อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย - บทที่ 234 หรือว่าชอบเฉินฮวนฮวน
“หยางหยาง เธอใจไม่ถึงเลย! เฟิงเฉินเหยี่ยนมาแล้ว ทำไมเธอไม่บอกพวกเราล่ะ?” เฉินเสี่ยวอวี่บิดตัว น้ำเสียงตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
จางถิงก็พูดเสริมขึ้น “ใช่ใช่ ฉันเกือบจะไปเดทกับแฟนของฉันแล้ว เกือบจะพลาดไปแล้ว”
“พูดแบบนี้แสดงว่าฉันสำคัญกว่าแฟนของเธอ?” เฟิงเฉินเหยี่ยนเลิกคิ้ว ใบหน้าเผยรอยยิ้มชั่วร้าย ให้พวกผู้หญิงที่อยู่ในที่เหตุการณ์รู้สึกสั่นระริก
แน่นอนว่าในนั้นไม่ได้รวมเฉินฮวนฮวนและหลินอวี่หยาง
“เฟิงเฉินเหยี่ยน นายสำคัญกว่าแฟนของฉันจริง ๆ นะ” จางถิงเขินจนหน้าแดง ตั้งใจขยับไปชิดกับแขนของเฟิงเฉินเหยี่ยน
เห็นได้ชัดว่าเฟิงเฉินเหยี่ยนเคยชินกับการกระทำแบบนี้แล้ว เขายิ้มอ่อน ๆ แล้วพูด “แบบนั้นแฟนของเธอจะหึงเอานะ”
“ฉันไม่สนหรอก ใครใช้ให้นายหล่อกว่าเขาล่ะ” จางถิงไม่ใช่ผู้หญิงจากตระกูลเล็ก ๆ ถึงแม้ว่าภูมิหลังของครอบครัวเธอจะเทียบไม่ได้กับตระกูลเฟิงและตระกูลหลิน แต่ยังไงเธอก็เป็นเด็กสาวที่คาบช้อนเงินช้อนทองโตมา
ดังนั้นถึงแม้หน้าตาจะไม่เด่น แต่นิสัยเปิดเผย แถมมั่นใจในตัวเองมาก
เฉินเสี่ยวอวี่เป็นผู้หญิงที่ร่าเริง เธอก็พูดหว่านเฟิงเฉินเหยี่ยนขึ้นมา ทั้งสามคุยกันอย่างสนุกสนาน
ติงเซียงเห็นภาพแบบนี้ ในใจไม่ต้องพูดเลยว่ารู้สึกไม่ดีขนาดไหน เดิมทีเธออาศัยที่ตัวเองกับหลินอวี่หยางแล้วก็เฉินฮวนฮวนรู้จักกัน อยากจะพูดคุยใกล้ชิดกับเฟิงเฉินเหยี่ยนอีกสักขั้น ใครจะไปรู้ว่าครึ่งทางจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
เห็นหัวข้อสนทนาที่เฉินเสี่ยวอวี่กับจางถิงคุยกับเฟิงเฉินเหยี่ยน ตัวเองไม่มีที่ให้แทรกเลย เฉินฮวนฮวนกับหลินอวี่หยางก็กำลังคุยอะไรกันอยู่ เธอจึงทำได้เพียงนั่งดื่มเครื่องดื่มอยู่ข้าง ๆ เธอโมโหจนกัดหลอดดูด
หลินอวี่หยางมองดูเวลา แล้วพูดกับเฉินฮวนฮวน “เดี๋ยวรอสองทุ่มผับเปิด พวกเราไปด้วยกัน
“ฉันเต้นไม่เป็น” เฉินฮวนฮวนเกาหัว อันที่จริงรู้สึกว่าไปเที่ยวผับค่อนข้างน่าเบื่อ
“ง่ายมากเลย! เดี๋ยวฉันสอนเธอ!” หลินอวี่หยางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
เห็นแบบนี้เฉินฮวนฮวนก็ไม่อยากให้หลินอวี่หยางเสียอารมณ์ จึงตอบรับเธอ
“ฮวนฮวน เธอจะไปเต้นจริงเหรอ?” เฟิงเฉินเหยี่ยนที่อยู่ตรงข้ามได้ยินเฉินฮวนฮวนตอบรับ เขาไม่ได้คิดอะไรมาก แล้วถามขึ้น
“ใช่ ทำไมเหรอ?” เฉินฮวนฮวนถามเฟิงเฉินเหยี่ยนอย่างสงสัย
เดิมทีเธอคิดว่าเฟิงเฉินเหยี่ยนหลงอยู่ในคารมของเฉินเสี่ยวอวี่กับจางถิง คิดไม่ถึงว่าจะยังฟังที่หลินอวี่หยางคุยกับเธอ
