อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย - บทที่ 72 ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเฟิง
“อะไรนะ? เฉินฮวนฮวนเป็นภรรยาของคุณ เป็นไปได้ยังไง! ”
หลิ่วเยว่เอ่อร์ตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่เฟิงหานชวนพูด ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อ
เธอกล่าวต่อว่า: “เฉินฮวนฮวนบอกฉันเป็นการส่วนตัวว่านายท่านเฟิงขอให้เธอแต่งงานกับเฟิงเฉินเหยี่ยนเพื่อปกป้องคฤหาสน์ของแม่เธอไว้ และเธอต้องอยู่ในบ้านตระกูลเฟิง!”
“เฟิงหานชวน คุณตั้งใจพูดว่าเฉินฮวนฮวนเป็นภรรยาของคุณเพราะฉันรู้เรื่องนี้และกลัวว่าฉันจะออกไปป่าวประกาศใช่ไหม?”
ตอนนี้หลิ่วเยว่เอ่อร์เริ่มคลั่ง แผนของเธอนั้นพังไม่เป็นท่าและเธอก็ทำให้เฟิงหานชวนรู้สึกขัดใจอีกด้วย เธอรู้เลยว่าเธอจะต้องไม่มีชีวิตที่ดีต่อไปอย่างแน่นอน
ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เธอสามารถหาฟางช่วยชีวิตเธอได้ เธอก็จะคว้ามันไว้แน่นและจะไม่ยอมปล่อยไปอย่างเด็ดขาด
เช่นเดียวกับตอนนี้ฟางช่วยชีวิตเธอก็คือความสัมพันธ์ระหว่างเฟิงหานชวนและเฉินฮวนฮวน เธอรู้ถึงความสัมพันธ์ที่ผิดจรรยาบรรณของพวกเขา ดังนั้นเธอจึงสามารถใช้สิ่งนี้เพื่อข่มขู่เฟิงหานชวนได้และบางทีมันอาจจะส่งผลดีกับตัวเธอ
“คุณหลิ่ว คุณคิดว่าคุณจะมีโอกาสได้เอาเรื่องนี้ไปป่าวประกาศเหรอ?”เฟิงหานชวนหัวเราะเยาะ เขาคิดแค่ว่ามันไร้สาระ
เขาเคยถูกหลอกโดยผู้หญิงโง่ๆแบบนี้
ตั้งแต่ต้นจนจบเฉินฮวนฮวนไม่เคยโกหกเขา แต่เป็นหลิ่วเยว่เอ่อร์ต่างหากที่โกหกเขา
ถ้าไม่ใช่เพราะหลิ่วเยว่เอ่อร์ปลอมตัว เขาก็คงจะไม่เข้าใจเฉินฮวนฮวนผิดมากมายขนาดนี้ และก็คงจะไม่รู้ความจริงจนถึงตอนนี้
“ฉัน…..”เมื่อหลิ่วเยว่เอ่อร์ได้ยินคำถามของเฟิงหานชวน ใบหน้าของเธอก็ซีดลงจนถึงขีดสุด
ราวกับว่าฟางช่วยชีวิตสุดท้ายนั้นถูกดึงออกมา เธอปีนลงมาจากเตียงเหมือนคนบ้าโดยไม่ได้สนใจกลุ่มคนที่ตรงหน้าของเธอเลย เธอลงจากเตียงมาตรงหน้าของเฟิงหานชวน
เฟิงหานชวนไม่ต้องการเห็นผู้หญิงบ้าๆคนนี้อีก เขาหันหลังกลับและกำลังจะเดินจากไป แต่หลิ่วเยว่เอ่อร์ก็รีบวิ่งเข้าไปขวางเขาไว้เสียก่อน
เธอนอนลงบนพื้นและใช้มือทั้งสองข้างจับข้อเท้าของเฟิงหานชวนแน่น เธอตะโกนด้วยเสียงที่สั่นเทา: “ฉันผิด ฉันผิดจริงๆ คุณชายสาม โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย ฉันไม่มีวันกล้า…
“ถ้าคุณให้อภัยฉัน ฉันจะขอโทษเฉินฮวนฮวน ฉันจะทำดีกับเธอให้เหมือนพี่น้อง เธอคงไม่มีทางลงโทษฉันแน่ๆ ได้โปรด…”
เฟิงหานชวนขมวดคิ้วและสะบัดเท้าใส่ผู้หญิงที่น่าขยะแขยงตรงหน้า
“อ๊าย!”หลิ่วเยว่เอ่อร์ล้มลงและกรีดร้อง
“พี่น้องที่ดีอย่างนั้นเหรอ?”เสียงของเฟิงหานชวนเย็นชา: “เธอไม่ต้องการพี่น้องเช่นคุณ”
“ซูอวี่ พาเธอออกไป!”
