคิดว่าเฉินฮวนฮวนเป็นผู้หญิงที่สำส่อน เฉินฮวนฮวนโกรธมากเธอเคยพลาดแค่ครั้งเดียว ต่อมาเขาก็โพล่งออกมาเองว่าเคยพลาดครั้งเดียวเหมือนกัน
ครั้งนั้น เป็นครั้งที่อยู่ในบลูส์คลับ ตอนนั้นเขาคิดว่า ผู้หญิงในคืนนั้นคือหลิ่วเยว่เอ่อร์
ตอนนั้น พวกเขาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในครั้งแรกให้กันและกัน แต่กลับไม่รู้ว่าอีกฝ่ายก็คือคนในครั้งนั้น
เมื่อคิดได้ เฟิงหานชวนรู้สึกว่าตัวเองและเฉินฮวนฮวนมีชะตากรรมร่วมกันมาตั้งแต่ในอดีต เพียงแต่ว่า ชะตากรรมแบบนี้เขาพูดไม่ได้
เมื่อเห็นเฟิงหานชวนเกิดความลังเลไม่ตอบ หัวใจของเฉินฮวนฮวนก็เต้นระทึกด้วยความเป็นกังวล
เพราะคำตอบนี้ยากจะพูดใช่ไหม? ทำไมเฟิงหานชวนถึงได้ลังเลไม่ยอมตอบเธอ?
“แค่…..แค่วันไนท์สแตนด์ใช่ไหม?” เฉินฮวนฮวนเม้มปากเล็กน้อย ก่อนจะปรายตามองไปยังดวงตาที่ยากหยั่งถึงคู่นั้นของเฟิงหานชวน แล้วถามขึ้นด้วยเสียงเบา ๆ
“ไม่เชิง” เฟิงหานชวนปฏิเสธ
เขาเพิ่งคิดได้ ว่าจะตอบคำถามแบบนี้ของเฉินฮวนฮวนว่ายังไง ถ้าปฏิเสธตอนนี้ว่าตัวเองไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนั้นมาก่อน ก็คงจะดูโกหกเกินไป
แต่ถ้ายอมรับ ประสบการณ์ในครั้งนั้น เกิดอะไรขึ้นบ้าง ก็ยากจะอธิบายได้
ถึงอย่างไร เขาก็สารภาพไปแล้วว่าตัวเองไม่เคยมีแฟนมาก่อน
เฟิงหานชวนรู้สึกไม่สบอารมณ์เล็กน้อย ตอนนั้นเขาไม่ควรบุ่มบ่ามบอกว่าตัวเองเคยมีประสบการณ์ด้านนั้นมาแล้ว ตอนนี้จึงจนปัญญาที่จะอธิบาย
“หรือว่าจะเป็น…..” เมื่อเฉินฮวนฮวนเห็นเฟิงหานชวนปฏิเสธคำถามเมื่อสักครู่ของตัวเอง จึงปรากฏอีกคำถามหนึ่งขึ้นมาในหัว
ใบหน้าของเธอตื่นตระหนกเล็กน้อย เพราะนึกไม่ถึงว่าเฟิงหานชวนจะทำเรื่องแบบนั้น
ในเมื่อไม่เชิงว่าเป็นวันไนท์สแตนด์ นั้นก็แสดงว่าซื้อกิน หรือที่เรียกโดยทั่วไปว่า —— สาวบริการ
เมื่อเห็นเฉินฮวนฮวนทำการตัดสินใจแล้ว เฟิงหานชวนก็รู้สึกว่านอกจากเหตุผลนี้แล้ว ดูเหมือนจะไม่มีเหตุผลอื่นที่ใช้อธิบายได้อีก
“ก็ตามนี้แหละ แต่ผมไม่ได้สมัครใจนะ” ริมฝีปากของเฟิงหานชวนเอ่ยตอบกลับไป
คำตอบนี้ของเฟิงหานชวน ทำให้เฉินฮวนฮวนงุนงง
เรื่องซื้อกิน ต้องสมัครใจด้วยเหรอ?
ตอนนี้สภาพจิตใจของเธอปั่นป่วนนิดหน่อย เพราะเฟิงหานชวนยอมรับเรื่องนี้ นั้นแสดงว่าเขาขาดผู้หญิงจริง ๆ ขาดถึงขั้นซื้อกินแบบนั้น
เธอคงโทษเฟิงหานชวนไม่ได้ ถึงอย่างไรเฟิงหานชวนก็อายุขนาดนี้แล้ว ย่อมต้องการเรื่องแบบนั้นแน่นอน
แต่เมื่อคิดดูบางทีอาจจะเป็นเพราะความต้องการ เฟิงหานชวนจึงอยากอยู่ก่อนแต่งกับเธอ ซึ่งทำให้เฉินฮวนฮวนผิดหวังและรู้สึกแย่อยู่ในใจ
“ไม่สมัครใจเรื่องนี้จริง ๆ เหรอ?” เฉินฮวนฮวนพูดเสียงเบา ๆ
ถึงแม้ว่าจะเสียงเบา แต่เฟิงหานชวนก็ได้ยินชัดเจน เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าทุ้มต่ำว่า : “ใช่ ไม่สมัครใจแน่นอนอยู่แล้ว”
“หา?” เฉินฮวนฮวนอึ้งไป
“ผมถูกศัตรูอัดยาในปริมาณที่มาก ร่างกายจึงทนไม่ไหว จึงต้องซื้อสาวบริการมาแก้ขัด แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยคบหากันอีกเลย”
เฟิงหานชวนก้มหน้าลง สีหน้าดูเหมือนรู้สึกผิด จากนั้นก็ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า : “ฮวนฮวน คุณแคร์เรื่องนี้ไหม?”
