อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย - บทที่ 39 อย่าให้ผมต้อง “ใช้ได้!” เลย
ห้องพักผู้ป่วยวีไอพีที่ถูกประดับตกแต่งอย่างหรูหรา
หรงจิ่นซิวมองหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เตรียมจะโทรหาเฟิงหานชวน
ในเวลานี้เอง พยาบาลคนหนึ่งเข้ามาเอ่ยรายงาน “ท่านรองคะ คุณชายเฟิงมาแล้วค่ะ”
“อาเหยี่ยน?” คิ้วของหรงจิ่นซิวคลายออก มุมปากของเขายกยิ้มขึ้น และกล่าวว่า “โอเค ผมจะไปหาเขา”
จากนั้น เขาก็เอ่ยกำชับกับพยาบาลข้างๆ เขาว่า “ดูแลคุณเฉินให้ดี”
พยาบาลเสี่ยวอู๋พยักหน้าซ้ำๆ “ค่ะ ท่านรอง”
หลังจากกล่าวกำชับ หรงจิ่นซิวก็สาวเท้าออกจากห้องพักผู้ป่วย และเดินไปที่ห้องทำงานของตัวเอง
ทันทีที่ก้าวเข้ามา เฟิงเฉินเหยี่ยนก็สวมกอดเขา และกล่าวอย่างตื่นเต้น “พี่รองหรง วันนี้ตอนผมมาที่โรงพยาบาล นักข่าวตั้งหลายคนมาถ่ายรูปผม พรุ่งนี้ผมต้องเป็นที่หนึ่งของคำค้นหายอดนิยมอีกแน่!”
“…” มุมปากของหรงจิ่นซิวกระตุกขึ้น สายตาของเขามองลงไป และกล่าวอย่างเรียบเฉย “แค่บาดเจ็บที่ขา ทำอย่างกับตัวเองไม่ไหวแล้วจริงๆ นายต้องการให้ทางโรงพยาบาลช่วยนายแถลงข่าวไหม”
“ไม่ต้องไม่ต้อง ตอนนี้ผมก็แค่คน ‘ใช้ไม่ได้’ คนหนึ่ง อย่าให้ผมต้อง ‘ใช้ได้’ เลย” เฟิงเฉินเหยี่ยนโบกมือปฏิเสธ
“ทำไมล่ะ นายท่านของบ้านนายยังไม่ให้นาย ‘ใช้ได้’ อีกเหรอ” หรงจิ่นซิวรู้สึกขบขัน และชี้ไปที่เตียงคนไข้แบบเคลื่อนที่ด้านข้างแล้วเอ่ยบอก “ไปนั่ง ฉันจะล้างแผลให้นาย”
“งั้นก็รบกวนพี่รองแล้ว ท่านรองผู้อำนวยการลงมือทำเองแบบนี้ ผมเกรงใจจริงๆ ครั้งหน้าผมจะเลี้ยงข้าวนะครับ!” เฟิงเฉินเหยี่ยนยิ้มกว้าง
หรงจิ่นซิวดันกรอบแว่นขึ้น เขาหันไปรับยา พร้อมกับถามขึ้นว่า “คราวก่อนนายบอกกับฉันว่า นายท่านของพวกนายหาภรรยาให้หานชวน ชื่อว่าเฉินฮวนฮวน?”
“ใช่ ใช่! ผมไปเจอผู้หญิงคนนั้นมาแล้ว พี่อย่าพูดไป ผมชอบมากเลยนะ! ผมดูแล้วเธอไม่เลวเลยล่ะ แต่ว่าเหมือนอาสามจะไม่ชอบเธอ แต่เขาก็เป็นแบบนั้นแหละ ไม่ชอบใครทั้งนั้น!” เฟิงเฉินเหยี่ยนเอ่ยแขวะขึ้น “ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเย็นชาแบบนั้น คุณปู่ก็ไม่สร้างแผนหลอกล่อเขาแบบนี้หรอก!”
“ฉันล้างแผลให้นายก่อน แล้วจะพานายไปเยี่ยมเฉินฮวนฮวน” หรงจิ่นซิวหยิบผ้าพันแผลและยา ก่อนจะเดินไปหาเฟิงเฉินเหยี่ยน
“อะไรนะ” เฟิงเฉินเหยี่ยนชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความงุนงง “เฉินฮวนฮวนอยู่ที่นี่เหรอ”
“เรื่องมันยาวน่ะ ตอนนี้เธอมีไข้สูง ยังไม่ได้สติ”
……
เฉินฮวนฮวนตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงง พบว่าหญิงสาวแปลกหน้าคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆ เธอ
และหญิงสาวคนนี้อยู่ในชุดพยาบาล
เธอรีบขยี้ตาแล้วลุกขึ้นนั่ง แต่กลับพบว่ามีเข็มน้ำเกลือเสียบอยู่ที่มือของเธอ
การกระทำของเฉินฮนฮวน ทำให้เสี่ยวอู๋รู้สึกตัว เธอวางโทรศัพท์มือถือลง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจ “คุณเฉิน คุณตื่นแล้ว!”
