อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย - บทที่ 226 ให้มันกินน้ำลายของฉันด้วย!
เฉินฮวนฮวน: “……”
ผู้จัดการ: “……”
หลี่เหมย: “……”
หลินอวี่หยางรีบพุ่งไปหน้าอ่างล้างมือ จากนั้นจึงมีเสียงอ้วกดังขึ้น
“แหวะ……”
เสียงนั้น เสียงดังสนั่น เหมือนจะอ้วกทุกอย่างในร่างกายออกมา
เฉินฮวนฮวนรีบตั้งสติ แล้วเดินไปข้างหลังหลินอวี่หยาง ช่วยเธอลูบหลัง แล้วรีบถามอย่างใจร้อน “หยางหยาง เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?”
“อ๊ายยยยย!” หลินอวี่หยางเช็ดปาก แล้วเอาแต่จิกผมตัวเอง
พอตั้งสติได้ เธอจึงพุ่งไปหน้าหลี่เหมย แล้วจับคอเสื้อหลี่เหมย ใช้ดวงตาที่แดงเพราะเพิ่งอ้วกเมื่อกี้จ้องหลี่เหมยไว้
หลี่เหมยตกใจ จนยืนอึ้งอยู่กับที่
เสียงดัง”เพี๊ยะ” ส่งเสียงดังสนั่นอีกครั้ง
มือข้างหนึ่งของหลินอวี่หยางจับคอเสื้อหลี่เหมยไว้ อีกข้างก็ตบหน้าเธอแรงๆ ผ่านไปไม่กี่วินาที หน้าของหลี่เหมยก็เริ่มบวมแดง
หลินอวี่หยางไม่สะใจ จึงเปลี่ยนมืออีกข้างจับเสื้อ แล้วตบหน้าเธออีกครั้ง หน้าทั้งสองข้างของหลี่เหมยโดนตบจนครบ
หลี่เหมยแค่รู้สึกว่าภาพตรงหน้าพร่ามัว หน้าก็บวมแดงทั้งสองข้าง วินาทีที่หลินอวี่หยางปล่อยคอเสื้อเธอ หลี่เหมยจึงเดินเซถอยหลัง สุดท้ายก็ล้มลงไปกับพื้น
ตอนนี้หลินอวี่หยางโมโหมาก โกรธจนจะเป็นบ้า แต่พอเห็นสีหน้าที่ตกใจของเฉินฮวนฮวน สีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปเป็นความน้อยใจทันที
จากนั้นจึงวิ่งไปหาเฉินฮวนฮวน จับแขนเธอไว้แล้วร้องไห้เอ่ยว่า “ฮวนฮวน ความจริงฉันไม่ได้ชอบใช้กำลังขนาดนี้ แต่ผู้หญิงคนนั้นทำเกินไป มัน……มันถุยน้ำลายลงในแก้วน้ำส้มเธอ แล้วยังให้ฉันกินอีก……”
พอพูดประโยคสุดท้าย หลินอวี่หยางจึงคลื่นไส้อีกครั้ง
ผู้จัดการที่ยืนอยู่ข้าง เห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมด ตาเขาเอาแต่กะพริบ มองหลินอวี่หยาง แล้วมีแต่คำถาม
จากที่เขาดูมาผู้หญิงผมสั้นคนนี้ เหมือนเป็นคนสองบุคลิก
เฉินฮวนฮวนเบิกตาโต แล้วกะพริบตาไปหลายครั้งเหมือนกัน เธอมองหลินอวี่หยาง ยังไม่ทันได้พูดอะไร หลินอวี่หยางก็ร้องไห้ก่อน
“ฮือฮือฮือ ฮวนฮวน เธออย่ารังเกียจฉัน ฉันไม่ได้จงใจจะใช้ความรุนแรง เธอรู้สึกว่าฉันร้ายมากเลยใช่ไหม? ถ้าเธอไม่อนุญาตให้ฉันตบคนอื่น ต่อไปฉันจะไม่ตบอีก ถ้าเธอรังเกียจฉัน เธอก็ใช้ไม้ถูพื้นตีฉันเลย……”
พูดไปด้วย หลินอวี่หยางก็หันมองรอบๆ เห็นที่มุมห้องน้ำมีไม้ถูพื้น เธอจึงรีบพุ่งไป แล้วเอาไม้ถูพื้นมายื่นให้เฉินฮวนฮวน ท่าทางรู้สึกผิดมาก
เฉินฮวนฮวนดึงสติกลับมา อดขำไม่ได้ เธอพูดว่า “หยางหยาง ทำไมเธอต้องน่ารักขนาดนี้ด้วย?”
