อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย - บทที่ 225 คุณชายสามตระกูลเฟิงมีหลานสาวอยู่คนหนึ่ง
“เธอเดาว่าฉันช่วยเธอแก้แค้นยังไง? ฉันจงใจทำน้ำส้มหกลงบนกระโปรงของหล่อน ทำให้หล่อนเปื้อนไปทั้งตัว แล้วให้หล่อนยกน้ำส้มแก้วใหม่ แต่น้ำส้มแก้วใหม่ถูกฉันถุยน้ำลาย ฮ่าๆ…”
หลี่เหมยหัวเราะสะใจ หันหลังเดินถึงด้านในห้องข้างๆ และเป็นตำแหน่งที่เฉินฮวนฮวนอยู่พอดี
เธอได้ยินอย่างชัดเจน รู้สึกในกระเพาะปั่นป่วน ขยะแขยงจนอยากอ้วกแล้ว
ตอนนี้เฉินฮวนฮวนดีใจมาก ดีใจเมื่อกี้ตัวเองไม่อยากดื่มน้ำส้ม ไม่งั้นก็ดื่มน้ำลาย
และเธอคิดไม่ถึงเลย หลี่เหมยเป็นเพื่อนของอันฉี อีกทั้งยังคิดแก้แค้นให้อันฉี
“เป็นยังไง? มีความสุขละสิ เธอสอบสัมภาษณ์พนักงานเคาน์เตอร์ชาเนลผ่าน ต้องใช้บัตรส่วนลดพนักงานซื้อของขวัญให้ฉัน ในเมื่อฉันแก้แค้นให้เธอได้แล้วนะ” หลี่เหมยพูดด้วยความภาคภูมิใจ เห็นชัดว่าสนิทกับอันฉี ไม่มีความเกรงใจเลย
“ดูเธอหัวเราะเสียงดังขนาดนี้ ตอนนี้เธออยู่บนรถโดยสาร หรืออยู่ที่ไหนกัน? ระวังภาพลักษณ์หน่อย
จะหัวเราะกลับไปหัวเราะ” หลี่เหมยยังพูดกำชับคนในสาย
แม้ว่าเฉินฮวนฮวนไม่ได้ยินเสียงของอันฉี แต่จากคำพูดของหลี่เหมย เธอก็รู้ตอนนี้อันฉีมีความสุขมาก
ตอนนั้นท่าทีของอันฉีเลวร้ายมาก เฟิงหานชวนถึงขนาดอยากดับอนาคตเธอ เป็นตัวเองรู้สึกว่าไล่เธอออกก็พอ ตักเตือนเธอก็พอ เธอยังไปทำงานที่อื่นได้ เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
แต่ตอนนี้ อันฉีไม่รู้จักสำนึกเลย ยังร่วมกันทำชั่วกับหลี่เหมย โดยเฉพาะหลี่เหมย คิดไม่ถึงว่าจะใช้วิธีการน่ารังเกียจแบบนั้น
เฉินฮวนฮวนก้มมองกระโปรงที่เปื้อนน้ำส้มของตัวเอง ในใจโมโหขึ้น เปิดประตูห้องตัวเองออก แล้วยืนอยู่หน้าห้องหลี่เหมย
หลี่เหมยยังคุยสนุกกับอันฉี ในตอนที่เธอหัวเราะเสียงดัง ประตูห้องตัวเองถูกพังกะทันหัน เฉินฮวนฮวนก็ยืนอยู่หน้าตัวเอง
และเธอเอง นั่งอยู่บนชักโครก คนทั้งคนนิ่งอึ้งไปทันที
“หลี่เหมย จู่ ๆ ทำไมเธอถึงเงียบไป? เธอถูกเรียกไปทำงานเหรอ? เดี๋ยวตอนเธอเสิร์ฟอาหารให้
เฉินฮวนฮวน จำไว้ว่าต้องถุยน้ำลายใส่มากหน่อย”
และไม่รู้เป็นเพราะตกใจ นิ้วของหลี่เหมยลื่นไปกดโดนลำโพง เสียงของอันฉีถูกขยายดังหลายเท่า
ทุกคำชัดเจน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสะใจ
“หลี่เหมย หายไปไหน? เธอไม่ได้วางสาย ทำไมจู่ ๆ ไม่พูดล่ะ? ” ตอนนี้อันฉีกำลังเบื่อพอดี ได้ยินเรื่องเฉินฮวนฮวนดื่มน้ำลาย มีความสุขมาก
หลี่เหมยยังคงนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น ไม่รู้จะทำยังไงดี ก็เหมือนแข็งตัว เธอไม่คิดว่าวิธีการของตัวเอง จะถูก
เฉินฮวนฮวนรู้
เฉินฮวนฮวนมองผู้หญิงที่นิ่งอยู่ตรงหน้า แล้วยื่นมือแย่งมือถือในมือของหลี่เหมย วางไว้ข้างปาก หัวเราะเยาะออกมา
เพราะเป็นแค่เสียงหัวเราะเยาะ อันฉีนึกว่าเป็นหลี่เหมย เลยถามอย่างใจร้อน “เธอหัวเราะอะไร? น้ำส้มแก้วนั้นเฉินฮวนฮวนดื่มไปแล้วใช่ไหม?”