“คุณคือ?” เฉินฮวนฮวนรู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก
เธอไม่ได้อยู่ที่ประตูบ้านของตระกูลเฉินเหรอ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกัน
“ฉันเป็นพยาบาลของโรงพยาบาลรุ่ยเอินค่ะ คุณเรียกฉันว่าเสี่ยวอู๋ก็ได้ค่ะ คุณมีไข้สูง ตอนนี้ยังให้น้ำเกลือขวดที่แขวนอยู่ไม่เสร็จ คุณพักผ่อนก่อนนะคะ” เสี่ยวอู๋เอ่ยตอบอย่างรวดเร็ว
“โรงพยาบาลรุ่ยเอิน?” เฉินฮวนฮวนตกใจ และรีบดึงเข็มบนมือออกทันที
“คุณเฉิน นี่คุณทำอะไรคะ” เสี่ยวอู๋ตกใจกับการกระทำของเฉินฮวนฮวน
เฉินฮวนฮวนหันมองรอบๆ ครู่หนึ่ง นี่เป็นห้องพักผู้ป่วยระดับวีไอพี และโรงพยาบาลรุ่ยเอินก็เป็นโรงพยาบาลเอกชน ค่าใช้จ่ายของที่นี่แพงหูฉี่เลยทีเดียว
เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เธอไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลนะ!
“ฉัน…ฉันไม่ต้องให้น้ำเกลือหรอก ฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันไม่ได้เป็นทั้งนั้น ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ ใครพาฉันมาส่งที่นี่” เฉินฮวนฮวนถามอย่างกังวล
เธอคาดเดาในใจ หรือว่าเฉินเหม่ยเจวียนทุบตีเธอ แล้วพาเธอมาทิ้งที่โรงพยาบาลรุ่ยเอินอย่างนั้นเหรอ
“คุณเป็นแขกที่ท่านรองของพวกเราพามาค่ะ ตอนนี้คุณมีไข้สูง อย่างอแงเลยนะคะ ฉันจะช่วยคุณแขวนน้ำเกลือให้คุณโอเคไหมคะ” เสี่ยวอู๋รู้สึกว่าเฉินฮวนฮวนมีอาการตื่นตระหนก ดังนั้นเธอจึงพยายามใช้น้ำเสียงอ่อนโยนกล่าวโน้มน้าวเธอ
“ท่านรอง?” จู่ๆ ใบหน้าของผู้ชายคนหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเฉินฮวนฮวน
เหมือนว่าก่อนที่เธอจะหมดสติไป เธอเห็นชายแปลกหน้าคนหนึ่ง
“ใช่ค่ะ ท่านรองผู้อำนวยการของพวกเรา คุณหมอหรงจิ่นซิว” เสี่ยวอู๋เอ่ยตอบทันที
“คนที่สวมแว่นตากรอบสีทองคนนั้นหรือเปล่าคะ คนที่ผิวขาวๆ หน้าตาหล่อๆ ผู้ชายคนที่สุภาพเรียบร้อยคนนั้นใช่ไหมคะ” เฉินฮวนฮวนรีบถามขึ้น
เสี่ยวอู๋กำลังจะพยักหน้า ในเวลานี้เอง ประตูห้องพักผู้ป่วยก็ถูกเปิดออกอย่างไม่ทันตั้งตัว
“คนที่สุภาพเรียบร้อย?” หรงจิ่นซิวที่อยู่ในชุดคลุมสีขาว เดินเข้ามาพร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมใจดีช่วยคุณ ในสายตาคุณ ผมก็กลายเป็นคนสุภาพเรียบร้อยแล้วเหรอครับ”
“คุณ…คุณคือรองผู้อำนวยการคนนั้นที่ช่วยฉัน…” เฉินฮวนฮวนยังไม่ทันพูดจบ เธอถึงกับต้องอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
เพราะว่า ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามายืนด้านหลังหรงจิ่นซิว คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเฟิงเฉินเหยี่ยน
“อา อาเหยี่ยน! คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เฉินฮวนฮวนถามขึ้นด้วยความตกใจ
