อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย - บทที่ 14 คำสารภาพของหัวหน้า
“เยว่เอ่อร์ ฉันขอบคุณเธอนะ”
เฉินฮวนฮวนรู้สึกขอบคุณเธอมาก เมื่อเธอเห็นว่าหลิ่วเยว่เอ่อร์กำลังดูภาพวาดอย่างใจจดใจจ่อโดยคิดว่าหลิ่วเยว่เอ่อร์เองก็คงอยากที่จะช่วยเหลือเธอ
“โอเคๆ ฉันเข้าใจแล้ว จะมาเกรงใจฉันทำไม? เธอไม่ต้องกังวลนะ คืนนี้ฉันจะไปที่ห้องเก็บของเพื่อช่วยเธอหาสร้อย ไม่เพียงแต่ห้องเก็บของเท่านั้น ฉันจะหาตามห้องล็อกเกอร์ของพนักงานตรงทางเดินและที่อื่น ๆ แล้วก็จะช่วยเธอถามคนอื่นให้ด้วย โอเคไหม? ”
หลิ่วเยว่เอ่อร์ร่ายยาว ๆ ทำเหมือนเธอดูกระตือรือร้น แต่ในความเป็นจริงแล้วคือเธอก็แค่ต้องการเล่นสนุกเท่านั้น
“ขอบคุณนะ เยว่เอ่อร์”เฉินฮวนฮวนรู้สึกขอบคุณเธอมากๆ
“เออใช่ฮวนฮวน เธออยากหาห้องเช่าใช่ไหม? เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอถามเจ้าของบ้านของฉันดูให้นะ เหมือนว่าเธอจะยังมีห้องว่างอยู่! “หลิ่วเยว่เอ่อร์พับภาพวาดอย่างเรียบร้อยและเก็บใส่ลงในกระเป๋า
เฉินฮวนฮวนไม่ได้คิดที่จะปิดบังอยู่แล้วจึงเอ่ยปากขึ้น: “คุณยายฉันเสียแล้ว เสียไปเมื่อคืนวันศุกร์นี้เอง ฉันวางแผนว่าจะย้ายออกมาหาที่อยู่สักพัก”
เธอไม่ได้บอกว่าจะย้ายออกไปอยู่ที่ไหนและเธอไม่กล้าพูดอะไรมากเกี่ยวกับตระกูลเฟิง ดังนั้นเธอจึงเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
“ห่ะ…..”หลิ่วเยว่เอ่อร์ปิดปากของเธอและอุทานออกมา จากนั้นก็แสร้งทำเป็นปลอบโยนเธออย่างอ่อนโยน: “ฮวนฮวน ไม่ต้องเสียใจไปเลยนะ ยายของเธอทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยและการจากไปก็น่าจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของท่านได้เช่นกัน”
“อืม”เฉินฮวนฮวนเพียงแค่พยักหน้าเบา ๆ
บางทีคุณยายอาจต้องการที่จะจากไปจริงๆ
……
คลาสของวันนี้จบลงตอนสี่โมงเย็น
เมื่อเสร็จแล้วเฉินฮวนฮวนก็รีบไปที่ร้านชานมในโรงเรียนที่เธอทำงานพาร์ทไทม์อยู่
หลังจากที่เฉินฮวนฮวนเข้ามาในร้าน ก็พบเพียงผู้หญิงที่ชื่อจินตั่วอยู่ในร้าน
จินตั่วกล่าวทักทายเธอในขณะที่กำลังชงชานมอยู่: “ฮวนฮวน เธอมาแล้วเหรอ นี่คือออเดอร์สองรายการที่ยังไม่ได้ทำ เธอรีบมาช่วยหน่อย”
“โอเค ฉันมาช่วยแล้ว”เฉินฮวนฮวนวางกระเป๋าลงและรีบเข้าไปเปลี่ยนชุดทำงาน หลังจากนั้นเธอก็เริ่มวุ่นกับการทำงานทันที
ตกกลางคืน
การเปิดร้านในช่วงเย็นนั้นเป็นไปด้วยดีเพราะทุกวันนี้คนหนุ่มสาวชื่นชอบชานมกันมาก
ในขณะที่เฉินฮวนฮวนกำลังยุ่งอยู่ อีกด้านหนึ่งเฟิงหานชวนก็กำลังนั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะอาหาร ใบหน้าของเขานั้นดูนิ่งเรียบ
แม่บ้านหลี่เดินถือผักมาและวางไว้บนโต๊ะ
“แม่บ้านหลี่ เฉินฮวนฮวนยังไม่กลับมาอีกเหรอ?” ที่นั่งตรงข้ามของเขานั้นว่างเปล่า ซึ่งมันทำให้เฟิงหานชวนรู้สึกอึดอัด
ก่อนหน้านี้เขาก็มักจะกินข้าวคนเดียวอยู่เสมอ
“คุณชายสาม คุณไม่รู้หรอคะ? ฮวนฮวนเธอจะทำงานพาร์ทไทม์ที่โรงเรียนในช่วงค่ำๆและก็จะกลับมาในช่วงดึกๆ ” แม่บ้านหลี่ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน แต่ผู้ดูแลจางเป็นคนบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้
“พาร์ทไทม์?”เฟิงหานชวนขมวดคิ้วและถามอีกครั้ง: “งานพาร์ทไทม์อะไร? เสริฟ ล้างจานเหรอ? ”
“ไม่ใช่ค่ะ เธอทำงานในร้านชานม”แม่บ้านหลี่รายงานเจ้านายตามความเป็นจริง
เฟินหานชวนขมวดคิ้มและอดไม่ได้ที่จะถามว่า: “ร้านชานมไหน?”
