อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย - บทที่ 201 เฟิงหานชวนดูเหมือนจะประหม่าเล็กน้อย
“อบรมเธอนานขนาดนั้น แต่กลับไม่ปลดเธอออก…เธอวิ่งไปร้องไห้ที่ห้องน้ำหญิง มันเกิดขึ้นอะไรขึ้น” จ้าวซีไม่ใช่คนโง่ เธอเริ่มสงสัยขึ้นมาทันที
อย่างไรเธอก็เป็นผู้หญิง ใครๆ ก็บอกว่าสัมผัสที่หกของผู้หญิงนั้นแรงมาก เธอรู้สึกว่าเหตุผลนั้น ไม่ง่ายอย่างที่เฉินฮวนฮวนบอก
“ฉันจะร้องไห้ไม่ร้องไห้ เหมือนว่าจะไม่เกี่ยวอะไรกับเธอนะ” เฉินฮวนฮวนเหลือบมองไปที่ห้องน้ำ ดูเหมือนว่าทุกคนจะอาบน้ำกันเสร็จแล้ว ดังนั้นเธอจึงหยิบชุดนอนของตัวเอง และเดินไปที่ห้องน้ำ
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของเฉินฮวนฮวน จ้าวซีเรียกเธอไว้ทันที “เฉินฮวนฮวน เธอหยุดนะ! เธอล้อฉันเล่นเหรอ”
“ฉันล้อเธอเล่นยังไง” เฉินฮวนฮวนหันกลับมา ใบหน้าของเธอนิ่งเรียบ
“เธอให้ฉันขอโทษติงเซียง แต่เธอไม่ยอมบอกความจริงฉัน!” จ้าวซีจ้องอย่างโกรธเคือง เธอกระทืบเท้าด้วยความโกรธ
“ฉันเพิ่งบอกเธอไปไม่ใช่เหรอ ฉันแค่พูดว่าฉันบอกเธอได้ ไม่ได้พูดว่าจะบอกเธออย่างละเอียด” เฉินฮวนฮวนเหยียดยิ้ม ก่อนจะหมุนตัวเดินไปที่ห้องน้ำแล้วล็อกประตู
เมื่อได้ยินเสียงปิดประตู จ้าวซีขยุ้มทึ้งเส้นผมของตัวเองด้วยความโมโหจัด เธอตะโกนเสียงดัง “อ๊าก…เฉินฮวนฮวน!”
“เธอรังแกฮวนฮวนของฉันอีกแล้วเหรอ”
ในเวลานี้เอง “ปัง” ประตูห้องพักถูกผลักออก หลินอวี่หยางเดินกระฟัดกระเฟียดเข้ามา เธอเขย่งปลายเท้าคว้าคอของจ้าวซีดึงเข้าหาตัวเอง แล้วตะโกนว่า “ฉันยอมเธอเกินไปใช่ไหม”
“หลินอวี่หยาง เธอปล่อยฉันก่อน ฉันโดนฮวนฮวนหลอก ฉันระบายความโกรธไม่ได้เหรอ” เมื่อจ้าวซีเห็นหลินอวี่หยาง ท่าทีเกรงกลัวขึ้นมาทันที
“เกิดอะไรขึ้น ฮวนฮวนล่ะ!” หลินอวี่หยางมองไปรอบๆ แล้วเดินไปที่ห้องน้ำ เธอเคาะประตูห้องน้ำแล้วกล่าวว่า “ฮวนฮวน ฉันมาหาเธอแล้ว”
“หยางหยาง เธอรอฉันแป๊บหนึ่ง ฉันกำลังอาบน้ำ” เฉินฮวนฮวนตะโกนบอกจากด้านใน
“ไม่ต้องรีบ เธอค่อยๆ อาบ ฉันเล่นรอก่อน” ขณะที่พูด หลินอวี่หยางเดินไปเตียงของเฉินฮวนฮวนแล้วนั่งลง เธอมองไปที่จ้าวซี และถามว่า “พูดมา ฮวนฮวนของฉันหลอกเธอยังไง”
จ้าวซีขบฟันกรามเข้าหากัน เธอลอบมองไปทางห้องน้ำ แล้วนั่งลงบนเตียงของตัวเองที่อยู่ตรงข้ามกับหลินอวี่หยางพอดี ซึ่งห่างกันเพียงหนึ่งช่องทางเดินเท่านั้น
“เขาบอกให้ฉันขอโทษติงเซียง เขาจะบอกความจริงกับฉันว่า วันนี้ตอนเย็นเขาคุยอะไรกับเฟิงหานชวนตามลำพัง จากนั้นฉันก็ขอโทษติงเซียง และติงเซียงก็ให้อภัยฉันแล้ว สุดท้ายเฉินฮวนฮวนบอกว่า…” จ้าวซีเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ให้หลินอวี่หยางฟังอย่างละเอียด
หลังจากที่หลินอวี่หยางได้ฟัง “พรืด” เธอหลุดขำพรืดจนน้ำลายกระเด็น
เธอเอนหลังลงบนเตียงแล้วกุมท้องหัวเราะไม่หยุด
จ้าวซีรู้สึกว่าตัวเองดูไม่เหมือนพูดเล่นเลยสักนิด ทว่าหลินอวี่หยางกลับหัวเราะชอบอกชอบใจอย่างไม่มีเหตุผล ราวกับว่าเธอเป็นคนโง่
จ้าวซียิ่งรู้สึกว่า ตัวเองโดนเฉินฮวนฮวนหลอกอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นหลินอวี่หยางคงไม่แสดงออกเช่นนี้
ตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่า สิ่งที่เฉินฮวนฮวนบอกเธอเป็นเรื่องโกหกอย่างแน่นอน!