“เธอแน่ใจว่าเธอจะไปผับ? ลานเต้นผู้ชายเยอะมาก ถึงเวลาเนื้อแนบเนื้อ ไม่ค่อยดีหรอกนะ?” สีหน้าของเฟิงเฉินเหยี่ยนลังเลและจริงจังนิดหน่อย ไม่มีท่าทางหยอกล้อเหมือนเมื่อครู่เลยสักนิด
“เอ่อ…” เฉินฮวนฮวนได้ตระหนักถึงตัวตนของตัวเองในฐานะผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว เธอตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ได้ยินคำพูดของเฟิงเฉินเหยี่ยน หลินอวี่หยางหน้าเสียนิดหน่อย แล้วจึงพูดตะคอกขึ้น “เฟิงเฉินเหยี่ยน นายยุ่งไปทั่วจริง ๆ นะ! ไปผับแล้วยังไง? ไปผับแล้วไม่ได้อยู่ในจารีตเหรอ? ใครบอกว่าไปผับแล้วต้องแนบเนื้อแนบตัวกับผู้ชาย? ไปผับแล้วไม่ดียังไง?”
“…” เฟิงหานชวนกะพริบตาปริบ ๆ เขาอึ้งอยู่ตรงนั้น
หลินอวี่หยางถือโอกาสลุกขึ้นยืน แล้วชี้หน้าด่าเฟิงหานชวนต่อ “ฮวนฮวนไม่ใช่ภรรยาของนายสักหน่อย นายจะมาขู่อะไร?”
“หยางหยาง เธออย่าด่าคน คนอื่นมองอยู่” จู่ ๆ เฉินฮวนฮวนก็รู้สึกปวดหัว รีบดึงแขนของหลินอวี่หยาง
หลินอวี่หยางรีบนั่งลง สูดลมหายใจเข้าลึก พยายามระงับสติอารมณ์ของตัวเอง แล้วพูดขึ้น “เฟิงเฉินเหยี่ยน ฉันไม่ได้ตั้งใจด่านาย แต่นายลองพิจารณาดูว่าที่ตัวเองพูดมันถูกหรือเปล่า”
“ฉันผิดไปแล้ว” หลินอวี่หยางพูดจบ เฟิงเฉินเหยี่ยนก็ตอบกลับทันที
หลินอวี่หยาง : ??? เร็วขนาดนี้เลย?
“นายอยู่ใต้อำนาจของฉัน ก็เลยพูดโกหกเหรอ?” เธอจ้องตาเขม่นมองดวงตาของเฟิงเฉินเหยี่ยน แล้วถามแบบบีบบังคับ
“ไม่ใช่ จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกถึงความผิดของตัวเอง คุณพูดไม่ผิดครับ คุณหนูหลิน” เฟิงเฉินเหยี่ยนเหี่ยวเฉาไปเลย จากนั้นก็มองไปทางเฉินฮวนฮวนอีก แล้วพูดขอโทษ “ขอโทษด้วยฮวนฮวน เมื่อกี้ฉันไม่ได้คิดอะไรเยอะขนาดนั้น ไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น แค่เป็นห่วงว่าเธอจะถูกเอาเปรียบ”
เห็นว่าเฉินฮวนฮวนต้องปกปิดสถานะเอาไว้ ดังนั้นเฟิงเฉินเหยี่ยนจึงไม่ค่อยสะดวกที่จะพูดถึงอาสามของตัวเอง เขาจึงพูดได้แค่นี้
ได้ยินข้ออ้างเมื่อกี้และคำขอโทษในตอนนี้ของเฟิงหานชวน ติงเซียงที่อยู่ด้านข้างจึงขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าถ้าหากไม่ได้โง่ ก็สามารถฟังออกได้ว่าเฟิงเฉินเหยี่ยนเป็นห่วงเฉินฮวนฮวน
แถมความเป็นห่วงแบบนี้ ไม่ใช่ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนแน่นอน แถมยังไม่อนุญาตให้เฉินฮวนฮวนไปผับ เป็นห่วงว่าเฉินฮวนฮวนจะถูกเอาเปรียบในสภาพแวดล้อมแบบนี้
ตกลงว่าเฟิงเฉินเหยี่ยนชอบเฉินฮวนฮวน หรือว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์อะไรที่ไม่สามารถบอกคนอื่นได้?
