อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย - บทที่ 149 คุณสามารถดูรูปถ่ายได้
เฉินฮวนฮวนไม่รู้ว่าเฟิงหานชวนคิดยังไง เธอเพียงพูดอธิบาย “ก่อนหน้านี้ที่ฉันไม่คิดจะย้ายออกไป เพราะกลัวพ่อจะเสียใจอยู่เหมือนกัน เพราะรู้สึกว่าคนสูงวัยจะกลัวการโดดเดี่ยว ชอบความครื้นเครงมากกว่า”
“แต่ตอนนี้ฉันรู้สึก พวกเราย้ายออกไปล่ะก็ พ่อกับพี่นานาคงสะดวกกว่านี้” เธอลูบหน้าผากเงียบๆ นึกถึงภาพเมื่อคืนที่เห็นบนระเบียง สีหน้าดูอึดอัดเล็กน้อย
“หลังจากกลับมา คุณอยากพักที่ไหน? บ้านเฉินหรืออยากหาที่อยู่ใหม่?” เฟิงหานชวนขอความเห็นจากเธอ
เฉินฮวนฮวนเงยหน้าขึ้น มองไปบนท้องฟ้า เหมือนกำลังคิดอะไร แล้วเธอก้มหน้าลงเล็กน้อย ส่ายหน้าเบาๆ
“บ้านเฉิน ฉันยังไม่อยากกลับไปตอนนี้”
ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากพักที่บ้านเฉิน แต่ว่าบ้านเฉินตอนนี้ ไม่ใช่การตกแต่งที่แม่จัดในปีนั้นอีกแล้ว เต็มไปด้วยข้าวของของเฉินเหม่ยเจวียนกับเฉินซินโหรว
รอเธอหาเงินได้แล้ว เธอคิดจะตกแต่งบ้านเฉินใหม่สักครั้ง เอาร่องรอยทั้งหมดที่เฉินเจี้ยนหมิน เฉินเหม่ยเจวียนและเฉินซินโหรวทิ้งไว้ ทำความสะอาดทั้งหมด
เพราะฉะนั้น ตอนนี้เธอไม่อยากกลับไปอาศัยที่นั่น แต่วันหลัง รอเธอตกแต่งเสร็จแล้ว เธอจะกลับไปอยู่ที่นั่น
“ทั้งเมืองเป่ยเฉิง คุณสนใจพื้นที่ตรงไหน บอกผม ชอบการตกแต่งบ้านแบบไหน อยากอาศัยอยู่บนคอนโด บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ อพาร์ทเมนท์สองชั้น หรือว่าคฤหาสน์?”เฟิงหานชวนถามออกมาเป็นพรวน
เฉินฮวนฮวนเกือบมึนไปกับเขา อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“เฟิงหานชวน คุณเหมือนมหาเศรษฐีคนหนึ่งจัง” เธอหัวเราะไปพลาง คิดไปพลาง พูดว่า “อันที่จริงฉันไม่มีความต้องการอะไร คุณชอบก็พอ ฉันรู้สึกเลือกตำแหน่งหนึ่งที่อยู่ระหว่างกึ่งกลางระหว่างบ้านเฟิงกับบริษัทของคุณ ตรงเขตปั้นเต่านั้น ? ”
“แบบนั้นละก็ จะสะดวกสำหรับคุณที่ไปบริษัททุกวัน แล้วพวกเราก็สามารถกลับไปพักที่บ้านเฟิงตลอดเวลา และไม่ห่างไกลกันมาก คุณรู้สึกว่าไง?”
