เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 1 เกิดใหม่
เมืองเจียง ตระกูลฉู่
ฉู่ลั่วที่คลุมตัวด้วยผ้าขนหนูนั่งมึนงงอยู่ริมสระน้ำ เวลานี้เธอไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ใบหน้ารูปไข่แสนงดงามของเธอซีดเผือด ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยหยาดน้ำ
สาวน้อยจำได้ว่าเมื่อครู่ตัวเองยังอยู่ในแดนเซียน สังหารราชาผีตนหนึ่งที่สร้างภัยพิบัติจนทำให้ขอบเขตเพิ่มสูงขึ้น
แต่ลืมตาขึ้นมาอีกที เธอก็มาอยู่ที่นี่แล้ว…
“ลั่วลั่ว ทำไมถึงผลักพี่สาวตัวเองตกน้ำ? เขาเป็นพี่สาวลูกนะ รีบขอโทษเดี๋ยวนี้!” หญิงสาวรูปร่างหน้าตาสะสวยคนหนึ่งกอดเด็กสาวที่ตัวเปียกเหมือนกันเอาไว้ พร้อมทั้งต่อว่าเธอ
ทันทีที่เห็นหญิงสาวผู้งดงาม ความทรงจำที่หายไปนานพลันกลับมาชัดเจนอีกครั้ง
นี่คือแม่ของเธอในชาติก่อน ซ่งเชียนหย่า
หลังจากนั้น ภาพชีวิตในอดีตก็ไหลเข้ามาในสมองเธอราวกับสายธาร ฉู่ลั่วในชาติก่อนมีชีวิตแสนยากลำบาก
ในวัยเด็กต้องอาศัยอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และด้วยความที่เธอมีดวงตาหยินหยางติดตัวมาแต่เกิด จึงมักจะมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น และถูกคนอื่นมองว่าเป็นตัวประหลาดผู้ไม่มีใครอยากเล่นด้วย
เมื่ออายุได้สิบแปดปี เธอไม่ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย แต่ต้องออกมาทำงานหาเงินแทน
ตอนยังไม่รู้เรื่องดวงตาหยินหยาง เธอคิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นโรคทางจิตเภท จึงขยันทำงานหาเงิน หนึ่งวันทำถึงสามงาน เพียงหวังว่าสักวันจะเก็บเงินได้มากพอให้ไปรักษาที่โรงพยาบาล แล้วจะได้กลับมาเป็นคนปกติเสียที
จนกระทั่งอายุยี่สิบสองปี สาวน้อยก็ถูกตระกูลฉู่รับตัวกลับมา
ฉู่ลั่วเพิ่งได้รู้ว่า แท้จริงแล้วตนเองถูกสลับตัวมาตั้งแต่เด็ก เธอเป็นลูกสาวของตระกูลฉู่ที่ร่ำรวยและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในเมืองเจียง
สำหรับคนไม่เคยได้รับความรักมาก่อน เธอรู้สึกราวกับสวรรค์ประทานขนมจากฟ้ามาให้แล้ว คิดว่าในที่สุด ตนเองก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนเด็กสาวธรรมดาได้เสียที
แต่… ชีวิตในตระกูลฉู่ไม่เหมือนที่จินตนาการไว้
ตระกูลฉู่ยังมีลูกสาวตัวปลอมอีกหนึ่งคน ชื่อว่าฉู่หร่าน
ฉู่หร่านได้รับการอบรมสั่งสอนอย่างลูกคุณหนูมายี่สิบกว่าปี ดูสง่างามสูงส่งในทุกอิริยาบท ตั้งแต่พ่อแม่ไปจนถึงคนรับใช้ของตระกูลฉู่ ทุกคนต่างก็ชอบเธอ
พวกเขามักจะเอาเราทั้งคู่มาเปรียบเทียบกันทุกอย่าง และฉู่ลั่วก็ไม่เคยชนะฉู่หร่านได้สักอย่าง
ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น สภาพจิตใจของเธอเปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า เริ่มจากความคาดหวัง ไปจนถึงการพยายามเอาอกเอาใจทุกคนเพื่อให้ได้รับความรัก ก่อนจะนำไปสู่ความรู้สึกเคียดแค้นในท้ายที่สุด
ยิ่งเธอดิ้นรนเท่าไหร่ ยิ่งลงเอยด้วยความอับอายมากเท่านั้น
แม้กระทั่งวันนี้ก็เช่นกัน
ในงานเลี้ยงต้อนรับของฉู่ลั่ว เธอแย่งชุดราตรีของฉู่หร่านมาใส่แม้จะไม่เข้ากับตัวเองเลยสักนิด จนถูกพวกลูกหลานเศรษฐีพากันหัวเราะเยาะ
เมื่อถูกยั่วโมโหจนถึงขีดสุด เธอจึงทะเลาะกับฉู่หร่านอย่างรุนแรง จนตกลงไปในสระว่ายน้ำทั้งคู่
ภาพจำสุดท้ายในชาติที่แล้ว คือผู้คนมากมายกำลังช่วยชีวิตฉู่หร่านขึ้นจากน้ำ ในขณะที่ตัวเธอค่อย ๆ จมลึกลงไปในความมืดอันหนาวเหน็บ
ก่อนลืมตาขึ้นมาเมื่อครู่ เธอยังคงอยู่ในสระว่ายน้ำ ไม่กี่วินาทีต่อจากนั้นถึงได้ถูกฉู่เหิง ลูกชายคนโตของตระกูลฉู่ช่วยขึ้นมา
ความทรงจำหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด ความรู้สึกที่ถูกกดทับเอาไว้ในชาติก่อนถูกกวาดมากองรวมกัน ทั้งความขมขื่น ความอยุติธรรมที่ได้รับ และชีวิตที่เคยหลงลืมไป
ฉู่ลั่วที่มีผ้าขนหนูคลุมตัวอยู่ลุกขึ้นยืน “ทำไมหนูต้องขอโทษ?”
