อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย - บทที่ 177 ผู้ชายคนนั้นชื่อว่าเฟิงหานชวน
เฉินฮวนฮวนเพียงรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเหมือนถูกบีบเค้น และรู้สึกหายใจไม่ออก
เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองน้ำตาไหล เธอรีบยกข้อมือขึ้น เพราะมือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยน้ำตา เธอทำได้เพียงใช้ข้อมือเช็ดน้ำตาเท่านั้น
เธอรู้สึกว่าตัวเองช่างน่าขำเสียจริง นึกไม่ถึงเลยว่า เธอยังจะร้องไห้ให้กับผู้ชาย บทเรียนที่เยี่ยจิ่งเฉินให้ไว้กับเธอยังไม่พออีกอย่างนั้นเหรอ
อันที่จริงเธอไม่ปฏิเสธว่าเฟิงหานชวนดีกับเธอ ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ผู้ชายที่ดีเลิศเช่นนั้น จะเกาะติดอยู่กับผู้หญิงอย่างเธอเพียงคนเดียวได้อย่างไร
เฉินฮวนฮวนสูดหายใจเข้าลึก บังคับน้ำตาที่เอ่อล้นอยู่บนขอบตาให้ไหลกลับเข้าไป เธอพยายามสงบสติอารมณ์ และซักเสื้อผ้าในกะละมังต่อไป
ภายในหอพัก เสียงพูดคุยของจ้าวซีและฉิวอิ๋งดังจอแจขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินฮวนฮวนไม่มีอารมณ์จะสนใจ และขี้เกียจเกินกว่าจะให้ความสนใจ
ไม่ง่ายเลยที่จะซักผ้าให้เสร็จ ขณะที่เธอกำลังยกกะละมังเดินไปที่ระเบียง “ปัง” จู่ๆ ประตูก็ถูกเปิดออก
เฉินฮวนฮวนหันกลับไปมอง พบว่าหลินอวี่หยางบุกเข้ามาอีกครั้ง เธอถามอย่างสงสัย “เธอมาทำไมอีก”
“ฮวนฮวน ฉันคิดว่าถ้าฉันปิดบังสถานะของเฟิงหานชวน เด็กฝึกหัดคนอื่นจะแอบเกลียดเธอได้นะ ฉันตัดสินใจจะบอกสถานะของเขา!” หลินอวี่หยางเดินไปหาเฉินฮวนฮวน และกล่าวอย่างกังวล
เฉินฮวนฮวนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะตอบกลับอย่างใจเย็น “เธอพูดออกไปแล้ว”
“อื้อ!” หลินอวี่หยางรีบปิดปากตัวเอง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก “ตอนแรกฉันจะมาถามความเห็นจากเธอ แต่สุดท้ายฉันเอง…”
หลินอวี่หยางกระทืบเท้าด้วยความเสียใจ
“หยางหยาง ผู้ชายคนนั้นชื่อเฟิงหานชวนเหรอ ชื่อนี้คุ้นหูมากเลยนะ!” จ้าวซีเดินเข้ามาอย่างตื่นเต้น
เฉินฮวนฮวนหันมามองหลินอวี่หยาง และกล่าวว่า “เธอไม่กลัวอาจารย์หนีว่าเหรอ”
ความจริงแล้ว เฉินฮวนฮวนกังวลว่าหนีซวงจะตำหนิเธอ ถึงขนาดที่ว่าโกรธมาก เธอจะพูดความสัมพันธ์ของเธอกับเฟิงหานชวนออกมาไหม
ก่อนหน้านี้เธอไม่ต้องการเปิดเผยความสัมพันธ์ เพราะเธอไม่ต้องการอยู่ภายใต้บารมีของเฟิงหานชวน เธอต้องการใช้ความพยายามของตัวเอง และเข้าร่วมการคัดเลือกอย่างจริงจัง
ทว่าตอนนี้ เธอไม่คาดหวังให้คนอื่นรู้ความสัมพันธ์ของเธอและเฟิงหานชวน เพราะว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างเฟิงหานชวนไม่ใช่ตัวเอง
“ฮวนฮวน นี่เธอกำลังเป็นห่วงฉันเหรอ” หลินอวี่หยางดูดีใจมาก เธอเอื้อมมือไปตบไหล่เฉินฮวนฮวน และกล่าวอย่างมั่นใจ “เธอไม่ต้องห่วง อาจารย์หนีว่าฉันไม่ได้หรอก ในเมื่อฉันหลุดปากไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันบอกรูมเมทของเธอนะ”
หลังจากนั้น หลินอวี่หยางมองไปที่จ้าวซี และกล่าวต่อว่า “ในเมื่อเธออยากรู้มาก ฉันก็จะบอกอีกรอบ ผู้ชายคนนั้นชื่อว่าเฟิงหานชวน”
“หยางหยาง เธอเพิ่งพูดว่าผู้ชายคนนั้นชื่อเฟิงหานชวน ฉันรู้สึกว่าชื่อของเขาคุ้นหูมาก แต่ก็คิดไม่ออกว่าเขาเป็นใครกันแน่” จ้าวซีรู้สึกเหมือนเคยได้ยินชื่อนี้จากที่ไหนสักแห่ง ทว่าภายในเวลาอันสั้นเธอคิดไม่ออกจริงๆ
ในตอนนี้เอง ฉิวอิ๋งยืนขึ้นทันที และสาวเท้าเดินเข้ามาถามว่า “หลินอวี่หยาง เฟิงหานชวนเป็นซีอีโอของRกรุ๊ปใช่ไหม ฉันจำได้ว่าเหมือนจะเคยได้ยินชื่อนี้ในข่าวเศรษฐกิจ!”