ติงเซียงสังเกตุอย่างละเอียด ตอนที่บอกว่าตัวเองจะจีบเฟิงเฉินเหยี่ยน นอกจากว่าเฉินฮวนฮวนตกตะลึง ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากเกิน ดูออกได้ว่าเฉินฮวนฮวนไม่ได้ชอบเฟิงเฉินเหยี่ยน
หรือว่าเฟิงเฉินเหยี่ยนชอบเฉินฮวนฮวนฝ่ายเดียว? หรือว่าเฟิงเฉินเหยี่ยนไม่รู้ว่าเฉินฮวนฮวนแต่งงานแล้ว?
ใช่ อาจจะเป็นแบบนี้
“คุณชายเฟิง ตระกูลเฟิงของพวกนายเป็นตระกูลเก่าแก่ ความคิดก็คล้อยตามไปแล้วเหรอ? นี่มันยุคไหนแล้ว? ไปผับก็ไม่ได้? มันน่า…” หลินอวี่หยางยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกเฉินฮวนฮวนหยิกขาก่อน
เธอจึงรีบปิดปากทันที
“อาเยี่ยน ฉันจะดูแลตัวเองอย่างดี! นายไม่ต้องเป็นกังวล อีกอย่างฉันไม่มีทางทำเรื่องอะไรที่ไม่ควรจะทำ” เฉินฮวนฮวนตอบอย่างรื่นหู
อันที่จริงเธอรู้ว่าที่เฟิงเฉินเหยี่ยนพูดเมื่อกี้เป็นเพราะเฟิงหานชวน เป็นเพราะตระกูลเฟิง และคำตอบของตัวเองในตอนนี้ ก็เพื่ออยากจะบอกกับเฟิงเฉินเหยี่ยนว่าเธอไม่มีทางทำให้ตระกูลเฟิงเสียหน้า
“ขอโทษด้วยฮวนฮวน ฉันเป็นผู้ชายที่ตรงเกินไป” เฟิงเฉินเหยี่ยนโขกหัวตัวเองอย่างละอายใจ
เฉินเสี่ยวอวี่เป็นผู้หญิงฉลาด เธอกลอกตาไปมา สังเกตได้ถึงความไม่ถูกต้องเป็นอย่างมาก จึงถามขึ้น “เฟิงเฉินเหยี่ยนหรือว่านายชอบเฉินฮวนฮวน?”
“หา?” เฟิงเฉินเหยี่ยนกับเฉินฮวนฮวนแทบจะพูดออกมาพร้อมกัน
“แน่นอนว่าไม่ใช่ พวกเราสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน” เฟิงหานชวนรีบปฏิเสธ ถ้าหากคำพูดนี้อาสามของเขาได้ยินเข้า เขาต้องขาขาดแน่
“งั้นทำไมนายถึงเป็นห่วงเฉินฮวนฮวนขนาดนี้?” เฉินเสี่ยวอวี่ถามอย่างซุบซิบนินทา
“ฉันเพิ่งจะพูดไปไม่ใช่เหรอ? ฉันกับฮวนฮวนเป็นเพื่อนสนิทกัน ดังนั้นฉันก็เลยเป็นห่วง”จู่ ๆ เฟิงเฉินเหยี่ยนรู้สึกปวดหัวนิดหน่อย เขารู้สึกว่าตัวเองโง่ไปหน่อย สมองไปค่อยพอใช้
เฉินฮวนฮวนรีบพูดตัด “พวกเราเป็นเพื่อนสนิทกันจริง ๆ ถ้าอาเยี่ยนชอบฉัน เราสองคนคงคบกันตั้งนานแล้วไหม?”