หลี่เหมยเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
ในห้องน้ำผู้หญิงที่เงียบสงบ เงียบวังเวงไปหลายวินาที
ตามมาด้วย เสียงเรียบๆดังขึ้น “อันฉี เสียใจด้วย น้ำส้มแก้วนั้นฉันยังไม่ได้ดื่มสักคำ”
ชั่วพริบตา อีกคนก็เงียบไป
ถึงตอนนี้หน้าของหลี่เหมยยังคงตกใจ อันฉีก็ไม่กล้าพูดอีกคน จู่ ๆ เฉินฮวนฮวนรู้สึกน่าเบื่อนิดๆ
ไม่สนุกสักนิดเดียว
ตอนที่เฉินฮวนฮวนคิดอยากจะวางสาย เสียงร้อนใจของอันฉีดังขึ้น
“คุณเฉิน เป็นหลี่เหมย หลี่เหมยเป็นคนทำทั้งหมด เธอเป็นคนคิด ฉันไม่ได้ทำ เป็นเธอถุยน้ำลายใส่คุณ ไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่ฉัน ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน…”
เดิมทีเฉินฮวนฮวนเห็นพวกเธอต่างก็อึ้งไป และไม่มีความคิดจะสั่งสอน อย่างไรก็ตามตัวเองก็ไม่ได้ดื่มน้ำส้มนั้น เพียงแค่คลื่นไส้ ไม่อยากกินอาหาร
แต่อันฉีไม่เพียงไม่สำนึก แม้แต่ขอโทษก็ไม่มี กลับยังโยนความรับผิดชอบไปที่ตัวหลี่เหมยทั้งหมด
“อันฉี! ถ้าหากไม่ใช่เพราะเธอ ฉันจะทำเรื่องนี้ไหม? ฉันดีกับเธอขนาดนี้ เรื่องมาถึงตัวแล้ว ไม่นึกว่าเธอจะโยนทุกอย่างมาที่ฉัน เมื่อกี้ใครบอกให้ฉันไปถุยน้ำลายในอาหารของคุณเฉิน?”
“หลี่เหมย ก่อนหน้านี้ฉันอะไรก็ไม่ได้พูด เธอกลับคิดเองทำเอง ทำอย่างนั้นกับคุณเฉิน เธอแค้นคนรวยอยู่แล้ว อิจฉาที่คุณเฉินเป็นญาติของตระกูลเฟิงผู้มีอำนาจ เดิมทีเธอก็ไม่ได้ทำเพื่อฉัน ปกติเธอก็ชอบอิจฉาคน เธอจงใจ!”