“น่ารัก? ฮวนฮวน เธอบอกว่าฉันน่ารักเหรอ?” หน้าหลินอวี่หยางแดงทันที ท่าทางความดุร้ายเหมือนสุนัขตำรวจ กลายมาเป็นสุนัขปอมเมอเรเนี่ยนที่น่ารักทันที
“ไม่สิ ไม่ควรพูดว่าเธอน่ารัก ควรพูดว่าเธอ……เท่มาก!” เฉินฮวนฮวนยกนิ้วโป้งให้ แล้วพูดชม
“เท่มาก?” ตาหลินอวี่หยางเป็นประกาย
“อื้อ” เฉินฮวนฮวนพยักหน้า เลียนแบบท่าทางที่หลินอวี่หยางตบคน แล้วพูดว่า “แบบนี้ ทำได้ดีมาก!”
“เพราะฉะนั้น ฮวนฮวนเธอไม่คิดว่าฉันเป็นคนหัวรุนแรง?” หลินอวี่หยางกังวลว่าจะโดนเธอรังเกียจ ความจริงก่อนหน้านั้นเธอเอาแต่ใจมาก
“ไม่เลย อีกอย่าง เป็นเพราะฉัน เธอถึง……โดนรังแก” เฉินฮวนฮวนไม่อยากพูดเรื่องขยะแขยงนั้น เดี๋ยวหลินอวี่หยางจะคลื่นไส้กว่าเดิม
เพราะฉะนั้น เธอเลยใช้คำว่าโดนรังแกแทน
“ฮวนฮวน ฉันไม่เป็นไร ฉันไม่อยากให้เธอโดนรังแกมากกว่า ยังดีที่ฉันเป็นคนดื่ม ถ้าเธอดื่ม ฉันต้องเป็นห่วงมากแน่ๆ” หลินอวี่หยางกางแขนออก แล้วกอดเฉินฮวนฮวนไว้
ความจริงหลินอวี่หยางเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไม แค่รู้สึกว่าตอนนี้ตัวติดเฉินฮวนฮวนมาก
“หยางหยาง เธอเป็นขนาดนี้แล้ว ยังคิดแทนฉันอีก” เฉินฮวนฮวนรู้สึกแสบตา
เธอปล่อยหลินอวี่หยางออก มองไปทางหลี่เหมยที่ลุกขึ้นยืนแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะหลี่เหมย หลินอวี่หยางก็คงไม่ต้องกินน้ำส้มที่สกปรกแบบนั้น
อีกอย่าง หลี่เหมยทำแบบนี้ เป็นเรื่องที่อำมหิตมาก ไม่มีจิตสำนึกเลย ไม่แน่ก่อนหน้านั้นอาจจะเคยทำกับคนอื่นเหมือนกัน
“หลี่เหมย ตอนนี้ฉันจะให้เธอ ขอโทษฉัน กับเพื่อนฉันด้วย” น้ำเสียงเฉินฮวนฮวนเย็นชา สีหน้าเข้มงวดมาก
หลี่เหมยกลัวจนตัวสั่น ผู้จัดการก็เหมือนกัน
หลี่เหมยก็ต้องกลัวเฉินฮวนฮวนอยู่แล้ว แล้วผู้จัดการก็กลัวว่าเธอจะบอกเรื่องนี้กับเฟิงหานชวน เขากลัวคุณชายสาม
“ขอโทษค่ะ คุณหนูเฉิน ขอโทษจริงๆนะคะ ฉันแค่วู่วามแล้วทำเรื่องแบบนั้นลงไป ขอให้คุณให้อภัยฉันด้วยค่ะ อีกหน่อยฉันจะไม่ทำอีก ฉันยอมเป็นทาสรับใช้คุณเพื่อชดใช้ให้คุณ……” ถึงแม้ในใจหลี่เหมยไม่ยอม แล้วโกรธมาก แต่เพื่อความอยู่รอด เธอจึงต้องก้มหน้าขอโทษเฉินฮวนฮวน
พอขอโทษเฉินฮวนฮวนเสร็จ เธอก็รีบไปคุกเข่าต่อหน้าหลินหวี่หยาง แล้วพูดอย่างรีบร้อนใจว่า “คุณหนูคะ คุณตบฉันอีกก็ได้ค่ะ ตบจนกว่าคุณจะพอใจ ฉันไม่รู้จริงๆว่าคุณดื่มน้ำส้มแก้วนั้น ฉันขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆนะคะ!”