ทว่า…จ้าวซียิ่งจมอยู่กับความสงสัยของตัวเอง
ถ้าจะว่ากันตามเหตุผลแล้ว เฟิงหานชวนเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของหวาเถิง เขาลากเฉินฮวนฮวนออกไปตามลำพัง และพูดคุยกันสองชั่วโมง ระหว่างนั้นเฉินฮวนฮวนวิ่งออกมาร้องไห้ แล้วกลับไปหาเฟิงหานชวนอีกครั้ง
เหมือนอย่างที่เฉินฮวนฮวนบอก น่าจะเป็นเพราะว่าการรายงานของเฉินฮวนฮวนส่งผลเสียต่อหวาเถิง ดังนั้นเธอจึงโดนเรียกไปอบรม
ทว่า หลินอวี่หยางปกป้องเฉินฮวนฮวนขนาดนั้น ทำไมเมื่อได้ฟังเธอเล่า เธอถึงได้หัวเราะเสียงดังจนตัวโยนแบบนี้ล่ะ
ตอนนี้จ้าวซียิ่งสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ
“หยางหยาง ทำไมเธอหัวเราะมีความสุขขนาดนั้น” ติงเซียงที่อยู่ด้านข้าง ทนรอไม่ไหวจึงเอ่ยถาม
เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อันที่จริง ความรู้สึกของเธอในตอนนี้เหมือนกับจ้าวซี เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างจะผิดปกติ
“ตลกมาก มันตลกมากจริงๆ…” หลินอวี่หยางไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่กลั้นอารมณ์ตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ เธอหัวเราะต่อไม่หยุด
ติงเซียงและจ้าวซี รวมถึงเพื่อนร่วมห้องอีกสามคน ใบหน้าของพวกเธอต่างฉายแววสงสัย
ในเวลานี้เอง เฉินฮวนฮวนยกกะละมังเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอมองคนอื่นในห้องพักด้วยใบหน้างุนงง
หลินอวี่หยางหัวเราะอย่างเสียสติ ทว่าคนอื่นๆ ต่างทำหน้างุนงงสงสัย เฉินฮวนฮวนจึงเอ่ยถาม “หยางหยาง พวกเธอกำลังคุยอะไรกัน”
“ฮวนฮวน!” หลินอวี่หยางดีดตัวขึ้นจากเตียง แล้วพุ่งตัวไปอยู่ตรงหน้าเฉินฮวนฮวนทันที เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฮวนฮวน คุณอาเฟิงเห็นแก่หน้าฉัน เขาถึงไม่ปลดเธอออกนะ! ต่อไปเธอต้องดูแลฉันให้ดีกว่านี้นะ”
เฉินฮวนฮวนมองหญิงสาวผมสั้นตรงหน้าด้วยความงุนงง เพราะว่าหลินอวี่หยางกำลังหันหลังให้กับคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านหลัง เธอฉวยโอกาสนี้ขยิบตาให้เฉินฮวนฮวน
เฉินฮวนฮวนถึงได้เข้าใจความหมายของหลินอวี่หยาง ที่แท้เธอกำลังช่วยตัวเองแก้ปัญหา
“ขอบใจเธอนะ หยางหยาง ถ้าไม่ใช่เธอ ฉันก็ต้องออกจากเขตกิจกรรมจริงๆ…” ใบหน้าของเฉินฮวนฮวนราวกับจะร้องไห้ออกมา
จ้าวซีถึงบางอ้อในทันที ที่แท้หลินอวี่หยางออกหน้า ขอให้เฟิงหานชวนเว้นโทษเฉินฮวนฮวน ไม่แปลกใจที่เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ตอนนี้เธอเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้ว
“ในเมื่อหยางหยางช่วยเธอ เมื่อกี้เธอปิดบังไม่ยอมบอก เฉินฮวนฮวน เธอก็รู้สึกผิดต่อความทุ่มเทของหยางหยางบ้างนะ” จ้าวซีจงใจยุแยง
