อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย - บทที่ 92 เฟิงหานชวน คุณจะเข้ามามั่ว ๆ ไม่ได้นะ!
“เจ้าสามกลับมาแล้ว! มา ๆ มากินมื้อค่ำด้วยกันมา” เฟิงเหลยถิงกลอกตามองไปรอบ ๆ อย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็โบกมือไปทางเฟิงหานชวน
เฟิงหานชวนชำเลืองตามองไปทางเฉินฮวนฮวนด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะอาหาร
เฉินฮวนฮวนเพิ่งสังเกตเห็นสายตาของเฟิงหานชวน เธอเม้มปากเล็กน้อย ก้มหน้าและเดินเข้าไป
“เจ้าสาม แก้มซ้ายไปโดนอะไรมา? มันแดง ๆ เหมือนจะบวมหน่อย ๆ ด้วย นายโดนตบมาเหรอ?”
เฉินฮวนฮวนที่เพิ่งเดินมาถึงโต๊ะอาหาร ได้ยินเฟิงเหลยถิงถามเฟิงหานชวนพอดี เธอตกใจจนเกือบทรงตัวไม่อยู่
ฝ่ามือนั้นเป็นรอยที่เธอทิ้งไว้เอง ดูเหมือนจะทิ้งรอยไว้อย่างหนักหน่วงด้วย
เธอแอบปรายตาช้อนขึ้น และมองไปยังเฟิงหานชวนที่อยู่ตรงข้าม ซึ่งแสงไฟในร้านอาหารกระทบลงมาบนใบหน้าของเขาพอดี ทำให้เห็นรอยนิ้วทั้งห้าแดงจาง ๆ
ตอนนี้เอง เฟิงหานชวนก็ได้มองมาทางเธอเช่นกัน ทั้งสองคนสบตากัน เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าหัวใจนั้นหยุดเต้นไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบเบนสายตาไปทางอื่น
ทำไมเธอถึงได้รู้สึกขาดความมั่นใจขนาดนี้ละ?
เห็น ๆ อยู่ว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด คนที่ทำผิดคือเฟิงหานชวนต่างหาก เขาถือโอกาสตอนที่ตัวเองหลับ จู่โจมเธอ!
แต่ตอนนี้ เธอกลับไม่กล้ามองหน้าผู้ชายคนนี้
“โดนกระต่ายตัวหนึ่งตบมาแค่นั้น” เฟิงหานชวนจ้องเขม็งไปทางเฉินฮวนฮวนที่อยู่ตรงข้ามอย่างไม่ลดละ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
กระต่าย!?
เฉินฮวนฮวนรีบเบนสายตามาทางเฟิงหานชวนทันที จากนั้นเธอก็พบว่า เฟิงหานชวนกำลังมองมาทางเธอเช่นกัน อีกทั้งคำพูดเมื่อสักครู่ก็เหมือนจะหมายถึงเธอด้วย
เฟิงหานชวนแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้ ตั้งใจใช่ไหม?
“แค่ก แค่ก” หลังจากที่เฟิงเหลยถิงได้ยิน ก็ไอแห้งออกมา ราวกับสำลักอะไรสักอย่าง ก่อนจะรีบพูดว่า : “กินข้าว ๆ!”
เมื่อเฉินฮวนฮวนเห็นเฟิงเหลยถิงไม่ถามต่อ จึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกในใจ
เธอคิดว่าเรื่องนี้จะจบแบบนี้ แต่ใครจะไปรู้ หลังจากที่กินข้าวเสร็จ เธอกลับมาถึงห้องได้ไม่นาน เฟิงหานชวนก็พังประตูถลันตัวเข้ามา
เธอรู้ก่อนแล้ว จึงล็อกประตูไว้!
สิ่งสำคัญก็คือในตอนนี้ เธอเปลี่ยนเป็นชุดนอนสายเดี่ยวเรียบร้อยแล้ว เตรียมจะนอน ด้วยชุดที่ค่อนข้างเปิดเผย
“เฟิงหานชวน คุณเข้ามามั่ว ๆ ไม่ได้นะ!” เฉินฮวนฮวนยืนอยู่ข้างเตียงพอดี เธอหยิบหมอนขึ้นมากอดไว้ด้านหน้าของตัวเอง เพื่อปกปิดผิวหนังเรือนร่างของตัวเอง
เฟิงหานชวนปิดประตูเรียบร้อย แต่เขาทำเหมือนไม่ได้ยิน สาวเท้าก้าวไปหาเฉินฮวนฮวนทีละก้าว ๆ
เฉินฮวนฮวนถูกเบียดเข้าไปในมุมผนัง หลบหลีกยังไงก็หลบหลีกไม่พ้น
“เฟิงหานชวน ที่นี่คือบ้านตระกูลเฟิง ไม่ใช่อาณาเขตของคุณ ถ้าคุณกล้าทำอะไรฉัน อย่ามาโทษฉันละกันว่าฉันตะโกนเสียงดัง!” เฉินฮวนฮวนเบิกตากว้างมองไปยังผู้ชายตรงหน้า พร้อมกับพูดขู่ด้วยเสียงทุ้มต่ำ
เธอไม่เชื่อ ว่าเฟิงหานชวนจะไม่ละอายแก่ใจจริง ๆ ถึงขนาดกล้ามาทำลวนลามกับหลานสะใภ้ตระกูลเฟิงเชียวเหรอ?