“คือ…..คือฉันก็ไม่รู้ค่ะ ฮวนฮวนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย A ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นร้านชานมในมหาวิทยาลัย Aนะคะ “แม่บ้านหลี่ส่ายหัวเล็กน้อย
“ช่างมันเถอะ เธอกับฉันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว”เฟิงหานชวนรู้สึกประหลาดใจในตัวเองเล็กน้อย ที่จู่ๆก็มาสนใจหลานสะใภ้ในบ้าน
เฉินฮวนฮวนคนนั้นจะทำอะไรที่ไหนก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาอยู่ดี
แม่บ้านหลี่เม้มปากของเธอ เธอไม่ได้ตั้งใจจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ แต่เธอก็พูดอย่างจริงจังว่า: “คุณชายสามคะ เรื่องของฮวนฮวนจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณได้อย่างไร? นายท่านตั้งใจจะดูแลผู้หญิงคนนี้ ฉันอยู่กับฮวนฮวนได้สองวันแล้ว ฉันคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่จิตใจดีจริงๆและฉันมองไม่เห็นความชั่วร้ายในตัวเธอเลยสักนิด ฉันคิดว่า … ”
“แม่บ้านหลี่” เฟิงหานชวนขัดจังหวะคำพูดของแม่บ้านหลี่และพูดอย่างเย็นชาว่า: “นายท่านไม่ได้เป็นเจ้านายของผม ผมไม่สามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้ เขาจะต้องกลับมาจัดการกับเรื่องนี้ด้วยตัวของเขาเอง”
“เอ่อ…..หมายถึงคุณต้องการให้ฮวนฮวนรีบออกไปจากที่นี่โดยเร็วใช่ไหมคะ? “แม่บ้านหลี่อดไม่ได้ที่จะถามอีกครั้ง
“ใช่”เฟิงหานชวนจิบชาและตอบเพียงแค่คำเดียว
แม่บ้านหลี่ถอนหายใจและส่ายหัว แล้วจากนั้นเธอก็เดินออกไป
เหลือเพียงแค่เฟิงหานชวนที่ยังคงนั่งอยู่ในห้องรับประทานอาหาร
เวลาเริ่มค่อยๆดึกขึ้นเรื่อยๆ
เฟิงหานชวนนั่งอยู่คนเดียวที่หน้าโต๊ะทำงานในห้องรับรองแขก โดยที่เขายังคงถือสร้อยคอทองคำสีหมองอยู่ในมือ
ผู้หญิงในคืนนั้น เธออยู่ที่ไหนกันนะ?
ในขณะเดียวกันเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นกะทันหัน เขามองและเห็นว่ามันเป็นข้อความข่าวแจ้งเตือน
ในช่วงค่ำที่ผ่านมาบนรถบัสหมายเลข 12 โดยมีผู้โดยสารเพียงแค่ผู้ชายหนึ่งคนและผู้หญิงหนึ่งคน ชายโรคจิตใช้ช่วงเวลาที่คนขับไม่ได้สังเกตใช้ยามอมผู้โดยสารหญิงคนนั้นจนมึนและสลบไป เขากล้าลงมือกระทำไปแบบนั้นได้อย่างไร
หลังจากที่คนขับหยุดรถเขาก็ออกจากรถและหลบหนีไปทันที ตอนนี้ยังไม่ทราบที่อยู่ของเขา ตามรายงานเขามีแนวโน้มที่จะแอบเข้าไปในรถบัสคันอื่นๆและก่ออาชญากรรมอีก
ข่าวนี้เด้งขึ้นมาในโทรศัพท์หลายๆครั้งพร้อมกัน และทำให้ทุกสายตาสนใจไปที่ชายสวมชุดบอลสีดำคนนั้น
ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว และเฟิงหานชวนคิดว่าเฉินฮวนฮวนน่าจะไม่มีเงินและคงจะนั่งรถบัสกลับมาแน่ๆ
ในบริเวณรอบๆคฤหาสน์บอกตามตรงเลยว่าไม่ได้มีผู้คนเดินควั่กไคว่สักเท่าไหร่
ยิ่งไปกว่านั้นสถานีรถบัสยังอยู่ห่างจากบ้านตระกูลเฟิงไปอีกไกล
เธอบอบบางขนาดนั้น ถ้าเธอเจอผู้ชายโรคจิตนั้นจริงๆ กลัวว่าจะไม่มีเรี่ยวแรงร้องให้คนช่วยแน่ๆ
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้เฟิงหานชวนก็ลุกขึ้นยืนและเปิดประตูห้องออกไปทันที
……
เวลาสี่ทุ่มหลังจากเสร็จสิ้นการทำออเดอร์สุดท้าย เฉินฮวนฮวนก็เปลี่ยนชุดทำงานและเดินออกจากร้านชานม
จินตั่วทำงานยุ่งมากในช่วงกะกลางวัน เฉินฮวนฮวนจึงต้องรับผิดชอบการปิดร้านในช่วงดึก
หลังจากปิดประตูร้านเมื่อเธอหันกลับมา เฉินฮวนฮวนก็พบกับผู้ชายที่คุ้นเคย ดวงตาของเธอเบิกกว้างและรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ฮวนฮวน คุณเลิกงานแล้วหรอ?”ชายคนนั้นยิ้มและถาม
“อืม ใช่ หัวหน้าห้อง มาที่นี่เพื่อซื้อชานมหรอ? ขอโทษนะเก็บของไปหมดแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่แล้วกันนะ?”เฉินฮวนฮวนมองไปที่ชายตรงหน้าแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
ชายคนนี้ชื่อเฉิงโม่เป็นหัวหน้าในคลาสเรียน
เฉิงโม่เกาหัวอย่างเขินอาย เขาโบกมือแล้วพูดว่า: “ผม ผมไม่ได้มาซื้อชานม ที่จริงผม …คือผม….”
เขาลังเลและประหม่า
“คุณแค่เดินผ่านมาอย่างนั้นหรอ?”เฉินฮวนฮวนถามออกไป
ในเมื่อไม่ได้มาซื้อชานม แล้วเขาแค่เดินผ่านมาแถวนี้พอดีอย่างนั้นหรอ
“ไม่ ไม่ใช่” เฉิงโม่ยังคงส่ายหัวปฏิเสธอีกครั้ง
“เอ่อ…..”เฉินฮวนฮวนไม่รู้จะพูดอะไร เธอจึงพูดไปว่า: “หัวหน้าน่าจะมีเรื่องยุ่งๆต้องทำใช่ไหม ฉันเลิกงานแล้ว ฉันต้องกลับแล้ว”
คนในชั้นเรียนรู้ว่าเธอเป็นคนพื้นที่และไม่ได้พักอยู่ที่หอพักในมหาวิทยาลัย ตกเย็นเธอจึงต้องกลับบ้าน
“ฮวนฮวน หะ ให้ผมปะ ไปส่งคุณนะ?” เฉิงโม่ขวางเธอไว้
เฉินฮวนฮวนที่กำลังเดินไปข้างหน้าได้เพียงสองก้าวก็ต้องหยุดอีกครั้ง เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและกำลังสงสัยว่าเมื่อสักครู่เธอคงจะได้ยินผิด
“ฮวนฮวน ที่จริงผม …” เฉิงโม่เดินเข้ามาหาเธอและทันใดนั้นดอกกุหลาบที่ถูกซ่อนไว้ด้านหลังของเขาก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเธอ เขายื่นมันให้เธอ
ดวงตาของเฉินฮวนฮวนเบิกกว้างขึ้น
เฉิงโม่สูดหายใจเข้าลึก ๆ และรวบรวมความกล้าที่จะสารภาพว่า: “จริงๆแล้ว ฮวนฮวนผมชอบคุณมานานแล้ว เป็นแฟนกับผมได้ไหม?”