“คุณหนูเฉินครับ ในเมื่อหลี่เหมยขอโทษพวกคุณแล้ว เห็นแก่หน้าผม อย่าบอกเรื่องนี้กับคุณชายสามได้ไหมครับ?” ผู้จัดการเดินมาหาอย่างระมัดระวัง แล้วเอ่ยพูดอย่างระมัดระวัง
“เห็นแก่หน้าแก? หนังหน้าแกมีประโยชน์อะไร!” หลินอวี่หยางจับคอเสื้อเขาไว้ แล้วชี้ตัวเองพูดว่า “แกรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร? ฉันมาที่ร้านพวกแกแล้วได้กินน้ำลาย พวกแกจะชดใช้ฉันยังไง?”
ผู้จัดการกลัวมาก แล้วพูดติดๆขัดว่า “คุณ……คุณเป็นใครครับ?”
“ฉัน? ทายาทหลินซื่อกรุ๊ป!” ตอนที่หลินอวี่หยางพูดประโยคนี้ น้ำเสียงดุดันมาก หนักแน่นมาก
“หา……” ผู้จัดการล้มลงไปนั่งกับพื้น เขาตบขาตัวเอง แล้วร้องไห้ออกมา “คุณหนู คุณหนูทั้งสองคน เวรกรรม เวรกรรมอะไรเนี่ย……”
เห็นท่าทางที่น่าสงสารของผู้จัดการ เฉินฮวนฮวนเลยเดินไปหาหลินอวี่หยาง เอ่ยถามว่า “หยางหยาง เธอคิดจะจัดการยังไง?”
เมื่อก่อนเธอเมตตาเกินไป แล้วครั้งก่อนใจกว้างกับอันฉี เลยเกิดเรื่องวันนี้ เลยทำให้หลินหวี่หยางโดนรังแกแบบนี้
“ก็ต้อง……ตาต่อตา ฟันต่อฟันสิ” สีหน้าหลินอวี่หยางดุมาก
“ตาต่อตา ฟันต่อฟัน?” เฉินฮวนฮวนทำหน้างง
หลินอวี่หยางชี้หลี่เหมย แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “ให้มันกินน้ำลายฉันด้วย! แล้วก็หักเงินเดือนไล่ออก แค่นี้แหละ”
“ไม่! ไม่ ฉันไม่กินน้ำลาย……” หลี่เหมยส่ายหน้าสุดชีวิตด้วยสีหน้าหวาดกลัว เธอลุกขึ้น แล้วพุ่งไปที่ห้องน้ำเหมือนคนบ้า
ทีแรกผู้จัดการโล่งอกไปแล้ว เพราะคุณหนูบอกวิธีจัดการเรื่องนี้แล้ว แต่หลี่เหมยกลับหนีไปก่อน
“ใครก็ได้ ไปจับตัวหลี่เหมยกลับมา! จับตัวไปที่ห้องทำงานผม!” ผู้จัดการตะโกนออกไปข้างนอก “เทน้ำส้มมาแก้วหนึ่งด้วย”
ห้านาทีหลังจากนั้น
ในห้องทำงานแคบๆของผู้จัดการ หลี่เหมยโดนพนักงานสองคนจับตัวไว้
เฉินฮวนฮวนกับหลินอวี่หยางนั่งอยู่บนโซฟา แล้วผู้จัดการยืนอย่างเคารพอยู่ข้างๆ