เพียงแต่ความถูกต้อง ความยุติธรรม ศีลธรรมและเกียรติยศก็ควรจะมีสักนิด
เฟิงหานชวนมองไปยังผู้หญิงตรงหน้าที่กำลังโกรธลมออกหู แต่กลับรู้สึกว่าเธอน่ารักแทบใจละลาย ต่อให้เธอจะอยู่ในช่วงระเบิดอารมณ์อยู่ก็ตาม
เข้าโค้งตัวลงมา กักกันตัวเธอไว้อย่างแน่นหนา กำราบเธอให้อยู่ในอาณาเขตที่เขาสร้างขึ้น
“เฉินฮวนฮวน ถ้าเรากำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม แล้วคุณตะโกนเรียกคนอื่นมา คุณคิดว่าคนที่รู้สึกอึดอัดมีแค่ผมเหรอ?” ในขณะที่เขาพูด มุมปากก็ได้กระตุกขึ้น เผยเสียหัวเราะเยาะเบา ๆ
“ฉันไม่มีวันจูบอย่างดูดดื่มกับคุณเด็ดขาด คุณบังคับฉัน ฉันไม่ได้ยินยอม ฉัน……….” เฉินฮวนฮวนกำลังอ้าปากโต้แย้ง แต่กลับถูกปิดปากไว้อย่างไม่ทันตั้งตัว
คำพูดเมื่อสักครู่ ทำให้เธอนึกถึงค่ำคืนที่น่าหวาดกลัวในบลูส์คลับนั้น
หลิวตงรุ่ยบังคับฝืนใจเธอ เธอขัดขืนไม่ไหว เธอไม่ได้ยินยอม แต่สุดท้ายก็ถูกชิงความบริสุทธิ์แรกไป
ถ้ามีคนรู้เรื่องนี้เข้า เธอจะต้องถูกคนอื่นจับผิด ใช้ชีวิตอยู่ในวังวนแห่งความมืดมิดอย่างแน่นอน
ดวงตาร้อนผ่าว ปล่อยให้น้ำตาเอ่อล้นออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ทำไมโลกใบนี้ถึงไม่ยุติธรรมกับคนอ่อนแอเลยล่ะ!
เธอไม่อยากกลายเป็นคนอ่อนแอ เธออยากเป็นคนเข้มแข็ง แต่เธอกลับไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้น
เมื่อเฟิงหานชวนเห็นดวงตาที่แดงก่ำของเฉินฮวนฮวน เขารู้สึกบีบหัวใจทันที จากนั้นก็รีบพูดว่า : “ไม่ได้รับความเป็นธรรม? ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรคุณ แค่ล้อคุณเล่นก็เท่านั้นเอง”
เขาเป็นกังวลว่าเฉินฮวนฮวนจะคิดถึงเรื่องในวันนั้น เขาไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่า แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ การแสดงออกแบบนั้นของเฉินฮวนฮวน ชัดเจนมาก
“ล้อฉันเล่นเหรอ?” เฉินฮวนฮวนปาดน้ำตา ก่อนจะตำหนิออกไป “เฟิงหานชวน ถ้าคุณแค่ล้อเล่นฉัน ก็อย่ามาทำกับฉัน……”
อย่ามาทำเรื่องแบบนั้นกับเธอ จูบเธอ กอดเธอ สัมผัสเธอ……….
เฟิงหานชวนพูดไม่ออก
เวลาแบบนี้ เขากล้าบอกความจริงไหมล่ะ? ถ้าพูดออกมา เฉินฮวนฮวนจะรับได้ไหม?
“เฟิงหานชวน ฉันถามคุณหน่อย” เฉินฮวนฮวนปรายตาขึ้นมามองเฟิงหานชวน จากนั้นก็ถามว่า : “คุณไม่ได้อยากให้ฉันเป็นภรรยาของอาเยี่ยนใช่ไหม ดังนั้นจึงมาทำกับฉันแบบนี้?”