“ดีจังนะเธอ อันฉีนะอันฉี ไม่คิดว่าเธอกล้าให้ร้ายฉัน งั้นฉันก็บอกคุณเฉิน วันนั้นหลังจากเธอถูกไล่ออก กลับไปยังแทงตุ๊กตาสาปแช่งคุณเฉิน บอกว่าคุณเฉินไม่ตายดีแน่ ภายหลังคลอดลูกไม่ได้… ”
“หลี่เหมย เธอหยุดพูด เธอรีบหยุดพูดเดี๋ยวนี้ ฉันเกลียดเธอจริงๆ เธอรีบหยุดพูด…”
…
แต่เดิมคนสองคนที่สนิทกัน เพราะเรื่องถูกเฉินฮวนฮวนจับได้ ต่างให้ร้ายกันมากมายในสาย
คำพูดอะไรก็พูดออกมาหมด
เฉินฮวนฮวนได้ยินพวกเธอด่ากันและกัน ไม่เพียงไม่โกรธ กลับรู้สึกน่าขำ
เห็นรอยยิ้มของเฉินฮวนฮวน หลี่เหมยลนลานทันที เธอกังวลว่าตัวเองจะกวนโมโหเฉินฮวนฮวน แม้แต่กางเกงก็ลืมดึง คุกเข่าลงไปหน้าเฉินฮวนฮวนตรงๆ
“คุณเฉิน ฉันไม่ได้ตั้งใจทำแบบนี้กับคุณจริงๆ ก่อนหน้านี้ฉันเห็นอันฉีเป็นเพื่อนสนิท อยากช่วยเธอแก้แค้น แต่ฉันคิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้ ฉันเสียใจทีหลังที่ทำแบบนั้น ขอคุณเฉินยกโทษให้ฉันเถอะ ฉันเต็มใจเป็นวัวเป็นม้าให้คุณเฉิน…”หลี่เหมยร้องไห้ไปพลาง ขอร้องไปพลาง
เสียงดังในห้องน้ำ ดึงดูดความสนใจของพนักงานข้างนอก มีคนเข้ามาดูๆ แล้วตกใจหันหลังแล้ววิ่งหนี
ไม่นาน ผู้จัดการก็รีบเข้ามา เห็นหลี่เหมยยังไม่ได้สวมกางเกงให้เรียบร้อย ก็คุกเข่าบนพื้นอย่างนั้น น้ำมูกน้ำตาไหล่ไม่หยุด ใบหน้าตกใจจนเขียวแล้ว
“หลี่เหมย เธอทำอะไรกันแน่?” ผู้จัดการเป็นผู้ชายหัวล้านพุงปล่องวัยกลางคน แต่เสียงกลับแหลมเล็กนิดๆ เสียงตะโกนทำให้คนฟังรู้สึกแย่
“ผู้ ผู้จัดการ ช่วยฉัน ช่วยฉันหน่อย…”หลี่เหมยเกาะไปที่ขาของผู้จัดการ เกาะขาของเขา เล่าเรื่องทั้งหมดเมื่อกี้ไปหนึ่งรอบ
ผู้จัดการได้ยิน ผู้หญิงน่ารักมีเสน่ห์ตรงหน้า คิดไม่ถึงที่แท้ก็คือญาติของตระกูลเฟิงผู้มีอำนาจคนนั้น
คุณเฉินที่ถูกวีวี่รังแกคนนั้น ว่ากันว่าคุณชายสามตระกูลเฟิงช่วยเธอไล่อันฉี ยังสั่งสอนลูกค้าอีกคน
แม้ว่าครั้งก่อนเขาไม่ได้เห็นหน้าจริงๆของเฉินฮวนฮวน แต่เรื่องนี้พนักงานห้างอวิ๋นตวน ต่างรู้กันหมด แพร่กระจายไปทั่ว บอกว่าคุณชายสามตระกูลเฟิงยังมีหลานสาวคนหนึ่ง คุณชายสามตระกูลเฟิงรักมาก
ตอนนี้เขาไม่คิดเลย หลี่เหมยลูกน้องของตัวเอง กลับขัดใจคุณเฉินคนนี้
ผู้จัดการรีบโค้งคำนับเฉินฮวนฮวนหนึ่งครั้ง เช็ดเหงื่อที่หน้าผาก พูดด้วยสีหน้าอึดอัดใจ “คุณเฉิน เรื่องที่หลี่เหมยทำ ไม่เกี่ยวข้องกับร้านของเราจริงๆ เรากำกับดูแลได้ไม่ดี ทำให้พนักงานทำเรื่องแบบนี้”
“ตอนนี้ผมไล่หลี่เหมยออก พร้อมหักเงินเดือนเธอ หลังจากนี้จะกำกับดูแลและอบรมพนักงานมากขึ้น คุณเห็นว่าใช้ได้ไหม?” ผู้จัดการเอ่ยขอร้องเฉินฮวนฮวน
“ผู้จัดการ คุณอย่าหักเงินเดือนฉัน ไม่งั้นค่าเช่าบ้านเดือนหน้าฉันคงไม่มีจ่าย ขอร้องคุณช่วยฉันเถอะ”
หลี่เหมยดึงขาของผู้จัดการไม่หยุด
ในใจผู้จัดการโมโหแทบตาย เห็นหลี่เหมยยังไม่เจียมตัว โมโหจนเตะเธอหนึ่งที หลี่เหมยร้องเสียงดัง ล้มอยู่ข้างๆ
