อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย - บทที่ 265 หลานชายตัวน้อย
เธอสบตากับดวงตาดำขลับลึกล้ำคู่นั้นของเฟิงหานชวนอย่างจริงจัง จากนั้นก็แย้มยิ้มมุมปาก เผยให้เห็นฟันขาวซี่เล็กๆ ขาวสะอาดเรียงตัวสวยงาม
“คุณว่านั่นเป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุดแล้ว งั้นฉันก็จะทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด”
เฉินฮวนฮวนเอ่ยเสียงเบาราวกับกระซิบ ดวงตาของเธอเปล่งประกายราวกับมีดวงดาวอยู่ในนั้น เธอแหงนหน้าขึ้น ริมฝีปากที่ดูซีดเซียวเล็กน้อยค่อยๆ บรรจงจรดประกบริมฝีปากของเขา
การกระทำเช่นนี้ของเฉินฮวนฮวน ทำให้เฟิงหานชวนตัวแข็งทื่อไปวินาทีหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็โอบรัดรอบเอวของเธอไว้ด้วยความประหลาดใจ
……
เฉินฮวนฮวนกลับไปที่ห้องนอนก่อน โดยทิ้งเฟิงหานชวนไว้ในห้องครัว
เมื่อเธอเข้ามาในห้องนอน เธอก็สอดตัวเองเข้าไปในผ้าห่มทันที และเอาผ้าห่มคลุมหน้าตัวเอง
เมื่อนึกว่าเมื่อสักครู่เธอเป็นฝ่ายรุกเสียเอง ใบหน้าของเธอก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ
ในเวลานี้เอง โทรศัพท์มือถือบนโต๊ะข้างเตียงดังขึ้น เฉินฮวนฮวนรีบลุกขึ้นนั่ง แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู พบว่าเป็นสายจากหลินอวี่หยาง
เฉินฮวนฮวนรับสายทันที
“หยางหยาง”
“ฮวนฮวน วันนี้ฉันส่งข้อความหาเธอเยอะมาก เธอไม่ตอบฉันเลย ตอนนี้ฉันเพิ่งซ้อมเสร็จ ฉันยังเป็นห่วงสถานการณ์ของเธออยู่ ก็เลยโทรหาเธอ” ปกติหลินอวี่หยางก็ช่างพูดอยู่แล้ว ตอนนี้เธอพูดเจื้อยแจ้วไม่มีท่าทีจะหยุด
ทว่าเฉินฮวนฮวนกลับไม่รู้สึกว่าเธอเสียงดังเอะอะโวยวายเลยสักนิด กลับจะรู้สึกอบอุ่นในใจเสียด้วยซ้ำ อย่างน้อยเธอยังมีเพื่อนดีๆ คนหนึ่งที่ห่วงใยเธอ
“วันนี้ฉันไม่สบาย ไม่ได้ดูข้อความเลย ขอโทษนะหยางหยางที่ทำให้เธอเป็นห่วง” เฉินฮวนฮวนกล่าวอย่างรู้สึกผิด
“เธอไม่สบายเหรอ ไปหาหมอที่โรงพยาบาลหรือยัง” น้ำเสียงของหลินอวี่หยางร้อนใจอย่างมาก
เฉินฮวนฮวนนึกถึงสถานการณ์ของตัวเอง สถานการณ์ของเธอตอนนี้ไม่ดีมากนัก บางทีเธออาจต้องถอนตัวออกจากการคัดเลือกเพื่อมาบำรุงครรภ์
ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจสารภาพออกไปทันที “หยางหยาง ฉันท้อง”
หลินอวี่หยางกำลังสะพายกระเป๋าเดินออกจากห้องซ้อม เมื่อได้ยินประโยคนี้ของเฉินฮวนฮวน เธอตกตะลึงไปทันที ดวงตากระพริบปริบๆ ร่างทั้งร่างของเธอชะงักงันอยู่กับที่
“หยางหยาง?” เมื่อเห็นว่าไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝั่ง เฉินฮวนฮวนจึงเอ่ยถาม
“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน ตอนนี้สมองของฉันสับสนนิดหน่อย เธอเพิ่งพูดว่า…พูดว่าไงนะ เธอ…เธอท้อง?” เมื่อหลินอวี่หยางกล่าวจบ เธอตระหนักถึงอาการตื่นเต้นของตัวเอง เธอรีบมองไปรอบๆ พบว่าไม่มีใครสนใจ เธอจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เฉินฮวนฮวนพยักหน้า “อืม ใช่”