“อะไรนะ! Rกรุ๊ป?”
จ้าวซี หวังซูเหม่ย เฉินเจี๋ย และติงเซียง พวกเธอทั้งสี่คนต่างตะโกนเป็นเสียงเดียวกันด้วยความรู้สึกตกใจ
“ใช่ ซีอีโอของRกรุ๊ป ดังนั้นฉันจะบอกว่า ตำแหน่งของเฟิงหานชวนสูงมาก พวกเธอไม่สามารถเข้าถึงได้เลย ทำได้แค่ฟังชื่อเสียงเรียงนามเขา และมองเขาจากที่ไกลไกลเท่านั้นล่ะ” หลินอวี่หยางไม่ได้ตั้งใจจะเย้ยหยันจ้าวซีและคนอื่นๆ เธอเป็นคนที่ค่อนข้างจะตรงไปตรงมา และไม่ชอบพูดจาอ้อมค้อม
“นี่…” แม้ว่าจ้าวซีจะรู้สึกสะเทือนใจ ทว่าเธอกลับถอนหายใจด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย
เพราะว่าหลินอวี่หยางพูดถูก คนธรรมดาอย่างพวกเธอ ปกติแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคบค้าสมาคมกับผู้ชายระดับเฟิงหานชวน
ทว่า…
“ทำไมเฟิงหานชวนมาปรากฏตัวที่เขตกิจกรรม เขาถือหุ้นของหวาเถิงใช่ไหม เขามาที่เขตกิจกรรมด้วยตัวเอง หรือว่าเขามาคุมงานอย่างนั้นเหรอ ดูไม่ค่อยเหมือนเลยนะ!” จ้าวซีถามด้วยความสงสัย
“ใช่ เธอพูดมีเหตุผล เฟิงหานชวนมาทำอะไรที่เขตกิจกรรม” หลินอวี่หยางเพิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
แม้ว่าจะเป็นการคัดเลือกครั้งยิ่งใหญ่ ทว่าจากความเข้าใจของเธอ พวกเขาไม่น่าปล่อยให้เฟิงหานชวนมาลงพื้นที่ด้วยตัวเองหรอก อย่างมากสุดก็แค่ลงทุนเท่านั้นแหละ
อยู่ดีๆ เฟิงหานชวนคนนี้ จะมาปรากฏตัวอยู่ในเขตกิจกรรมได้อย่างไรล่ะ
“ใช่ เขามาทำอะไรที่นี่ หยางหยาง เธอไม่ได้ถามอาจารย์หนีเหรอ” จ้าวซีร้อนใจเป็นอย่างมาก
“ฉันไม่ได้ถามจริงๆ” หลินอวี่หยางเกาศีรษะตัวเอง ก่อนจะมองไปที่เฉินฮวนฮวน และถามความคิดเห็นของเฉินฮวนฮวน “ฮวนฮวน เธอยังอยากรู้ไหม ถ้าเธออยากรู้ ฉันจะไปถามอาจารย์หนี”
“ฉันไม่อยากรู้” เฉินฮวนฮวนส่ายหน้าเบาๆ แล้วยกกะละมังเดินไปที่ระเบียง
เมื่อเห็นเฉินฮวนฮวนกำลังตากผ้าอยู่ที่ระเบียง จ้าวซีกัดฟันกรอด เธอดึงแขนของหลินอวี่หยางอีกครั้ง และกล่าวอย่างออดอ้อน “หยางหยาง เธอช่วยพวกเราถามดีไหม”
“ไม่ดี! เอามือเธอออกไป เธออย่าได้คืบจะเอาศอก!” หลินอวี่หยางสลัดมือของจ้าวซีออก ใบหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิด และกล่าวว่า “ฉันบอกสถานะของเฟิงหานชวนกับพวกเธอ ก็หวังว่าพวกเธอจะไม่พูดจาให้ร้ายเฉินฮวนฮวน ถ้าฉันรู้ พวกเธอได้เจอดี!”
