อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย - บทที่ 125 มีเขา
“ใช่ ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลรุ่ยเอิน ถ้าคุณยังมีจิตสำนึก ก็รีบหาพยาบาลมาดูแลคุณน้า”
“เยี่ยจิ่งเฉิง คุณนี่สุดยอดเลย ทำไมถึงใจดำขนาดนี้! วันนี้ที่คุณโดนซ้อม สมควรแล้ว!”
“ทำไมไม่ซ้อมลูกอกตัญญูอย่างคุณให้ตายเลยนะ!”
เฉินฮวนฮวนเกลียดคนอกตัญญูที่สุด ตอนนี้ทิ้งหลี่ซูฉิงไว้ที่โรงพยาบาลคนเดียว เธอรู้สึกอารมณ์ขึ้นมาก
“เปล่านะ ฮวนฮวน ฟังผมอธิบายก่อน……ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลย……”
เยี่ยจิ่งเฉินยังพูดไม่จบ จากนั้นก็มีเสียงทะเลาะวุ่นวาย แล้วสายก็ตัดไป
เฉินฮวนฮวนไม่รู้ว่าเขาจะมาหรือเปล่า จึงกลับไปที่ห้องพักฟื้น แล้วนั่งลงข้างเตียงหลี่ซูฉิง
“ฮวนฮวน ช่วงนี้หนูเป็นยังไงบ้าง? ยังอยู่ที่ตระกูลเฉินหรือเปล่า?” หลี่ซูฉิงเห็นฮวนฮวนนั่งลง จึงเอ่ยถาม
“หนู………” เฉินฮวนฮวนยังไม่ทันตอบ ประตูห้องพักฟื้นก็ถูกเปิดออก
เธอหันไปดู กลับเห็นเยี่ยจิ่งเฉินพุ่งเข้ามา หน้าของเขาเขียวช้ำ บวมช้ำเลยแหละ ไม่หล่อเหมือนวันทั่วไป
“อาเฉิน ลูกเป็นอะไร!” หลี่ซูฉิงตกใจมาก
“คุณอยู่โรงพยาบาลรุ่ยเอิน?” เฉินฮวนฮวนลุกขึ้น แล้วมองเยี่ยจิ่งเฉิน
“แม่ ทำไมแม่เรียกฮวนฮวนมาล่ะครับ?” เยี่ยจิ่งเฉินเหลือบมองเฉินฮวนฮวน แล้วก้มลงไปพูดกับหลี่ซูฉิง “แม่ไล่คนดูแลออกเหรอครับ?”
“อาเฉิน แม่บอกแล้วว่าอย่าสิ้นเปลือง แม่อยู่คนเดียวได้ วันนี้แม่แค่รู้สึกเหงา นึกถึงฮวนฮวน เลยให้มาอยู่เป็นเพื่อน” หลี่ซูฉิงลุกขึ้นนั่ง พอพูดกับเขาเสร็จ จึงหันยิ้มไปทางเฉินฮวนฮวน
เฉินฮวนฮวนอึ้งไปชั่วขณะ
เมื่อกี้เธอด่าเยี่ยจิ่งเฉินในโทรศัพท์ ด่าว่าเขาไม่สนใจแม่ ไม่คิดเลยว่าเขาจ้างคนดูแลมาแล้ว
เขาไม่ได้ไม่สนใจแม่ตัวเอง
เฉินฮวนฮวนเพิ่งรู้ว่าเข้าใจผิด ตอนนี้จึงทำตัวไม่ค่อยถูก
อีกอย่าง ที่ยิ่งอึดอัดไปกว่านั้นคือ หลี่ซูฉิงเอาแต่ถามเรื่องแผลของเขา
เฉินฮวนฮวนรู้ว่าลูกน้องของเฟิงหานชวนเป็นคนลงมือ
เยี่ยจิ่งเฉินแค่เหลือบมองเธอ จากนั้นก็พูดกลบเกลื่อนว่า “มีเรื่องกับพวกอันธพาลนิดหน่อยครับ”
จากนั้นหลี่ซูฉิงจึงตบมือเยี่ยจิ่งเฉินเสียงดัง แล้วต่อว่า “ลูกโตแล้ว ไปมีเรื่องกับอันธพาลได้ยังไง? ฮวนฮวนอยู่นี่ด้วย ลูกนี่ขายหน้าจริงๆ!”
เฉินฮวนฮวนยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกอึดอัดกว่าเดิม
“คุณน้าคะ ในเมื่อเยี่ยจิ่งเฉินมาแล้ว งั้นหนูกลับก่อนนะคะ” เธอไม่อยากอยู่ห้องเดียวกันกับเขา
“ฮวนฮวน!” หลี่ซูฉิงรีบจับมือเฉินฮวนฮวนไว้ แล้วเอ่ยว่า “ในเมื่อมาแล้ว จะรีบไปทำไมล่ะ? น้ารู้ว่าเราเกลียดอาเฉิน เพื่อน้า หนูคิดซะว่าเขาเป็นเพื่อนธรรมดาๆได้ไหม?”