เธอใช้วิธีถามกลับเพื่อปฏิเสธความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับเฟิงเฉินเหยี่ยน
ในตอนนี้เอง ผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินผ่านโต๊ะหมายเลข 8 เห็นเฟิงเฉินเหยี่ยนกำลังดื่มเบียร์อย่างซึมเศร้าอยู่
ชายหนุ่มที่เดินนำหน้าใส่เสื้อผ้าแบรนด์แฟชั่นทั้งตัว เขาขยี้ตา แล้วพูดอย่างตกใจ “เชี่ย อาเยี่ยนมึงเที่ยวเล่นกับผู้หญิงเยอะแยะขนาดนี้ลับหลังพวกกู? นี่มึงเล่น 1ต่อ5เลยเหรอวะ?”
เฟิงเฉินเหยี่ยนวางขวดเบียร์ลง แล้วเงยหน้าขึ้น จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนในทันที เขายิ้มแล้วแบมือยกไหล่ เดินไปทางชายหนุ่มคนนั้น “อาหาว วันนี้มึงก็มาที่นี่เหรอ?”
“ว้าย!!! เจิ้งจือหาว!!!” เฉินเสี่ยวอวี่กับจางถิงร้องวี้ดว้ายออกมาพร้อมกัน
เฉินฮวนฮวนมองไปอย่างสงสัย พวกเขาดูวัยรุ่นมาก อีกอย่างมีเทรนแฟชั่นเป็นอย่างมาก ดูค่อนข้างคุ้นหน้าคุ้นตานิดหน่อย
“ดาราเหรอ?” เฉินฮวนฮวนพึมพำ
ติงเซียงตะลึงจนถึงตอนนี้ ได้ยินเฉินฮวนฮวนพึมพำ จึงรีบพูดขึ้น “เจิ้งจือหาว คิดไม่ถึงว่าฉันจะได้เจอตัวจริง! เขาเป็นนักร้องแร็พ มีชื่อเสียงมากเลย! มีความสามารถมาก! แถมยังวัยรุ่นมาก!”
ร้องแร็พ? ถึงว่าทำไมดูตามเทรนมาก
แต่ว่า ก่อนหน้านี้เฉินฮวนฮวนไม่ค่อยได้ดูรายการโชว์แร็พสักเท่าไหร่ ดังนั้นไม่รู้จักเจิ้งจือหาวก็ไม่แปลก
“แวดวงสังคมของเฟิงเฉินเหยี่ยนกว้างขวางดีนะ เป็นเพื่อนกับเจิ้งจือหาวด้วย ?” หลินอวี่หยางที่อยู่ข้าง ๆ ขยี้จมูก แล้วส่ายหน้าพูดขึ้น “ถึงว่าชอบโดนปาปารัซซี่จ้องอยู่”
เฟิงเฉินเหยี่ยนกับเจิ้งจือหาวพูดคุยกันสองสามประโยค จากนั้นก็เรียกให้พวกเขานั่งด้วยกัน เขายิ้มให้กับพวกเฉินฮวนฮวนแล้วพูดแนะนำ “คนนี้คือเพื่อนของฉัน เจิ้งจือหาว คิดว่าพวกเธอคงรู้จักแล้ว ฉันไม่ต้องพูดอะไรเยอะ แล้วก็เพื่อน ๆ พวกนี้ด้วย เป็นคนในแวดวงเดียวกัน”
“ไฮ~” เฉินเสี่ยวอวี่กับจางถิงทักทายเจิ้งจือหาวอย่างเป็นมิตร
เจิ้งจือหาวเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เป็นนักเรียนโรงเรียนดนตรีชื่อดังในสหรัฐอเมริกา พ่อแม่เป็นคนเชื้อสายจีน เปิดบริษัทอยู่ที่ต่างประเทศ อยู่ในระดับหล่อรวย ดังนั้นพวกเธอสองคนจึงตื่นเต้นมาก
แต่ติงเซียง ไม่ค่อยชอบสไตล์ฮิปฮอปแบบเจิ้งจือหาวสักเท่าไหร่ ในสายตาของเธอ เฟิงเฉินเหยี่ยนตรงสเปกของเธอมากกว่า ดังนั้นเธอไม่ได้เป็นมิตรอะไรมากกับเจิ้งจือหาว
เฉินฮวนฮวนกับหลินอวี่หยางก็ทักทายธรรมดา ๆ
เจิ้งจือหาวมองไปรอบ ๆ สุดท้ายก็มองไปที่เฉินฮวนฮวน เขามองเฉินฮวนฮวนอยู่หลายวินาที ถึงได้เคลื่อนสายตาออกมองไปทางเฟิงเฉินเหยี่ยน แล้วถามขึ้นด้วยความสนใจ “คนของมึงหมดเลยเหรอ?