จู่ ๆ เฟิงหานชวนก็สังเกตเห็น อันที่จริงเฉินฮวนฮวนไม่ใช่ผู้หญิงที่โง่คนหนึ่ง เธอมีความคิดครอบคลุม และคิดถึงความรู้สึกของทุกคน
เพียงแต่เธอไม่ได้คิดถึงตัวเองเลย
“เขตปั้นเต่าห่างจากมหาลัยของคุณค่อนข้างไกล” เฟิงหานชวนพูด “ถ้าหากหลังจากคุณกลับมาแล้วยังต้องไปเรียน พวกเราก็พักตรงชานเมืองฝั่งตะวันตกก่อน”
“ฉันยังคงต้องเข้าร่วมบันทึกรายการ ฉันไม่ค่อยแน่ใจในเวลาเท่าไหร่ แต่ต้องไปเรียนแน่นอน แต่ตอนที่ฉันไม่อยู่ คุณพักตรงชานเมืองตะวันตกคงไม่สะดวกมั้ง…”เฉินฮวนฮวนเกาศีรษะ เข้าสู่สภาวะที่สับสน
เฟิงหานชวนอดหัวเราะไม่ได้ พูดตัดบท “พอแล้ว คุณไม่ต้องคิดแล้ว ผมให้คนเก็บกวาดบ้านหลายๆแห่ง ถึงเวลานั้นพวกเราดูตามสถานการณ์ เปลี่ยนที่พัก”
“วิธีการนี้ของคุณเยี่ยมมาก” ในที่สุดเฉินฮวนฮวนก็รู้ ตัวเองมีปัญหาตัดสินใจไม่ได้อยู่
เพราะฉะนั้น เฟิงหานชวนคิดวิธีการนี้มา เดี๋ยวเดียวก็ขจัดความสับสนของเธอไปได้
แต่เธอพูดขึ้นอีก “วิธีการนี้ดีก็ดีอยู่หรอก แค่เกินจำเป็นไปหน่อย”
เมืองเป่ยเฉิงแห่งนี้ เป็นพื้นที่ราคาแพง เปลี่ยนที่พักไปหลายๆแห่ง เธอไม่เคยมีความคิดนี้มาก่อน
“คุณมีความสุขก็พอ สามีของคุณรวย” ฝ่ามือใหญ่ของเฟิงหานชวนใช้แรงบางส่วน ดึงเธอมากอดแน่น
เฉินฮวนฮวนกลั้นยิ้มเอาไว้ ซบบนไหล่ของชายหนุ่มอย่างเขินอาย
เธอคิดเงียบๆ อยู่ในใจ เฟิงหานชวนเพียบพร้อมขนาดนี้ เธอก็ต้องกลายเป็นคนที่เพียบพร้อมเหมือนกัน แบบนี้ถึงมีคุณสมบัติยืนเคียงข้างเขา
เธอไม่อยากจะพึ่งพาแต่เฟิงหานชวน ใช้ชีวิตสุขสบายแบบนั้น เธอต้องกลายเป็นคนที่เก่งถึงจะใช้ได้
เพียงแต่ ความคิดนี้ของเธอ เป็นความคิดเงียบๆ อยู่ในใจ ไม่ได้พูดออกมา
พวกเขาเพิ่งเดินถึงประตูใหญ่ของพื้นที่คฤหาสน์ มือถือของเฉินฮวนฮวนก็ดังขึ้น เธอล้วงมือถือออกมาดู เกาเหวินโทรเข้ามา
เฉินฮวนฮวนรีบกดรับ “พี่เหวิน”
“โอ๊ย ฮวนฮวน เธออยู่บ้านเลขที่เท่าไหร่ ฉันขับเข้าไปรับเธอเลยดีกว่า ฉันใกล้ถึงแล้ว” น้ำเสียงของเกาเหวินดังขึ้น
“พี่เหวิน ตอนนี้ฉันถึงประตูใหญ่แล้ว” เฉินฮวนฮวนตอบกลับ
“อ้อๆ เธอถึงแล้ว งั้นเธอรอฉันสักสองสามนาทีแล้วกัน ฉันยังเหลืออีกแยกหนึ่ง วางสายก่อน ” เกาเหวินพูดเสร็จ ก็กดตัดสายทิ้งเลย
เฉินฮวนฮวนเอามือถือเข้ากระเป๋า หมุนตัวยื่นมือจับที่ถือกระเป๋าของตัวเองไว้ ดึงกระเป๋าจากข้างตัวเฟิงหานชวน มาที่ข้างตัวเอง
เธอเงยหน้า มองใบหน้าหล่อของผู้ชายตรงหน้า คิดไม่ถึงว่าภายในใจจะมีความรู้สึกอาลัยอาวรณ์อยู่นิดๆ
“อาหาน รุ่นพี่ของฉันใกล้ถึงแล้ว คุณกลับไปเถอะ อีกครั้งเดือนพวกเราค่อยพบกันใหม่ ” เฉินฮวนฮวนโบกมือให้เฟิงหานชวน เอ่ยอำลากับเขา
เฟิงหานชวนจับที่ถือไว้อีกครั้ง ดึงกระเป๋ามาข้างตัวเอง นึกถึงพวกเขาสองคนต้องห่างกันครึ่งเดือน สีหน้าเขาดูแย่เล็กน้อย
เฉินฮวนฮวนกะพริบตาแปลกใจเล็กน้อย กับการกระทำของเฟิงหานชวน พูดกึ่งถามกึ่งล้อเล่น “คุณคงไม่อยากให้ฉันไปสินะ?”