……
ณ โรงพยาบาลรุ่ยเอิน ห้องพักผู้ป่วยVVIP
เมื่อเฉินฮวนฮวนลืมตาขึ้น เธอมองไปรอบ ๆ และพบว่าสภาพแวดล้อมตรงหน้าที่คุ้นเคย
จู่ๆเธอก็นึกขึ้นได้ว่านี่คือโรงพยาบาลของหรงจิ่นซิว?
เธอเข้าโรงพยาบาลอีกแล้วเหรอ?
เฉินฮวนฮวนวางมือลงบนเตียง เธอพยายามลุกขึ้นนั่ง เธอส่ายหัวและพยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
หลังจากนั้นสีหน้าของเธอก็ซีดลงกว่าเดิม
ให้ตายยังไงหลิวตงรุ่ยก็ปฏิเสธที่จะยอมรับเรื่องในคืนนั้น ในขณะที่เฟิงหานชวนเองก็เชื่อว่าเธอหลอกเขาแถมยังพูดดูถูกเธออีก
จนเธอล้มลงและหมดสติไป
คิดไปคิดมาเฟิงหานชวนน่าจะเป็นคนส่งเธอมาที่โรงพยาบาล
เฉินฮวนฮวนรู้สึกวิงเวียนศีรษะมาก แต่เธอไม่ได้ต้องการนอนอีกต่อไป เธอตัดสินใจเลิกผ้าห่มขึ้นและลุกขึ้นจากเตียง เธอพยายามลากขาหนักๆของเธอแล้วเดินไปที่หน้าต่าง
เธอถูกเปลี่ยนเป็นชุดผู้ป่วย ชุดถักที่เกาเหวินมอบให้เธอถูกเฟิงหานชวนฉีกขาดไปหมดแล้วเมื่อคืนนี้ และก็ไม่รู้ว่ามันถูกโยนทิ้งไปหรือเปล่า
ท้องฟ้าข้างนอกยังคงมืดมากแต่ท้องฟ้าก็ยังคงเผยแสงสีขาวจางๆเล็กน้อย เฉินฮวนฮวนหันหน้าไปและเหลือบมองดูเวลา ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาตีสองแล้ว
ทันทีที่รุ่งสางเธอก็จะถูกไล่ออกจากบ้านอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน
ตอนนี้สร้อยคอของแม่เธอก็ยังไม่ได้คืน และข้อตกลงของเธอกับนายท่านเฟิงก็กำลังจะสิ้นสุดลง เธอถูกเฟิงหานชวนพาออกมาจากเวทีและไม่รู้ว่าเกาเหวินยังอยากจะใช้เธออีกหรือไม่
ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่เธอคาดไว้
ในชีวิตของเธอยกเว้นการตายของแม่เธอมีความสุขมาก แต่ตั้งแต่ที่แม่ของเธอเสียชีวิตลง เธอกับยายของเธอก็มีชีวิตที่ยากลำบากมาก มันเป็นความรู้สึกที่ก้าวเดินต่อไปได้อย่างยากลำบาก
เฉินฮวนฮวนเคยคิดมาก่อนว่าถ้าเธอตาย เรื่องๆทุกอย่างก็คงจะไม่วุ่นวายขนาดนี้ใช่ไหม?
เธอหัวเราะอย่างเศร้าโศก เธอเปิดประตูกระจกแล้วเดินไปที่ระเบียง
ที่นี่คงน่าจะมีสิบถึงยี่สิบชั้นอย่างต่ำ เมื่อมองลงไปข้างล่างสิ่งต่างๆด้านล่างก็ดูเล็กไปหมด
เช่นเดียวกับเธอ การใช้ชีวิตในโลกนี้ช่างเล็กเหลือเกิน
“คุณแม่ คุณยาย ถ้าฮวนฮวนไปอยู่ด้วยดีไหม?”เฉินฮวนฮวนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่ก็ไม่พบดวงดาวบนท้องฟ้าสักดวง
เธอไม่รู้ว่าแม่กับยายจะได้ยินหรือเปล่า เธอได้แต่พึมพำกับตัวเอง
หลังจากที่เฟิงหานชวนจัดการหลิ่วเยว่เอ่อร์และเกาจวินเซวียนเสร็จแล้วเขาก็รีบตรงมาที่โรงพยาบาลทันที เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปที่ห้องพักผู้ป่วยเขาก็เห็นว่าผ้าห่มถูกพับขึ้นและเตียงก็ว่างเปล่า
และเขาเลื่อยสายตาไปและเห็นว่าเฉินฮวนฮวนยืนอยู่ตรงระเบียง เธอกำลังยกเท้าขึ้นเหยียบบนเก้าอี้
ข้างหน้าเป็นราวระเบียง
การแสดงออกของเฟิงหานชวนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและเขาก็รีบวิ่งเข้าไปเหมือนคนบ้า
“อ๊าย!”