เฉินฮวนฮวนเห็นภาพนี้ ขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
เห็นเฉินฮวนฮวนขมวดคิ้ว ผู้จัดการยิ่งเครียดขึ้น เขารีบถาม “คุณเฉิน ค่าเสียหายทางจิตใจทางร้านเราชดเชยให้คุณ คุณเรียกราคามาต้องการเท่าไหร่? พวกเราแค่หวัง คุณจะไม่บอกคุณชายสามตระกูลเฟิง…คุณวางใจ หลังจากนี้คุณสามารถมากำกับดูแลได้ตลอดเวลา พวกเราจะเพิ่มการอบรมพนักงานแน่นอน ไม่มีวันมีพนักงานไร้คุณภาพแบบนี้อีกแล้ว ”
“ฉันไม่ต้องการเงิน” เดิมเฉินฮวนฮวนไม่ได้คิดถึงด้านนี้
ตอนนี้ ผู้จัดการยิ่งตึงเครียด เสียงดัง“ตุบ” ก็คุกเข่าลง พูดด้วยความตื่นตัว “คุณเฉิน ขอร้องคุณจริงๆ เรื่องนี้ห้ามบอกคุณชายสามตระกูลเฟิงเด็ดขาด ไม่งั้นร้านปิ้งย่างของเราคงถูกห้างถอดออก ขอร้องคุณจริงๆ หากปิดร้าน พนักงานในร้านมากมาย ก็ตกงานกันหมด…”
“ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นมั้ง? ฉันไม่ได้ให้พวกคุณปิดร้าน” ตอนนี้เฉินฮวนฮวนมึนงงนิดๆ
ตอนนี้เธอโดนพนักงานคนหนึ่งรังแก เพียงแค่อยากสั่งสอนพวกเธอหน่อย ผลคือผู้จัดการร้านนี้เข้ามา บอกจะจัดการแบบนี้ บอกจะจัดการแบบนั้น แล้วยังขอร้องเธออย่าทำทุกคนตกงาน…
“คุณเฉิน คุณเป็นคนมีน้ำใจ ขอได้โปรดเข้าใจ…” ผู้จัดการพูดไปพูดมา ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหล
มีลูกค้าผู้หญิงหลายคนเข้ามาห้องน้ำ เห็นภาพข้างในตกใจวิ่งหนีหมด
เฉินฮวนฮวนรู้สึกผู้จัดการคนนี้แปลกมาก เธอทำได้แค่พูด “คุณผู้จัดการ คุณลุกขึ้นก่อนเถอะ ฉันไม่คิดให้พวกคุณปิดร้าน คุณไม่ต้องเครียด”
เธอไม่ได้คิดถึงด้านนี้จริงๆ เป็นผู้จัดการเองไม่ให้โอกาสเธอได้พูด คนหนึ่งพยายามขอร้องแทบตาย เหมือนเธอสั่งคำพูดน่ากลัวอย่างนั้น
“จริง จริงเหรอ…” ผู้จัดการยากจะเชื่อ ลืมตาคู่เล็ก คนทั้งคนดูเจียมเนื้อเจียมตัว
“พนักงานชื่อหลี่เหมยคนนี้ พฤติกรรมแย่ ควรไล่ออกจริงๆ” เฉินฮวนฮวนมองหลี่เหมยครู่หนึ่ง พูดกับผู้จัดการ
“ครับๆ ไล่ออกแน่นอน ยังจะหักเงินเดือนเธอด้วย” ผู้จัดการพยักหน้าก้มตัวและพูด
ในเวลานี้ หลินอวี่หยางเดินเข้ามา งงกับภาพตรงหน้า แล้วเดินไปข้างตัวเฉินฮวนฮวน ถามด้วยความสงสัย “ฮวนฮวน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
เธอเห็นเฉินฮวนฮวนไปห้องน้ำไม่กลับสักที ก็เลยมาดู คิดไม่ถึงว่าจะเห็นพนักงานคนเมื่อกี้คุกเข่าบนพื้น ด้านข้างยังมีผู้ชายวัยกลางคนที่เหมือนผู้จัดการยืนอยู่
“ตอนฉันอยู่ในห้องน้ำ ได้ยินผู้หญิงชื่อหลี่เหมยคนนี้ บอกว่าถุยน้ำลายในแก้วน้ำส้มฉัน” เฉินฮวนฮวนพูดเรื่องนี้ขึ้น ก็รู้สึกขยะแขยงมาก
ตอนนี้เธอดีใจมากที่ตัวเองมาเข้าห้องน้ำก่อน ไม่งั้นไม่แน่ว่าดื่มเข้าไปแล้ว
“อะไรนะ! !” หลินอวี่หยางได้ยิน ร้องเสียงแหลมขึ้นมาทันที “ว้าย…น้ำส้มแก้วนั้นของเธอถูกฉันดื่มหมดแล้ว!!!”