“ใช่” เฟิงหานชวนตอบกลับอย่างไม่ลังเลใจเลย
“ฉัน…” เฉินฮวนฮวนคิดไม่ถึงว่าเฟิงหานชวนจะตอบกลับอย่างหนักแน่นแบบนี้ ใบหน้าเล็กเริ่มแดงขึ้นอีกแล้ว
“ครึ่งเดือน หรือก็คือสองสัปดาห์ ไม่นานหรอก” ดวงตาที่เปล่งประกายคู่นั้นของเธอ มองไปทางผู้ชายตรงหน้า พูดเสียงเบา
“ครึ่งเดือน นานมาก รวมเวลาทั้งหมดที่พวกเราอยู่ร่วมกัน ยังไม่ถึงครึ่งเดือนเลย” เฟิงหานชวนอยากจะรั้งผู้หญิงคนนี้ไว้ แต่ว่าเขาไม่อยากช่วงชิงอุดมคติของเธอ
เพราะฉะนั้น ตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ค่อยดี แสดงสีหน้าหม่นลงเรื่อย ๆ
ได้ยินเฟิงหานชวนพูดถึงปัญหาเรื่องเวลานี้ เฉินฮวนฮวนนิ่งอึ้งไปสักพัก ยื่นมือเกาศีรษะ ตอนนี้ถึงรับรู้ถึงสถานการณ์นี้
เวลาที่เธออยู่ร่วมกันกับเฟิงหานชวน ยังไม่ถึงครึ่งเดือนจริงๆ แล้วพวกเขาสองคนก็ต้องห่างกันครึ่งเดือน
ตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้าบ้านเฟิง ถึงตอนนี้ยังไม่ถึงสองสัปดาห์จริงๆ แต่เธอรู้สึกเหมือนผ่านไปนานแล้ว
ความสัมพันธ์ของคน เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์เรื่องหนึ่งจริงๆ ไม่แปลกที่จะมีคำพูดที่ว่ารักแรกพบ
แต่เธอและเฟิงหานชวนไม่ถือว่าเป็นรักแรกพบ เพราะฉะนั้นแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา เป็นเรื่องหนึ่งที่มหัศจรรย์มากกว่า
“งั้นพวกเราถ่ายรูปกันไหม ?” ระหว่างที่พูด เฉินฮวนฮวนล้วงเอามือถือตัวเองออกมาอีกครั้ง เลือกโหมดถ่ายรูปออกมา
ถึงแม้เธอกับเฟิงหานชวนแต่งงานกันแล้ว แต่ว่าพวกเขาสองคนกลับไม่เคยถ่ายรูปด้วยกันมาก่อน รวมไปถึงรูปบนบัตรแต่งงาน ก็ว่างอยู่เหมือนกัน
อย่าพูดถึงรูปชุดแต่งงานเลย
เฉินฮวนฮวนยกมือถือขึ้น แล้วไปยืนข้างตัวเฟิงหานชวน เขย่งปลายเท้าเอียงศีรษะเข้าใกล้ศีรษะของเขา แล้วกดปุ่มถ่ายรูป
มือถือของเธอราคาถูกมาก ดังนั้นคุณภาพที่ถ่ายออกมา ไม่ค่อยดี แต่ก็คือว่าชัดเจนอยู่ เธอเปิดวีแชต ส่งรูปใบนี้ไปที่ไอดีของเฟิงหานชวน
“เสร็จแล้ว พวกเรามีรูปถ่ายแล้ว ถ้าหาก…แค่กๆ คุณสามารถมองรูปถ่ายได้ ” เฉินฮวนฮวนหยุดพูดไป เขินอายเล็กน้อย ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ
เดิมทีเธออยากพูดกับเฟิงหานชวนก็คือ ถ้าหากเขาคิดถึงเธอแล้ว สามารถมองรูปถ่ายของเธอได้
เฟิงหานชวนก็เอามือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงสแล็คเหมือนกัน เปิดไปที่วีแชต เห็นรูปถ่ายที่เฉินฮวนฮวนส่งมา มุมปากเขายกขึ้นช้าๆ
“ผมจะดูมันทุกคืน”