“แน่นอนว่าไม่ใช่ เพื่อน ๆ ทั้งนั้น” เฟิงเฉินเหยี่ยนรีบปฏิเสธ
เขามีชื่อเสียงด้านความเจ้าชู้มาตลอด ขี้เกียจจะอธิบาย ดาราสาวหลายคนใช้โอกาสนี้เอาชนะเรื่องอื้อฉาวกับเขา เขาขี้เกียจเกินกว่าจะชี้แจง
เจิ้งจือหาวรู้ว่าถ้าหากเฟิงเฉินเหยี่ยนปฏิเสธ งั้นก็แสดงว่าเป็นแค่เพื่อนกันจริง ๆ ความสัมพันธ์บริสุทธิ์ยิ่งกว่าบริสุทธิ์
“เดิมทีเห็นคนสวยทุกคนสไตล์ไม่เหมือนกัน นึกว่าอาเยี่ยนจะเก็บสะสมสแตมป์ซะอีก” เจิ้งจือหาวชูขวดเบียร์ขึ้น มองไปทางเฉินฮวนฮวน เขายิ้มแล้วพูดขึ้น “เมื่อกี้ทำให้ทุกคนขุ่นเคือง พูดจาไม่สุภาพ ฉันลงโทษตัวเองก่อนสามขวด”
พูดจบ เจิ้งจือหาวจึงเริ่มมอมเหล้าตัวเอง สำหรับพวกเขาแล้วพูดได้ว่าเหล้าเบียร์เป็นเรื่องเล็ก แค่ไม่กี่นาทีเบียร์สามขวดก็ว่างเปล่าแล้ว เขายังคว่ำขวดแล้วเขย่า ๆ
“ว้าว! เก่งมาก!” เฉินเสี่ยวอวี่กับจางถิงเป็นงาน แถมยังประจบประแจงเก่ง ทั้งสองปรบมือให้กับเจิ้งจือหาว
เฉินฮวนฮวน หลินอวี่หยางแล้วก็ติงเซียงก็มองตาม เมื่อทุกคนเที่ยวเล่นด้วยกัน ก็เกรงใจที่จะปล่อยให้สภาพแวดล้อมน่าเบื่อ
เจิ้งจือหาวมองไปที่เฉินฮวนฮวนเหมือนไม่ตั้งใจแต่ตั้งใจ เขาหาหัวข้อพูดคุยขึ้น “สาวสวยทุกคนดูเด็กขนาดนี้ ยังเรียนมหาลัยอยู่เหรอ?”
“ยังเรียนมหาลัยอะไร พวกเราจบมหาลัยแล้ว” เฉินอวี่หยางกับจางถิงหัวเราะคิกคัก เห็นได้ชัดว่าเข้ากับพวกเขาได้แล้ว
เจิ้งจือหาวทำได้เพียงยิ้มตอบพวกเธอ แล้วมองไปทางเฉินฮวนฮวนอย่างจริงจัง แล้วเป็นฝ่ายถามขึ้น “คนสวยคนนี้ น่าจะยังเรียนไม่จบนะ?”