“คุณหนูทั้งสองคนครับ ผมจะให้หลี่เหมยดื่มน้ำส้มเดี๋ยวนี้เลยครับ” ผู้จัดการยกน้ำส้มขึ้นมา แล้วเหมือนนึกอะไรได้ จึงรีบยกน้ำส้มไปตรงหน้าหลินอวี่หยาง แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณหนูหลินครับ เชิญคายน้ำลายครับ”
เฉินฮวนฮวนกับหลินอวี่หยางรู้สึกขยะแขยง
“มีบุหรี่หรือเปล่า?” หลินอวี่หยางเลิกคิ้วขึ้น
“มีครับ มีครับ” ผู้จัดการรีบพยักหน้า วางน้ำส้มลงก่อน แล้วรีบหยิบบุหรี่หนึ่งม้วนมา แล้วจุดให้หลินอวี่หยาง
หลินอวี่หยางสูดเข้าไป แล้วพ่นควันออกมา ยิ้มเอ่ยอย่างมีเลศนัยว่า “ฉันเป็นคนที่แยกแยะทุกอย่างได้ชัดเจน มีความแค้นก็ต้องแก้แค้น ในเมื่อกล้าหาเรื่องฉัน หาเรื่องเพื่อนฉัน งั้นก็ต้องรับโทษ”
“หยางหยาง สูบบุหรี่ไม่ดีต่อร่างกาย” เฉินฮวนฮวนพูดแทรกความเข้มขรึมของเธอ
หลินอวี่หยางโป๊ะแตก แล้วเกาหัวแก้เก้อ “ฮวนฮวน นี่ไม่ใช่ประเด็นหลัก……”
“ประเด็นหลักคือ……ถุยน้ำลาย” เฉินฮวนฮวนจงใจพูดแบบนี้ เพราะเธออยากให้เรื่องนี้รีบๆจบ
เพราะว่า เอาแต่มองหลี่เหมย จนตัวเธอก็เริ่มไม่โอเค
“ฉันอยากสูบบุหรี่ก่อนค่อยถุย อาจจะมีเสมหะก็ได้” หลินอวี่หยางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
เฉินฮวนฮวนคิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นแบบนี้ รู้สึกคลื่นไส้ เกือบจะอ้วกแล้ว
“ฮวนฮวน ใจเย็นๆ ใจเย็นๆนะ เราไม่ใช่คนดื่มสักหน่อย” หลินอวี่หยางรีบตบหลังเธอ
พอได้ยินสิ่งที่หลินอวี่หยางพูด หลี่เหมยจึงเบิกตาโตอย่างตกใจ พอตั้งสติได้แล้ว เลยเอาแต่กรีดร้องจะไปจากที่นี่
“ปล่อยฉัน อ๊าย……ปล่อยฉันไป……” เธอเอาแต่ดิ้นรน แล้วร้องเสียงดัง “พวกแกมันปีศาจร้ายกาจ ขยะแขยงมาก รีบปล่อยฉันไป……”
“ขยะแขยง?” เฉินฮวนฮวนลุกขึ้น เดินไปตรงหน้าหลี่เหมย แล้วจับคางหลี่เหมยไว้ “ตอนที่เธอถุยน้ำลายใส่น้ำส้มของฉัน ไม่รู้สึกขยะแขยงเหรอ? ทำไม ตอนนี้รู้สึกขยะแขยงแล้ว?”