ดูท่าทางแล้ว ผู้ชายสองคนนี้เหมือนจะรู้จักกันเป็นอย่างดี
เฟิงเฉินเหยี่ยนเดินไปที่ข้างเตียงของเฉินฮวนฮวน มุมปากของเขาแย้มยิ้มขึ้น เผยให้เห็นฟันขาวเรียงสวย จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่หรงจิ่นซิว และกล่าวแนะนำ “นี่หรงจิ่นซิวลูกชายคนรองของตระกูลหรง แล้วก็เป็นรองผู้อำนวยการของโรงพยาบาลรุ่ยเอินด้วย เขากับอาสามเป็นพี่ชายที่ดีของผม และยังเป็นพี่ชายคนสนิทของผมด้วย”
“คุณหมอหรง สวัสดีค่ะ” เฉินฮวนฮวนยื่นมือไปจับมือกับหรงจิ่นซิว และถามขึ้นว่า “คุณช่วยฉันไว้เหรอคะ”
“ครับ ถ้าผมไม่อยู่ตรงนั้น คุณอาจจะโดนตีจนตายเลยนะครับ” หรงจิ่นซิวเอ่ยออกมาอย่างติดตลก และเอ่ยถามด้วยความสงสัยเป็นอย่างมาก “นั่นคนในครอบครัวของคุณเหรอครับ”
เมื่อเฉินฮวนฮวนได้ยินคำถามนี้ เธอหลับตาลง ทว่าสายตาของเธอกลับแฝงไว้ด้วยความโกรธแค้นชิงชังไร้ที่สิ้นสุด
ทว่าไม่นาน เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นด้วยท่าทีสงบนิ่ง และกล่าวอธิบาย “พวกเขาไม่ใช่คนในครอบครัวของฉันหรอกค่ะ พวกเขาเป็นศัตรูของฉัน”
“ยังไงก็ ขอบคุณคุณหมอหรงมากนะคะที่ช่วยฉัน” เฉินฮวนฮวนเริ่มแสดงท่าทีจริงจัง และโค้งคำนับให้เหรงจิ่นซิว
ตามที่หรงจิ่นซิวกล่าว ถ้าเขาไม่อยู่ตรงนั้น ตัวเองอาจจะโดนเฉินเหม่ยเจวียนตีจนตาย
“โอเค โอเค ฮวนฮวน คุณไม่ต้องเกรงใจพี่รองขนาดนั้นหรอก ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น!” เฟิงเฉินเหยี่ยนเอ่ยทำลายบรรยากาศจริงจัง และกล่าวอย่างหยอกล้อ
ครอบครัวเดียวกัน…
เมื่อได้ยินสามคำนี้ เฉินฮวนฮวนก็นิ่งไปครู่หนึ่ง หรือว่าเฟิงเฉินเหยี่ยนยังถือว่าเธอเป็นภรรยาอย่างนั้นเหรอ
ทว่า เธอกำลังจะไปจากบ้านของตระกูลเฟิงแล้ว
“อาเหยี่ยน คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เฉินฮวนฮวนถามอย่างสงสัย
หรือว่าเฟิงเฉินเหยี่ยนรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ จึงตั้งใจรีบมาที่นี่อย่างนั้นเหรอ
“ฉัน…” เฟิงเฉินเหยี่ยนกลอกตา ก่อนจะลอบยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็โน้มตัวลงมากระซิบที่ข้างหูของเฉินฮวนฮวน “ผมมาพบพี่รองเพื่อรับการรักษา ผมมีนัดรักษาบางอย่างน่ะ”
ใบหน้าของเฉินฮวนฮวนขึ้นสีแดงระเรื่อทันที เธอเข้าใจในสิ่งที่เฟิงเฉินเหยี่ยนพูด เธอไม่คิดว่าเฟิงเฉินเหยี่ยนจะยอมแพ้ เขายังคงยืนหยัดในการรักษาตัวเองต่อไป
ในตอนนี้เอง ผู้ชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วย
เมื่อเฟิงหานชวนเดินเข้ามา เห็นท่าทีสนิทชิดเชื้อกันของเฟิงเฉินเหยี่ยนและเฉินฮวนฮวน โดยเฉพาะใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอายของเฉินฮวนฮวน ทำให้สีหน้าของเขาดำอึมครึมขึ้นมา
ฝีเท้าของเขาหยุดชะงักลงทันที ทั่วทั้งร่างแผ่รังสีความน่ากลัวออกมา