“น้าหลี่คะ……” เฉินฮวนฮวนขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้ว่าควรตอบยังไง
เธอหันมองเยี่ยจิ่งเฉิน กับเรื่องตอนนั้น เธอไม่รู้สึกอะไรแล้ว แต่กับเยี่ยจิ่งเฉินคนนี้ เธอก็ยังเกลียดอยู่ดี
เธอจะแกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้ เป็นเพื่อนกับเขา ยังทักทายเขา นี่เป็นไปไม่ได้
“ก็ได้ฮวนฮวน น้าไม่บังคับหนู เอาอย่างนี้ หนูอยู่กับน้าอีกสักพักได้ไหม?” หลี่ซูฉิงจับมือเธอไว้แน่น
เฉินฮวนฮวนก็ปฏิเสธไม่ได้ จึงต้องอยู่ต่อ แล้วเยี่ยจิ่งเฉินก็อยู่ในห้องด้วย เอาแต่ยุ่งกับการเทน้ำ ปอกแอปเปิลให้หลี่ซูฉิง
เขาก็ทำให้เธอเหมือนกัน แต่เธอไม่ดื่มน้ำ ไม่กินแอปเปิลเลย
เฉินฮวนฮวนอยู่ไปอีกสักพัก รู้สึกว่าบรรยากาศอึดอัด เธอจึงลุกขึ้นแล้วเอ่ยว่า “คุณน้าคะ พรุ่งนี้หนูต้องไปฝึกอบรม ยังไม่ได้จัดของเลยค่ะ หนูต้องกลับแล้วค่ะ”
เธอไม่ได้โกหก เธอควรกลับไปเก็บของแล้ว
“ฝึกอบรม? หนูจะไปฝึกอบรมเหรอ?” หลี่ซูฉิงอดถามไม่ได้
“รุ่นพี่หนูบาดเจ็บค่ะ หนูเลยไปแทนพี่เขา” เฉินฮวนฮวนโบกมือให้หลี่ซูฉิง “ไว้เจอกันใหม่ค่ะคุณน้า”
หลี่ซูฉิงรั้งเธอไว้ไม่ได้จริงๆ จึงรีบส่งสายตาให้เยี่ยจิ่งเฉิน “อาเฉิน ลูกไปส่งฮวนฮวนสิ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ” เฉินฮวนฮวนรีบปฏิเสธ แล้วหันเดินออกไป
เยี่ยจิ่งเฉินรีบตามออกไปด้วย ทั้งสองจึงหยุดลงที่หน้าลิฟต์
“ฮวนฮวน เดี๋ยวผมส่งลงไปข้างล่างได้ไหม?” เยี่ยจิ่งเฉินไม่ยอมถอดใจ
เฉินฮวนฮวนขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วถามกลับว่า “คุณยังโดนซ้อมไม่พอเหรอ?”
สีหน้าเยี่ยจิ่งเฉิงเปลี่ยนไปทันที เขาจับเบ้าตาที่เจ็บบวมของตัวเอง ในใจไม่โอเคมาก
“เธอกับเฟิงหานชวน เป็นสามีภรรยากันจริงๆ?” เขาเอามือลง แล้วถามเธอ
เฉินฮวนฮวนกัดริมฝีปาก ไม่ได้ตอบ
ทีแรกเธออยากตอบว่าใช่ แต่พอนึกได้ว่าเฟิงหานชวนเป็นผู้ชายที่น่ากลัวขนาดนั้น เธอจึงไม่กล้ายอมรับความสัมพันธ์นี้
เธอกลัว กลัวว่าตัวเองจะเป็นเหมือนหลิ่วเยว่เอ่อร์
“เพราะฉะนั้น ที่พวกเธอพูดที่ตระกูลเฉิน แค่แสดงละคร?” เยี่ยจิ่งเฉินถาม “เพราะผมถ่ายรูปพวกนั้น แล้วพวกเธอกลัวว่าตระกูลเฟิงจะเสียหน้า เลยบอกว่าเป็นสามีภรรยากัน?”