“ฉัน……” หลี่เหมยโดนเฉินฮวนฮวนตอกกลับ จึงพูดอะไรไม่ออก
หลินอวี่หยางยิ้มอย่างเยือกเย็น แล้วพูดว่า “หลี่เหมย จะโทษก็โทษที่แกหาเรื่องฉัน แกไว้ใจได้ เดี๋ยวฉันไม่ให้แกอยู่เป็นสุขแน่”
“อย่า อย่าทำกับฉันแบบนี้ พวกแกจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ แต่อย่าให้ฉันกิน……” หลี่เหมยกลัวจนร้องไห้ จากนั้นจึงมีเสียงน้ำไหล
พอเฉินฮวนฮวนก้มหน้าดู เห็นว่ากางเกงหลี่เหมยเปียก แล้วยังมีของเหลวไหลที่พื้น เธอจึงรีบถอยหลังมา
หลี่เหมยกลัวจนฉี่ราดกางเกง
“ใช่สิหยางหยาง ฉันอยากจะขอร้องอะไรเธอ” เฉินฮวนฮวนหันเดินกลับไปนั่งที่โซฟาเหมือนเดิม
หลินอวี่หยางที่อยู่ข้างๆถามอย่างสงสัย “เรื่องอะไรเหรอ? เธอมีเรื่องให้ฉันทำ ยังต้องเกรงใจขนาดนี้อีก?”
“หลี่เหมยมีเพื่อนคนหนึ่งชื่ออันฉี ก็หาเรื่องฉันเหมือนกัน ตอนนี้น่าจะกำลังไปสัมภาษณ์งานที่เคาน์เตอร์ชาแนล เธอให้คนไปรับเขามาด้วย มารับบทลงโทษพร้อมกับหลี่เหมย” แววตาเฉินฮวนฮวนมืดมน
ครั้งก่อนปล่อยอันฉีไปง่ายๆแบบนั้น ไม่คิดเลยว่าอันฉีไม่กลับตัวกลับใจ ยังแอบใช้ตุ๊กตาสาบแช่งเธออีก ครั้งนี้เธอไม่ปล่อยอันฉีไปแน่
“ได้ ไม่มีปัญหา ฉันจะให้คนไปเอาตัวอันฉีมาให้เธอเดี๋ยวนี้เลย! หลินอวี่หยางรับประกัน แล้วรีบโทรหาบอดี้การ์ดในบ้าน
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น
อันฉีกับหลี่เหมยโดนจับตัวไว้ แล้วคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเฉินฮวนฮวนกับหลินอวี่หยาง
อันฉีมองตาขวางใส่หลี่เหมย แล้วหันไปร้องไห้กับเฉินฮวนฮวน “คุณหนูเฉินคะ ทั้งหมดหลี่เหมยเป็นคนคิดเอง ไม่เกี่ยวกับฉันนะคะ ไม่รู้ว่าที่คุณให้คนพาฉันมา มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”
ความจริงตอนนี้อันฉีทำหน้างง เธอโดนพาตัวมาที่นี่ แต่ไม่รู้เลยว่าเฉินฮวนฮวนคิดจะทำอะไรกับตัวเอง
“ฮ่าฮ่าฮ่า……” หลี่เหมยหัวเราะเหมือนคนบ้า แล้วพูดอย่างสิ้นหวังว่า “อันฉีนะอันฉี ฉันคิดว่าแกเป็นเพื่อนรัก แล้วแก้แค้นแทนแก จนฉันตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ฉันช่างน่าสงสารจริงๆ!”
“แกน่าสงสาร? ถ้าไม่ใช่เพราะแกอิจฉาคุณหนูเฉิน แล้วทำเรื่องขยะแขยงแบบนี้ เลยลามมาถึงฉันเหรอ? ทีแรกฉันจะได้เข้าเคาน์เตอร์ชาแนลอยู่แล้ว ตอนนี้กลับเกิดเรื่องแบบนี้ ฉันนี่สิที่น่าสงสาร ฉันน่าสงสารมาก ทำไมฉันต้องมีเพื่อนแบบแกด้วย?”