“นี่ นี่ นี่ นี่ นี่…” หลินอวี่หยางพูดตะกุกตะกักราวคนติดอ่าง ไม่สามารถพูดออกมาได้ทั้งประโยค
“หยางหยาง ฉันอาจจะถอนตัวออกจากการคัดเลือก ตอนนี้สถานการณ์ของเด็กยังไม่คงที่นิดหน่อย ดังนั้น…” เฉินฮวนฮวนอึกอักอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่าควรพูดเรื่องนี้อย่างไรดี
นี่เป็นลูกคนแรกของเธอ หากเธอแท้งลูกคนนี้ไป หลังจากนี้ก็ยากที่เธอจะสามารถตั้งครรภ์ได้อีกครั้ง
อาจเป็นเพราะว่าเธอต้องการมีกรรมสิทธิ์ในตัวลูกของเฟิงหานชวน ดังนั้นเธอจึงต้องการรักษาเด็กคนนี้ไว้
เมื่อหลินอวี่หยางได้สติกลับมา เธอรีบกล่าวว่า “ฮวนฮวน ยินดีด้วย ยินดีด้วย นี่เป็นเรื่องน่ายินดีมาก! เมื่อกี้ฉันตกใจมากไป ไม่คิดว่าเธอจะท้องเร็วขนาดนี้”
ท้องเร็วขนาดนี้…เฉินฮวนฮวนรู้สึกจุกอยู่ในลำคอครู่หนึ่ง
เธอและเฟิงหานชวนเริ่มรู้จักกันได้อย่างไร เธอเคยเล่าให้หลินอวี่หยางฟังแล้ว ดังนั้นหลินอวี่หยางจะตกใจก็เป็นเรื่องปกติมาก
อันที่จริง จากการคบหากันระหว่างเธอและเฟิงหานชวน หากตอนนี้เธอตั้งท้องลูกของเฟิงหานชวนจริงๆ ดูเหมือนว่าจะเร็วเกินไป ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงนัก
“แน่นอนว่าลูกต้องสำคัญกว่า คัดเลือกอะไรไม่ต้องสนใจแล้ว ยังไงตอนนี้เธอก็เป็นคุณนายสามของตระกูลเฟิง การคัดเลือกเล่นๆ ไม่ต้องให้ความสำคัญมากหรอก ถอนตัวก็ถอนตัวสิ! เพียงแต่…” หลินอวี่หยางมุ่ยปาก
เฉินฮวนฮวนรีบถามขึ้น “เพียงแต่อะไรเหรอ”
“เฮ้อ ตอนคัดเลือกฉันยังอยากอยู่ซ้อมกับเธอนะ ถ้าเธอถอนตัวออกจากการแข่งขัน ฉันก็ไม่ได้อยู่กับเธอแล้ว ฮือฮือฮือ!” หลินอวี่หยางกล่าวอย่างน้อยใจ
เฉินฮวนฮวนหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เธอเอ่ยขึ้นอย่างปลอบใจ “ตอนนี้ฉันยังไม่แน่ใจว่าจะถอนตัวจากการแข่งขัน ฉันยังสับสนอยู่น่ะ ยังไงฉันก็เป็นความหวังของพี่เกาเหวิน ถ้าฉันไม่เข้าร่วมคัดเลือก ซ่งหลิงเอ๋อร์อาจจะเข้ามาแทนฉัน”
เฉินฮวนฮวนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างซ่งหลิงเอ๋อร์และจางฟาน และรู้ว่าตอนนี้เกาเหวินกำลังเหมือนตกนรกทั้งเป็น หากตัวเองออกจากการคัดเลือก ซ่งหลิงเอ๋อร์จะถูกผลักเข้ามาแทรกกลางระหว่างเกาเหวินและจางฟานอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
เธอตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเสียแล้ว
สิ่งสำคัญที่สุดคือ เธอผ่านการฝึกอบรมสุดโหดมาแล้ว ตอนนี้เธอมาสละสิทธิ์เช่นนี้ ยากที่จะยอมรับได้จริงๆ
ทว่า เด็กในท้องยังไม่แข็งแรงดี หากเข้าร่วมการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น ต้องส่งผลกระทบต่อเด็กอย่างแน่นอน…
จู่ๆ เฉินฮวนฮวนก็รู้สึกสับสนและกังวล