หลินอวี่หยางหันกลับมา และกล่าวด้วยเสียงเชิงตำหนิ “ฉันไม่ให้ฮวนฮวนพูดเอง ยังไงฉันก็ใช้เส้นสายจากคนรู้จัก มันไม่ค่อยดี ทำให้พวกเธอรู้สึกไม่ยุติธรรม ถูกไหม”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนี้” จ้าวซีสารภาพทันที
เมื่อเห็นว่าจ้าวซีเงียบลงแล้ว หลินอวี่หยางหันกลับมาอีกครั้ง เธอแย่งกะละมังในมือของเฉินฮวนฮวนมาวางไว้บนอ่างน้ำด้านข้าง แล้วลากเธอออกจากห้องพัก
เฉินฮวนฮวนถูกหลินอวี่หยางลากขึ้นไปชั้นสอง ชั้นนี้เป็นพื้นที่ว่าง และไม่มีใครอยู่ เฉินฮวนฮวนเข้าใจความหมายของหลินอวี่หยางทันที
เพราะว่าคุยตรงนี้จะไม่มีใครได้ยิน
“หยางหยาง เธอจะถามฉันเรื่องเฟิงหานชวนใช่ไหม” เฉินฮวนฮวนถามขึ้นมาก่อน
“แน่นอน! ฮวนฮวน เธอไม่มีศีลธรรม!” หลินอวี่อยางทำปากมุ่ย ก่อนจะกล่าวอย่างโกรธเคือง “ไม่นึกเลยว่า เธอจะปิดบังเรื่องใหญ่ขนาดนี้กับฉัน ฉันยังห่วงว่าเธอจะโดนเฟิงหานชวนด่า สุดท้าย…”
“ขอโทษนะหยางหยาง ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้บอกเธอ แต่เมื่อคืนที่ฉันคุยกับเธอตรงบันได ฉันตั้งใจว่าคืนนี้จะบอกเรื่องนี้กับเธอ ใครจะรู้…แผนของฉันกลับล่มไม่เป็นท่า”
อันที่จริงเฉินฮวนฮวนรู้สึกละอายใจเล็กน้อย อย่างไรหลินอวี่หยางก็ดีกับเธอมาก แต่เธอกลับไม่บอกเรื่องของตัวเองกับหลินอวี่หยาง แถมยังทำให้หลินอวี่หยางเป็นห่วงเธออีก
“วันนี้ตอนเย็น ตอนฉันถูกเฟิงหานชวนเรียกไปพบตามลำพัง เขาขอโทรศัพท์จากฉัน ฉันตกใจหมดเลย” หลินอวี่หยางกลับมาหัวเราะคิกคักอีกครั้ง และกล่าวว่า “ฉันคิดว่าเขาอบรมเธอ หลังจากนั้นเธอก็บอกฉันเกี่ยวกับภาพนั้น แต่ฉันคิดว่าเธอน่าจะไม่เอาฉันไปเปิดโปงหรอก สุดท้ายฉันยังไม่ได้ถามออกไป เฟิงหานชวนก็สารภาพออกมา!”
“สารภาพอะไร” เฉินฮวนฮวนถามอย่างสงสัย
“จู่ๆ เขาก็พูดกับฉันว่า ผมเป็นสามีของฮวนฮวน คุณรู้หรือเปล่า ตอนนั้นฉันอึ้งไปเลย ฉันสงสัยว่าฉันอาจจะหูฟาดไป โอ้วแม้เจ้า ฉันเดาว่าชาตินี้ฉันคงไม่ลืมเหตุการณ์นั้น!” เวลานี้หลินอวี่หยางตื่นเต้นเป็นพิเศษ เธอเล่าถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นพร้อมกับทำท่าทางเต้นแร้งเต้นกา
เฉินฮวนฮวนรู้สึกขบขันหลินอวี่หยาง ไม่รู้ว่าเพราะท่าทางตลกของหลินอวี่หยางตอนนี้ หรือว่าคำสารภาพนั้นของเฟิงหานชวนที่ทำให้เธอมีความสุข สรุปได้ว่า ตอนนี้เฉินฮวนฮวนมีความสุขมาก
“หลังจากนั้นล่ะ หลังจากนั้นล่ะ” เธอแทบรอไม่ไหวที่จะถามหลินอวี่หยางต่อ
“หลังจากนั้น สีหน้าของเขาน่ากลัวมาก พอเห็นว่าฉันเหม่อไม่ได้ตอบอะไร เขาก็ดุฉัน และขอให้ฉันเอารูปให้เขาดู ระหว่างนั้น…ฉันรู้สึกมือสั่นขาสั่นตลอดเวลา” หลินอวี่หยางตบหน้าอกตัวเองเบาๆ และพ่นลมหายใจออกมายาวเหยียด ก่อนจะถามว่า “ฮวนฮวน เธอยอมแต่งงานกับผู้ชายน่ากลัวแบบนี้ได้ยังไง เขาทำฉันกลัวจริงๆ !”