ก่อนหน้านั้นเฟิงหานชวนไล่เธอออกมาจากตระกูลเฟิง ทำเรื่องที่เกินไปกับเธอ
แต่นึกไม่ถึงว่าหลังจากที่ทั้งสองคนคืนดีกัน เฟิงหานชวนยังลงมือกับเธอ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้โหดร้ายเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ระรานเธอมากทีเดียว
“ใช่” เฟิงหานชวนตอบกลับไปอย่างตรงไปตรงมา
เธอเป็นภรรยาของเขา เขาไม่หวังให้เธอเป็นภรรยาของอาเยี่ยน
“ว่าแล้วเชียว” เฉินฮวนฮวนรู้ว่าตัวเองเดาไม่ผิด เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และถามอีกครั้งว่า : “เพราะคิดว่าฉันไม่เหมาะสมกับอาเยี่ยนใช่ไหม?”
เฟิงหานชวนขมวดคิ้ว เขานึกไม่ถึงว่าเฉินฮวนฮวนจะถามแบบนี้
“ไม่ใช่” เขาปฏิเสธ
“แล้วเพราะอะไรละ?” เฉินฮวนฮวนแทบจะเป็นบ้า เฉินฮวนฮวนถูกเฟิงหานชวนบังคับจนแทบบ้า
เธอแค่อยากมีชีวิตดี ๆ มีชีวิตที่สงบสุข มีชีวิตที่เป็นระบบระเบียบ มีชีวิตที่กระตือรือร้น มีชีวิตเพื่อแก้แค้น
เฟิงหานชวนต่างหาก ที่เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตของเธอตลอด
“คุณอยากรู้จริง ๆ เหรอว่าเพราะอะไร?” เฟิงหานชวนยืดตัวตรง จากนั้นก็มองไปยังผู้หญิงตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ
จมูกที่แดงระเรื่อ ริมฝีปากที่แดงอวบอิ่ม น้ำตาคลอหน่วยไหลรินออกมาจากดวงตาโตใสแป๋ว แก้มทั้งสองข้างยังมีคราบน้ำตาหลงเหลือ
“ใช่ ฉันอยากรู้จริง ๆ ฉันอยากรู้ว่าฉันไม่ดีตรงไหน ทำไมคุณถึงเมินเฉยกับฉันแบบนี้?” เฉินฮวนฮวนสูดน้ำมูกเล็กน้อย กลั้นหยดน้ำตา เห็นแล้วเจ็บปวดใจอย่างมาก
น่าจะเพราะหลิวตงรุ่ย
คำถามนี้ เธอไม่กล้าถาม เธอกลัวที่จะถาม
เพราะเธอถูกข่มขื่นมาก่อน ดังนั้นเฟิงหานชวนจะไม่ต้องการให้ผู้หญิงแบบเธอมาแต่งงานกับหลานชายของเขา?
ถึงแม้ว่าเฟิงหานชวนจะช่วยเธอ ช่วยนำสร้อยคอมาคืนเธอได้ และยังขอโทษเธอ แต่ไหนแต่ไรมา ก็ยังแคร์เรื่องนี้อยู่ดี!
“ผมไม่ได้เมินเฉยกับคุณ” เฟิงหานชวนรู้สึกว่าเฉินฮวนฮวนแบบนี้ทำให้น่าปวดใจมากในสายตาของเขา
ต่อให้เฉินฮวนฮวนจะไม่มีทางรับได้ แต่เขาก็ตั้งใจจะพูดออกมา ให้เธอเข้าใจความจริง บางทีอาจจะดีกว่าปกปิดไว้ก็ได้?
เฟิงหานชวนหยุดพูดอีกครั้ง ทำให้เฉินฮวนฮวนยากจะรับได้
เขาบอกว่าไม่ได้เมินเฉยเธอ แต่กลับไม่บอกว่าทำไมถึงไม่เมินเฉยเธอ เพราะเรื่องนั้นเขาไม่กล้าพูดตรง ๆ เลยเหรอ?
“ฮวนฮวน มองตาผม” เฟิงหานชวนพูดเสียงทุ้มต่ำ แต่กลับแฝงไปด้วยความอ่อนโยน
เฉินฮวนฮวนเบนสายตาไปทางอื่น ไม่ฟังเขา
เฟิงหานชวนรู้ว่าตอนนี้เธอเกลียดเขามาก เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าและแข็งกร้าวเล็กน้อย : “ผมกลัวว่าคุณจะรับไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่พูด”
“ฮวนฮวน จริง ๆ แล้ว …..”