มุมปากของจ้าวซีกระตุกขึ้น เธอได้แต่รีบปฏิเสธว่า “ไอหยา พวกเราไม่ได้พูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับเฉินฮวนฮวนนะ แค่ร้อนใจเกินไปเท่านั้นเอง เราอยากรู้เรื่องของเฟิงหานชวนนี่”
“ยังไงฉันก็บอกสถานะของเฟิงหานชวนกับพวกเธอแล้ว พวกเธอก็อย่าหาเรื่องเฉินฮวนฮวนอีก ฉันพูดไว้ตรงนี้เลยนะ” ใบหน้าเหมือนกำลังซุบซิบนินทาของหลินอวี่หยางเมื่อสักครู่ พลันเปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมา
จ้าวซีไม่กล้าทำให้หลินอวี่หยางขุ่นเคือง เธอเบะปาก ก่อนจะกล่าวว่า “พวกเราไม่ได้หาเรื่องเฉินฮวนฮวน มีเธออยู่ทั้งคน พวกเรากล้าที่ไหนล่ะ”
เมื่อหลินอวี่หยางได้ฟัง ใบหน้าของเธอผ่อนคลายลงไม่น้อย และพึงพอใจขึ้นมาบ้าง หลังจากนั้นเธอก็เดินไปที่ระเบียง
เมื่อเฉินฮวนฮวนตากเสื้อผ้าเสร็จ เธอยกกะละมังขึ้นแล้วหันกลับมาหาหลินอวี่หยาง และรีบกล่าวว่า “หลินอวี่หยาง เธอกลับไปพักผ่อนเร็วหน่อยเถอะ”
หลินอวี่หยางขยิบตาให้เธอ แล้วยัดโทรศัพท์มือถือใส่มือของเธอ
เฉินฮวนฮวนไม่เข้าใจ เมื่อเธอก้มลงมอง พบว่าบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือมีข้อความสองสามบรรทัด เธอจึงอ่านอย่างตั้งใจ
[ฮวนฮวน เธออย่าเศร้าเลยนะ
ฉันรู้ว่าจริงๆ แล้วเธอชอบเฟิงหานชวนมาก สายตาของเธอมันฟ้อง ฉันจะเล่าอะไรให้เธอฟัง
วันนี้ตอนเย็นพ่อของฉันไปร่วมงานเลี้ยง รูปที่ฉันให้เธอดูเป็นรูปที่ฉันให้พ่อแอบถ่ายที่งานเลี้ยง ฉันเคยเห็นผู้หญิงคนนั้นมาก่อนนะ แต่ฉันลืมไปแล้วว่าใคร เมื่อกี้ฉันถามพ่อมาแล้ว
เธอเป็นคุณหนูใหญ่ของหลีซื่อกรุ๊ป อันที่จริงเธอเป็นผู้หญิงที่มีชื่อเสียงในแวดวงไฮโซ ชื่อว่าหลีซืออวิ๋น เธอรู้จักกับเฟิงหานชวนตั้งแต่เด็กแล้ว
สรุปแล้ว ฉันก็ไม่รู้ว่าพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันหรือเปล่า พ่อของฉันก็ไม่รู้ บางทีเธอยังมีหวังนะ รอจบการฝึกอบรม ฉันจะพาเธอไปหาเฟิงเฉินเหยี่ยน]
หลังจากเฉินฮวนฮวนอ่านจบ เธอนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย
เดิมทีเธอรู้สึกเปล่าเปลี่ยวใจ และทุกข์ใจเป็นอย่างมาก ทว่าตอนนี้เธอกลับรู้สึกถึงกระแสไออุ่นไหลเข้าสู่หัวใจของเธอ
เธอเงยหน้าขึ้นมองหลินอวี่หยางแล้วยิ้มน้อยๆ “ขอบใจนะ”