“เขา…ไม่ได้พูดเรื่องนี้เหรอ” เฉินฮวนฮวนชะงักไปเล็กน้อย
“อะไรนะ” หลินอวี่หยางยังคงจมอยู่ในโลกของตัวเอง ทันทีที่การตอบสนองกลับมา เธอรีบถามขึ้นทันที
“ทำไมฉันถึงแต่งงานกับเขา เขาไม่ได้บอกเธอเหรอ” เฉินฮวนฮวนเม้มริมฝีปากเข้าหากัน
“เรื่องนี้เขาไม่ได้บอกฉันอยู่แล้ว เขาแค่บอกว่าเธอเป็นภรรยาของเขา เขาเป็นสามีของเธอ และขอให้ฉันอย่ายุให้ผิดใจกัน เขากับหลีซืออวิ๋นเป็นแค่เพื่อนที่บริสุทธิ์ใจต่อกัน และหลีซืออวิ๋นเป็นพี่น้องที่ดีของเขา
หลินอวี่หยางย้อนคิดไปถึงเหตุการณ์ตอนนั้น แล้วเดาะลิ้นอย่างใช้ความคิด ก่อนจะกล่าวเสริมว่า “พอคิดดีๆ แล้ว วันนี้ตอนเย็นเฟิงหานชวนดูเหมือนจะประหม่าเล็กน้อย ทำลายภาพที่ฉันรู้จักเขาก่อนหน้านี้ไปเลย”
“ประหม่า?” เฉินฮวนฮวนชะงักอีกครั้ง เฟิงหานชวนประหม่าเป็นด้วยเหรอ
“อืม ฉันรู้สึกได้ว่า เขาให้ความสำคัญกับเธอ! เหมือน…กังวลมากว่าเธอจะเข้าใจเขาผิด กลัวว่าเธอจะจากไป…ความรู้สึกแบบนั้นเลย” หลินอวี่หยางไตร่ตรองอย่างละเอียด เธอใช้นิ้วลูบคางตัวเองพลางวิเคราะห์อย่างจริงจัง
เฉินฮวนฮวนรู้สึกราวกับหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ หลังจากนั้นหัวใจของเธอเต้นแรง “ตึก ตึก ตึก ตึก” เธออ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก
เธอไม่คิดเลยว่า ที่จริงแล้วเฟิงหานชวนจะให้ความสำคัญกับเธอมากขนาดนี้
“ใช่สิ ฮวนฮวน เธอยังไม่เล่าให้ฉันฟังเลยว่า เธอกับเฟิงหานชวนรู้จักกันยังไง แต่งงานกันได้ยังไง” จู่ๆ หลินอวี่หยางก็ตอบสนอง เธอรีบถามขึ้นว่า “ตอนแรกฉันคิดว่าเฟิงหานชวนไม่สนใจผู้หญิง เขาอาจจะเป็นเกย์ ไม่คิดเลยว่าเขามีภรรยาแล้ว แถมภรรยาของเขายังเป็นผู้หญิงที่ฉันชอบอีก!”
“พรืด…” ประโยคสุดท้ายของหลินอวี่หยาง ทำให้เฉินฮวนฮวนพ่นเสียงหัวเราะออกมา
“หยางหยาง จริงๆ แล้วฉันกับเฟิงหานชวนเพิ่งรู้จักกันแค่ครึ่งเดือนกว่า” เฉินฮวนฮวนหวนคิดเรื่องราวที่ผ่านมาอยู่ครู่หนึ่ง พบว่าช่วงครึ่งเดือนกว่าที่ผ่านมา มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นจริงๆ
ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงราวกับพลิกฟ้าคว่ำดิน
“อะไรนะ!” หลินอวี่หยางถึงกับอึ้งไปทันที เธอถามยืนยันอีกครั้ง “เธอกับเฟิงหานชวนเพิ่งรู้จักกันแค่ครึ่งเดือนกว่า ถ้าอย่างนั้นพวกเธอแต่งงานกันตอนไหน”