อันฉีรู้สึกว่าเธออยู่เงียบๆ แต่กลับมีภัยหล่นมาที่หัวตัวเอง ที่ซวยตอนนี้ ก็เพราะหลี่เหมย
เห็นพวกเธอผลักไสกัน เฉินฮวนฮวนจึงรู้สึกตลก ตลกจนอยากหัวเราะ หัวเราะเยาะเย้ยพวกเธอ
“แค่ก แค่ก!” พอหลินอวี่หยางเห็น จึงหลุดขำออกมา แล้วเริ่มรู้สึกในลำคอ
เธอรีบเอาแก้น้ำส้มมา แล้วถุยเสมหะลงไป
คนทั้งห้องทำงานอึ้ง รวมถึงพนักงานสี่คน ผู้จัดการ บอดี้การ์ดตระกูลหลิน กับเฉินฮวนฮวนด้วย
แน่นอน หลี่เหมยไม่ใช่แค่อึ้ง แล้วรู้สึกตามัว เกือบจะล้มลงไปที่พื้น แต่โดนพนักงานจับตัวไว้ก่อน
แต่อันฉีกลับไม่เข้าใจ แค่รู้สึกว่าขยะแขยง แค่คิดว่าหลินอวี่หยางสูบบุหรี่แล้วถุยเสมหะ
หลินอวี่หยางยกแก้วน้ำส้ม แล้วยื่นไปหาเฉินฮวนฮวน เฉินฮวนฮวนจึงรีบหลบ ให้ตัวเองออกห่างจากน้ำส้มแก้วนั้น
นี่เป็นน้ำส้มที่มีสิ่งปนเปื้อน ถึงแม้จะเป็นเสมหะของหลินอวี่หยาง แต่เธอก็ทนดูไม่ได้
“ฮวนฮวน เธอรังเกียจฉัน” หลินอวี่หยางเม้มปาก แล้วพูดอย่างน้อยใจ
“เปล่า ฉันเปล่า ก็แค่……รู้สึกขยะแขยง” เฉินฮวนฮวนรีบหันมองไปทางอื่น
“ฮวนฮวน ฉันไม่ได้ให้เธอดูเสมหะของฉัน ฉันให้เธอถุยน้ำลาย” หลินอวี่หยางรีบเอ่ย
“ฮะ?” เฉินฮวนฮวนหันไปอย่างตกใจ ที่แท้ให้เธอเข้าร่วมด้วย
เฉินฮวนฮวนมองผู้หญิงอำมหิตสองคนตรงหน้า คนอื่นไม่หาเรื่อง ตัวเองก็จะไม่ยุ่งด้วย แต่ถ้ามาหาเรื่อง งั้น……ตัวเองก็ต้องทำกลับ
“ได้ ฉันถุย” เฉินฮวนฮวนตอบตกลง แล้วทำตาม
หลินอวี่หยางถือน้ำส้มไว้ แล้วใช้หลอดคน จากนั้นเดินไปหาผู้จัดการ แล้วยื่นไปที่ปากเขา
ผู้จัดการตกใจจนขาอ่อน “คุณหนู ปล่อยผมไปเถอะครับ ผมไม่ได้ทำอะไร ทำไมคุณต้องให้ผมดื่ม……”
“ลุกขึ้น ใครให้แกกิน?” หลินอวี่หยางมองบน แล้วเอ่ยว่า “มา ถุยน้ำลายเข้ามา”
“หา?” ผู้จัดการงง แต่ก็รีบตั้งสติ แล้วทำตาม
หลังจากนั้น หลินอวี่หยางก็ให้ถุยน้ำลายทีละคน นอกจากอันฉีกับหลี่เหมย น้ำลายของคนอื่นๆอยู่ในแก้วน้ำส้มหมดเลย
หลินอวี่หยางคนอย่างสนุกสนาน จากนั้นจึงนำแก้วน้ำส้มที่เต็มแก้วนี้ ไปให้อันฉีกับหลี่เหมย