ข้อมือของเฉินฮวนฮวนถูกใครบางคนคว้าไว้อย่างกะทันหัน จากนั้นเธอก็ถูกดึงให้ล้มลงและตกลงไปในอ้อมกอดอันอบอุ่น
“เธอกำลังทำอะไร!”เฟิงหานชวนใจเต้นรัวและตะคอกใส่เสียงดัง
เฉินฮวนฮวนเห็นใบหน้าของชายตรงหน้าอย่างชัดเจน ใบหน้าที่วิตกกังวลและมันไม่เหมือนเฟิงหานชวนในเมื่อก่อนเลย
ก่อนหน้านี้เฟิงหานชวนเกลียดเธอมาก แม้แต่ความอดทนเล็กๆน้อยๆที่มีต่อเธอ มันก็เป็นเพียงแค่เพราะเขาต้องการที่จะเล่นกับเธอเท่านั้น
เธอไม่รู้ว่าเธอไปกวนใจเขาตรงไหน เขาแค่มองเธออย่างไม่ค่อยพอใจนับตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกัน เขาเกลียดเธอมาโดยตลอด
“ฉันไม่ได้ทำอะไร คุณมาที่นี่ทำไม?”การแสดงออกของเฉินฮวนฮวนสงบนิ่งมาก แต่ไม่มีสีสันอยู่บนใบหน้าของเธอเลยสักนิด เสียงของเธอเบาราบเรียบราวกับลมพัด และเขาแทบไม่ได้ยินมันเลย
“ยังจะมาพูดอีกเหรอว่าไม่ได้ทำอะไร? เมื่อกี้เธอเหยียบขึ้นไปบนเก้าอี้ เธอต้องการจะทำอะไร? ด้านหน้าคือราวระเบียง เธอจะกระโดดตึกหรือยังไง? “เฟิงหานชวนใกล้จะเป็นบ้าเข้าไปทุกที
ผู้หญิงคนนี้ต้องการที่จะฆ่าตัวตายโดยไม่ต้องคิดเลย!
“คุณปล่อยฉันลงก่อน”เฉินฮวนฮวนไม่ได้ไปมองเขา เธอเลี่ยงการสบสายตาและพูดอย่างเย็นชาว่า: “ตอนนี้มันตีสองแล้ว คุณเฟิงมีเรื่องอะไรหรือเปล่า? หรือแค่อยากมาถามว่าฉันถูกข่มเหงอย่างไรหรือต้องการให้ฉันทำอะไร? ”
เมื่อมองไปที่ร่างบางที่มีท่าทางที่เฉยเมยและเหินห่างกับเขา เฟิงหานชวนก็ขมวดคิ้วทันที เขารู้สึกราวกับว่ามีหินก้อนใหญ่กำลังขวางหัวใจของเขาไว้อยู่
เขาทำร้ายเธอหรือเปล่า
เขาไม่ตอบอะไร เขาหันกลับมาและอุ้มเธอเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย จากนั้นก็วางเธอลงบนเตียง
เมื่อเฉินฮวนฮวนถูกวางลงบนเตียงในห้องพักผู้ป่วย เธอนั่งอยู่ที่ขอบเตียงโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ หรือพูดคุยอะไรอีก
เมื่อมองไปที่ท่าทางของเฉินฮวนฮวน เฟิงหานชวนก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขาถูกกระชาก หากไม่ใช่เพราะความใจร้ายของเขาก่อนหน้านี้เธอคงไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
“บอกฉันมา เมื่อกี้ต้องการจะทำอะไร?”เฟิงหานชวนนั่งลงและเอื้อมมือไปจับมือเฉินฮวนฮวน น้ำเสียงของเขานุ่มนวลลง
เฉินฮวนฮวนดึงมือของเธอออกทันทีและวางไว้ข้างๆ เธอพยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสกันกับผู้ชายคนนี้
“เรื่องของฉันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเฟิง”เธอพูดเบาๆ