“เธอเกือบจะฆ่าฉู่หร่านแล้ว เธอยังไม่คิดจะขอโทษอีกหรือ! เธอมีจิตสำนึกบ้างหรือเปล่า?” ซ่งเชียนหย่ามองลูกสาวแท้ ๆ ด้วยความผิดหวังระคนโกรธเกรี้ยว
ฉู่หร่านพิงตัวอยู่ในอ้อมกอดของซ่งเชียนหย่า พูดอย่างอ่อนแรงว่า “คุณแม่ พอเถอะค่ะ ลั่วลั่วไม่ได้ตั้งใจ หนูไม่ระวังพลัดตกลงไปเอง ลั่วลั่วพยายามจะช่วยหนู…”
แต่ทุกคนในงานต่างมองเห็นเหตุการณ์อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น…
ยิ่งฉู่หร่านพูดแบบนี้ คนอื่นยิ่งรู้สึกว่าเธอน่าสงสาร รู้สึกว่าเธอช่างเป็นคนจิตใจดี
ในทางกลับกันทุกคนจะคิดว่าฉู่ลั่วเป็นคนอำมหิต ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน!
“ผิดแล้วละ ฉันตั้งใจต่างหาก” ฉู่ลั่วเดินเข้าไปหาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ บนร่างกายยังมีหยดน้ำเกาะอยู่ เธอเดินไปตรงหน้าฉู่หร่านด้วยท่าทางราวกับผีพราย แค่พูดออกมาประโยคเดียว ก็ทำให้คนทั้งงานซุบซิบกันอย่างโกลาหล “ฉันอยากให้เธอตายไปซะ…”
“ฉู่ลั่ว ทำไมเธอถึงพูดแบบนี้!” ซ่งเชียนหย่าโกรธจนหน้าเขียว เธอปกป้องฉู่หร่านด้วยการเอาตัวฉู่หร่านไปไว้ด้านหลังเธอตามสัญชาตญาณ เพราะกลัวฉู่ลั่วจะทำร้ายลูกสาวแสนล้ำค่าของตัวเอง
ฉู่ลั่วเห็นการกระทำของผู้เป็นแม่แท้ ๆ ความเจ็บปวดพลันวูบไหวผ่านดวงตา ก่อนจะเก็บซ่อนไว้ได้อย่างรวดเร็ว “หนูชั่วร้ายเหรอ? แม่ของฉู่หร่านทำลายชีวิตหนู ฉู่หร่านแย่งพ่อแม่ของหนูไป แย่งพี่ชายของหนูไป แย่งชีวิตของหนูไป!”
“เธอจะบอกว่าฉันชั่วร้ายเหรอ?” ซ่งเชียนหย่ายังคงปกป้องฉู่หร่าน กระทั่งพูดว่าตนเป็นแม่ของเธอได้เต็มปากเต็มคำ “หร่านหร่านเป็นผู้บริสุทธ์”
“ผู้บริสุทธ์?” ฉู่ลั่วหัวเราะเยาะ “เธอมีความสุขจากการได้รับความรักจากพ่อแม่ ได้รับการปกป้องจากพี่ชายมายี่สิบกว่าปี อยู่โดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องเสื้อผ้าและอาหาร”
“แล้วหนูล่ะ?” นี่เป็นสิ่งที่อยากถามมาตลอด
ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาในตระกูลฉู่ ทุกคนในตระกูลฉู่ต่างบอกเธอว่าให้ทำตัวดี ๆ กับฉู่หร่าน ให้เธอตั้งใจเรียนรู้จากฉู่หร่าน เพราะกลัวว่าเธอจะรังแก ‘ลูกสาว’ ของบ้าน
พวกเขากลัวว่าฉู่หร่านจะรู้ความจริง และไม่อยู่กับตระกูลฉู่อีกต่อไป จึงทำดีกับเธอมากขึ้นเป็นเท่าตัว
และเพื่อไม่ให้ ‘ลูกสาวคนสำคัญ’ เสียใจ พวกเขาจึงปฏิบัติกับฉู่ลั่วด้วยความเย็นชา
“หนูไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์เหรอ?”
“หนูถูกรังแกอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว กินไม่เคยอิ่ม นอนไม่เคยอุ่น หนูไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์เหรอ ทำไมหนูต้องเจอแบบนี้”
ซ่งเชียนหย่าเงียบงัน “…”
“หนูต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยตอนอายุสิบแปด แต่เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม แม้กระทั่งจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยยังทำไม่ได้ หนูไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์เหรอ?”
“เพื่อให้อยู่รอด หนูทำงานวันละสามงาน ได้นอนแค่สี่ชั่วโมง หนูไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์ใช่ไหม?”
เธอเอ่ยถามคำแล้วคำเล่า ทุกคนในเหตุการณ์ต่างพากันเงียบกริบ
ในดวงตาของซ่งเชียนหย่าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “แม่รู้ว่าลูกมีชีวิตที่ยากลำบาก แม่เองก็อยากชดใช้ให้ลูก แต่ลูกจะโทษหร่านหร่านไม่ได้ เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความต้องการของหร่านหร่าน แม่หวังว่าลูกสองคนจะอยู่กันด้วยดี”
“เหอะ! อยู่กันด้วยดีแบบสองมาตรฐานน่ะเหรอ” ฉู่ลั่วส่ายหน้าด้วยท่าทางเยาะเย้ย “หนูจะทำได้ยังไงคะ”
“หนูเป็นนักบุญหรือไง หนูไม่มีความปรารถนา ไม่มีความต้องการเหรอ”
“พวกคุณเป็นพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดหนูหรือเปล่า เป็นพี่ชายหนูหรือเปล่า!” เสียงของเธอค่อย ๆ ดังขึ้น “ทำไมพวกคุณถึงช่วยคนที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่ไม่ยอมช่วยหนูล่ะ”
คนตระกูลฉู่ไม่มีอะไรจะพูด “…”
“ทำไมหนูกับเธอตกน้ำไปพร้อมกัน แต่พวกคุณทุกคนคิดแต่จะช่วยเธอ แล้วปล่อยให้หนูจมลงไป?”
ความรู้สึกตอนกำลังจะตายเจ็บปวดเกินไป น้ำไหลเข้าปากเข้าจมูก หายใจไม่ออกจนรู้สึกเจ็บที่ปอด
ในช่วงเวลานั้น เธอทั้งสิ้นหวังทั้งเจ็บปวดจนถาโถมมันใส่ทุกคน
“ในเมื่อพวกคุณไม่ได้รักหนู แล้วจะพาหนูกลับมาทำไม?”
“หนูยอมไม่มีพ่อแม่ไม่มีพี่ชายยังดีกว่า หนูไม่อยากรู้… ไม่อยากรู้ว่าพ่อแม่และพี่ชายของหนูไม่ได้รักหนูเลยแม้แต่นิดเดียว”
หลังจากที่เธอร้องไห้และเอ่ยถามคำถามเหล่านั้นจบก็ผลักคนที่ขวางทางออก และวิ่งเข้าไปในบ้านพักต่างอากาศโดยไม่หันกลับมามองคนที่อยู่ตรงนั้น
ฉู่ลั่วเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ล็อกประตูเพื่อตัดขาดจากโลกทั้งใบ และชั่วเวลานั้นเอง… สายตาของเธอก็เปลี่ยนไป
“ระบบ มันเกิดอะไรขึ้น?”
เธอเช็ดน้ำตาที่หางตา พลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา จนดูไม่ออกเลยว่าเป็นคนเดียวกับเด็กสาวที่ผิดหวังและพังทลายอยู่ข้างนอกนั่นเมื่อครู่
[นายหญิง ไม่เป็นไรใช่ไหม! ท่านโอเคหรือเปล่า]
“ฉันสบายดี รีบบอกมาว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมฉันถึงกลับมาที่นี่อีกแล้ว” นี่เป็นข้อสงสัยที่ใหญ่ที่สุดในใจเธอ
ตอนนี้ได้พูดออกไปแล้ว ความรู้สึกหดหู่เคียดแค้นในชาติก่อนจึงหายไปจนหมดสิ้น
ระบบอธิบาย
[เพราะเดิมทีท่านไม่ได้ตาย แต่ในระหว่างที่ท่านจมน้ำ เราแค่พาวิญญาณไปเยี่ยมเยือนอีกชาติภพหนึ่งของท่านเท่านั้น… ]
ฉู่ลั่วเข้าใจในทันที เธอไม่ได้ตายจากการจมน้ำเสียทีเดียว เพียงแค่ถูกระบบดึงวิญญาณไปยังชาติภพอื่น… สู่แดนเซียนเพื่อบำเพ็ญพลังวิญญาณ
จนกระทั่งฝึกสำเร็จ ระบบจึงส่งเด็กสาวกลับมาอีกครั้ง
ในโลกอีกใบนั้น เธอมีชีวิตอยู่มานานนับร้อยปี
แต่ในโลกใบนี้ กลับผ่านไปแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่นาทีเท่านั้น
กลับมาครั้งนี้ แทบไม่ต่างจากการตายแล้วเกิดใหม่…
ฉันไม่ใช่ฉู่ลั่วคนเดิมอีกต่อไปแล้ว!