เฉินฮวนฮวนโง่ไปในทันที
เรื่องนี้มันแตกต่างจากผลลัพธ์ที่เธอคาดคิดไว้โดยสิ้นเชิง เธอคิดว่าเฟิงหานชวนซื้อกินเอง เพราะเฟิงหานชวนขาดผู้หญิง กลับคิดไม่ถึงว่า ……..
เขาไม่ได้สมัครใจจริง ๆ แต่เพราะจนปัญญา
“ฉัน……ฉันไม่แคร์แน่นอน! คุณ คุณเองก็ไม่ได้แคร์เรื่องนี้ของฉัน ฉันก็ไม่ใช่ครั้งแรกเหมือนกันนะ!” เฉินฮวนฮวนก้มหน้า จู่ ๆ ก็รู้สึกผิดในใจฉับพลัน
เธอเองก็ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ยังจะไปถามคำถามแบบนี้กับเฟิงหานชวนอีก ถึงแม้ว่าจะเป็นความตั้งใจเดิมที่เธออยากถามคำถามนี้ก็ตาม แต่เธอก็ไม่ได้แคร์เรื่องครั้งแรกของเฟิงหานชวนเช่นกัน
แต่กลับแคร์เหตุผลเรื่องการอยู่ก่อนแต่งของเขา
“เฟิงหานชวน ที่ฉันถามเรื่องเหล่านี้กับคุณ ไม่ใช่เพราะรังเกียจคุณไม่ใช่เพราะครั้งแรกอะไรเลยนะ ฉันเองก็ไม่มีสิทธิ์ไปรังเกียจคุณด้วย เพราะฉันเองก็ไม่ใช่ครั้งแรก ฉันแค่อยากรู้เหตุผลที่คุณอยู่ก่อนแต่งกับฉัน ไม่ได้รังเกียจคุณเลยจริง ๆ ” เฉินฮวนฮวนอธิบายด้วยความร้อนใจ
“แล้วตอนนี้ คุณได้คำตอบแล้วใช่ไหม?” เฟิงหานชวนพบว่าเฉินฮวนฮวนร้อนใจ ใบหน้าแดงระเรื่อ
มองไปแล้วก็น่ารักไม่เบา
“อื้อ อื้อ ฉันได้คำตอบแล้วล่ะ” เฉินฮวนฮวนพยักหน้าทันใด แต่ก็ยังรู้สึกลำบากใจอย่างมาก
เธอคิดว่าเฟิงหานชวนคือผู้ชายแบบนั้น ในความเป็นจริงเขาเองก็เจ็บปวด ไม่ต่างกับตัวเธอเอง
ที่แท้ครั้งแรกของเธอกับเฟิงหานชวนก็ไม่ได้ราบรื่นขนาดนั้น ที่แท้พวกเขาก็หัวอกเดียวกัน?
เหมือนกับจะมีชะตากรรมเดียวกันด้วย
“มีอะไรจะถามอีกไหม? ถามให้ชัดเจนไปเลย อย่าเก็บไว้ในใจ ผมก็จะตอบความจริงเช่นกัน” เฟิงหานชวนพูดต่อ
“ไม่ ไม่มีแล้ว” เฉินฮวนฮวนส่ายหน้าทันที
ความเข้าใจผิดเฟิงหานชวนเมื่อสักครู่ ทำให้เธอเสียใจและอึดอัดใจมาก เธอไม่อยากถามอะไรเขาอีกแล้ว
“ไม่มีอะไรจะถามแล้วใช่ไหม?” เฟิงหานชวนถามอีกครั้ง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า : “ต่อไปไม่อนุญาตให้สงสัยผมอีก ผมตั้งใจจะอยู่ก่อนแต่กับคุณจริง ๆ ไม่ได้มีเหตุผลไร้สาระแบบนั้น”
ความเคร่งขรึมของเฟิงหานชวน ทำให้เฉินฮวนฮวนแก้มแดงระเรื่อทันใด
เธอก้มหน้าลง และพยักหน้าในขอบเขตที่จำกัด ใช้ท่าทางตอบกลับ
เมื่อเห็นท่าทางนิ่งสงบอย่างเชื่อฟังของผู้หญิง เฟิงหานชวนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก คำอธิบายเมื่อสักครู่ถือว่าสมบูรณ์แบบมาก เฉินฮวนฮวนไม่ได้สงสัยอะไรอีก
อีกทั้งยังเชื่อเขาด้วย
“จริงสิ พี่อวิ๋นของอาเยี่ยนคนนั้น เป็นใครเหรอ?” เฉินฮวนฮวนโพล่งออกไปด้วยความอยากรู้