“เยี่ยจิ่งเฉิน คุณยังโดนสั่งสอนไม่พอเหรอ? พูดกับฉันได้ คุณกล้าพูดกับเฟิงหานชวนไหม?” เฉินฮวนฮวนรำคาญเขามาก
คนที่เธอไม่อยากพูดถึงตอนนี้ แต่เยี่ยจิ่งเฉินกลับเอาแต่ถาม
“ฮวนฮวน เธอเปลี่ยนไปเยอะมาก แต่ก่อนเธอไม่ทำแบบนี้แน่นอน” เยี่ยจิ่งเฉินถอนหายใจ
“เหอะ” เฉินฮวนฮวนแค่ยิ้มอย่างเย็นชา นึกถึงคำพูดที่เฉินซินโหรวพูดตอนเช้า เธอรู้สึกเสียดสีมาก
เธอมองเยี่ยจิ่งเฉิน รู้สึกว่าบนหัวเขาโดนสวมเขา
เห็นว่าฮวนฮวนดูผมตัวเอง เยี่ยจิ่งเฉินจึงรีบส่องตัวเองจากแสงสะท้อนประตูลิฟต์ เห็นว่าไม่มีอะไร แล้วทรงผมก็ยังเป็นระเบียบอยู่
“บนหัวผมมีอะไร? ทำไมเธอเอาแต่มอง” เยี่ยจิ่งเฉินอดถามไม่ได้
“มีสิ” เฉินฮวนฮวนขำแล้วเอ่ย “มีเขา”
สีหน้าที่เริ่มดีขึ้นของเขา ตอนนี้กลับเขียวไปเลย
“ฉันกับคุณ ไม่มีความแค้นอะไรกัน ก็แค่คุณเป็นแฟนของเฉินซินโหรว เลยโดนลูกหลงไปด้วย เพราะฉะนั้นอีกหน่อยถ้าคุณเจอฉันก็เดินอ้อมด้วย จะได้ไม่โดนซ้อม”
ถึงในใจเธอไม่ค่อยมั่นใจ แต่กับเยี่ยจิ่งเฉิน เธอก็ยังเอ่ยขู่เขา
ทันใดนั้น ประตูลิฟต์ก็ค่อยๆเปิดออก
เฉินฮวนฮวนก้าวเดินเข้าไป แต่เหมือนนึกอะไรได้ ตอนที่หันหลังกลับมา จึงเห็นเขากำลังจะเดินเข้ามาพอดี
“หยุด! คุณอย่าเข้ามา!” เฉินฮวนฮวนพูดอย่างเข้มงวด “ฉันไม่ต้องให้คุณส่ง ถ้าคุณว่าง ก็ไปอยู่กับคุณน้าเถอะ”
พูดจบ เธอก็กดปิดประตูลิฟต์
เยี่ยจิ่งเฉินยืนมองประตูลิฟต์ปิดลง
พอกลับไปที่ห้องพักฟื้นแล้ว หลี่ซูฉิงจึงจับแขนลูกชายไว้แล้วเอ่ยถาม “ลูกขอโทษฮวนฮวนหรือยัง?”
“แม่ครับ ทำไมอยู่ๆถึงเรียกเธอมา?” เยี่ยจิ่งเฉินไม่ทันตั้งตัว หลี่ซูฉิงไม่ได้บอกเขาล่วงหน้า
“จะทำไมล่ะ? ตอนนี้ฮวนฮวนเป็นคนตระกูลเฟิง แล้วลูกก็โดนคนตระกูลเฟิงซ้อมขนาดนี้ แม่ก็ต้องเรียกเธอมาแล้วตีสนิทสิ!”
“ลูกไม่มีอำนาจสืบทอดตระกูลเยี่ย อีกหน่อยถ้าลูกจะตั้งบริษัท อาจจะต้องให้คนอื่นช่วย ไม่แน่ฮวนฮวนอาจจะช่วยลูกพูดกับตระกูลเฟิงก็ได้!”
หลี่ซูฉิงจับแขนเยี่ยจิ่งเฉินไว้แล้วเอ่ย “ลูกดูสิ ผู้หญิงที่ลูกไม่เอา แต่ตระกูลเฟิงกลับหวงมาก! เฉินซินโหรวนั่นมีอะไรดี?”
“ถ้าตอนนั้นลูกไม่เจ้าชู้ ฮวนฮวนจะเป็นของตระกูลเฟิงได้ยังไง? แม่ไม่สบายใจมาก!”
“ฮวนฮวนโดนตระกูลเฟิงแย่งไป แล้วลูกก็โดนซ้อมขนาดนี้ แล้วเฉินซินโหรวไม่เคยมองแม่ด้วยซ้ำ แม่ยังเป็นโรคแบบนี้อีก……”
หลี่ซูฉิงเอาแต่ระบายทุกข์ เยี่ยจิ่งเฉินยิ่งคิดก็ยิ่งเก็บกด ยิ่งคิดยิ่งโมโห
ถ้าตอนนั้นเขาไม่นอกใจ อาจจะไม่เกิดเรื่องพวกนี้ก็ได้ ถึงความรู้สึกเขากับฮวนฮวนไม่ลึกซึ้งมาก แต่ก็ยังถือว่าคงที่อยู่
แล้วอีกอย่าง เฉินฮวนฮวนไม่มีทางสวมเขาเขาแน่นอน แต่เฉินซินโหรวทำ!