“ฮวนฮวน ฉันจำได้ว่าเธอกับคุณอาเฟิงอยู่ด้วยกัน ก่อนฝึกอบรมจนถึงตอนนี้…ไม่ใช่แค่ครึ่งเดือนเหรอ ครึ่งเดือนก็ตรวจเจอเด็กแล้วเหรอ” หลินอวี่หยางร้องขึ้นอย่างตกใจ เธอรู้สึกสับสนกับเรื่องนี้ และเกิดความสงสัย
ร่างของเฉินฮวนฮวนแข็งทื่อไปทันที เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของเฟิงหานชวน แต่เป็นลูกของหลิวตงรุ่ย ยังคงเป็นหนามแหลมในใจเธอ
“ความจริงแล้ว หยางหยาง ฉัน…” เฉินฮวนฮวนลังเลว่าจะตอบอย่างไร
ในเวลานี้เอง โทรศัพท์มือถือถูกกระชากไปทันที เฉินฮวนฮวนเงยหน้าขึ้นมอง พบว่าเฟิงหานชวนยืนอยู่ข้างเตียงของตัวเองแล้ว เธอไม่ได้สังเกตเห็นเลยสักนิด
เธออ้าปากค้าง เมื่อเธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็เห็นว่าเฟิงหานชวนเปิดลำโพงโทรศัพท์มือถือเสียแล้ว น้ำเสียงของเขาหนักแน่นมาก และจริงจังมากเช่นกัน “ก่อนหน้านี้เราเคยเกิดเหตุสุดวิสัยครั้งหนึ่ง เด็กมาตอนนั้น ตรวจพบเกือบจะเดือนหนึ่งแล้ว”
“เฟิง คุณอาเฟิง!” หลินอวี่หยางไม่เป็นตัวของตัวเอง น้ำเสียงพลันเปลี่ยนมาเคารพนบน้อมมากขึ้น
“เฉินฮวนฮวนต้องการพักผ่อน” เสียงอึมครึมของเฟิงหานชวนทะลุผ่านเข้ามาในสาย
หลินอวี่หยางรู้สึกได้ถึงเม็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผาก เธอไม่กล้าถามอะไรอีก และรีบกล่าวว่า “ค่ะ ค่ะ ค่ะ ฉันไม่รบกวนพวกคุณแล้ว ฉันวางแล้วค่ะ!”
หลังจากนั้น โทรศัพท์ก็ดังตู๊ดๆ ติดต่อกันพักหนึ่ง
เฟิงหานชวนล็อกหน้าจอโทรศัพท์มือถือ แล้ววางลงบนโต๊ะข้างเตียง จากนั้นบีบมือของเฉินฮวนฮวน ก่อนจะกล่าวเสียงทุ้มต่ำ “คราวหน้าถ้ามีใครถามอะไรก็ตอบแบบนี้ เข้าใจไหม”
“หลินอวี่หยางหรือว่าใครก็ตาม ไม่ต้องบอกความจริง” เขาเอ่ยกำชับอีกครั้ง
เฉินฮวนฮวนผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้า แล้วเอ่ยตอบเสียงเบา “ค่ะ”
ราวกับไม่รู้เนื้อรู้ตัว ภายใต้การแนะนำของเฟิงหานชวน เธอคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเธอกับเฟิงหานชวนไปแล้ว
กับหลิวตงรุ่ยคนนั้น ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว
เมื่อเห็นท่าทางเชื่อฟังของเฉินฮวนฮวน เฟิงหานชวนรู้สึกโล่งใจ เขารู้สึกราวกับหินก้อนใหญ่ตกลงไปที่พื้น
เขาลูบศีรษะของเธอเบาๆ ก่อนจะเอ่ยบอกเสียงเบา “รีบนอนเถอะ ช่วงนี้ก็อยู่บ้านบำรุงครรภ์ ผมจะให้แม่บ้านหลี่มาดูแลคุณ”
“แม่บ้านหลี่?” เฉินฮวนฮวนส่ายหน้าทันที และรีบกล่าวว่า “แม่บ้านหลี่ดูแลบ้านเก่า ถ้าให้เธอมาที่นี่ บ้านเก่าจะทำยังไง”
“บ้านเก่ายังมีผู้ดูแลจาง ไม่เป็นไรหรอก อีกอย่างนายท่านก็ยินดีมากที่จะส่งแม่บ้านหลี่มา ยังไงในท้องคุณก็มีหลานชายตัวน้อยของเขา” เฟิงหานชวนแทบจะโพล่งออกไปโดยไม่ต้องคิด
หลังจากพูดจบ เขาเองก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เฉินฮวนฮวนก็เช่นกัน