เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 101 คืนเดือนหงาย
บทที่ 101 คืนเดือนหงาย
เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามคนกระโดดลงไปในน้ำ ว่ายลงไปด้วยกัน
“ในนั้นมีคนอยู่จริงเหรอ?”
“ที่นี่เข้ายากออกยาก คนที่อยู่ในนั้นมีชีวิตอยู่ได้ยังไงนะ?”
เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่อยู่ทางนี้ติดต่อไปหาเจ้าหน้าที่พยาบาลที่อยู่ตีนเขาแล้ว ไม่นานเจ้าหน้าที่พยาบาลก็มาถึง พวกเขาเตรียมอุปกรณ์ที่ต้องใช้พร้อมแล้ว และกำลังรอเจ้าหน้าที่กู้ภัยพาคนออกมา
“พ่อคะ อย่าร้อนใจไปค่ะ” ลูกสาวดึงศาสตราจารย์เว่ยที่ยืนอยู่ริมน้ำเบา ๆ “แม่จะต้องไม่เป็นอะไร คุณเจ้าของช่องก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอคะ? ขอแค่วันนี้เราช่วยแม่ออกมาได้ แม่ก็จะไม่เป็นอะไรค่ะ”
เจ้าของแอ็กเคานต์แผ่นดินราวภาพวาดมองโทรศัพท์มือถือ
ฉู่ลั่วพยักหน้า “ฉันดูตำแหน่งเจียนเหมิน*[1] ของคุณ ไอดำหายไปแล้วค่ะ แสดงว่าดวงถึงฆาตของภรรยาคุณได้ผ่านพ้นไปแล้ว คุณไม่ต้องกังวลแล้วค่ะ”
เธอเพิ่งพูดจบ เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ขึ้นมาจากน้ำพอดี
หนึ่งในเจ้าหน้าที่กู้ภัยแบกคนคนหนึ่งออกมาด้วย “เร็ว ๆๆ คนหมดสติไปแล้ว!”
เจ้าหน้าที่พยาบาลพุ่งเข้าไป ใส่ถุงสำหรับช่วยหายใจให้คนไข้ ก่อนจะตรวจดูคร่าว ๆ ภายใต้แสงไฟ “แผลติดเชื้อ ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล”
คนกลุ่มหนึ่งจึงพากันรีบร้อนลงจากเขา
ศาสตราจารย์เว่ยเดินโซซัดโซเซตามหลังเจ้าหน้าที่ไป ขอบตาของเขาแดงก่ำ น้ำตาไหลลงมาหยดแล้วหยดเล่า
“เป็นเธอ ภรรยาของผม เป็นเธอจริง ๆ!”
เขาทั้งร้องไห้ ทั้งยิ้มไม่หยุด
ลูกสาวของศาสตราจารย์เว่ยก็หันไปพูดกับกล้อง “ขอบคุณค่ะ ขอบคุณคุณเจ้าของช่องมาก ๆ ค่ะ!”
ฉู่ลั่วกล่าว “ช่วยคนออกมาได้แล้ว พวกคุณก็ไม่ต้องกังวล งั้นก็แค่นี้ก่อนนะคะ”
เธอรู้ว่าตอนนี้แผ่นดินราวภาพวาดไม่มีแก่ใจจะไลฟ์สตรีมต่อ จึงได้ตัดการเชื่อมต่อไป
[ให้ตายสิ เจ้าของช่องเก่งเกินไปแล้ว! ช่วยคนออกมาได้จริงด้วย]
[มีแค่ฉันที่สงสัยเหรอ ว่าคนที่ตายไปเป็นใคร? ถ้าไม่ใช่ภรรยาที่เป็นคู่ชีวิตของเขา แล้วเป็นใครกันล่ะ?]
[เจ้าของช่องเก่งมาก!]
[เจ้าของช่องสุดยอดเกินไปแล้ว!]
ฉู่ลั่วความจำดีมาก เธอเห็นหลายแอ็กเคานต์ที่ก่อนหน้านี้เพิ่งด่าเธอ แต่ตอนนี้กลับพลิกลิ้นอย่างรวดเร็ว
“ไลฟ์สตรีมวันนี้พอแค่นี้นะคะ ทุกคนรีบพักผ่อนกันเถอะค่ะ!”
ไลฟ์มาสองชั่วโมง ตอนนี้จึงใกล้จะตีสีแล้ว
ฉู่ลั่วไม่ได้นอนต่อ เธอเดินไปที่ระเบียง และยืนมองทิวทัศน์ด้านนอก
ทันใดนั้นสายตาก็มองไปเห็นวิญญาณที่ดูเลือนลางในสวนหน้าบ้าน
ฮั่วเซียวหมิงนั่นเอง
เขาเอามือทั้งสองข้างไพล่หลัง เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยขณะจ้องมองไปบนท้องฟ้า
แสงจันทร์นวลผ่องสาดลงมาบนวิญญาณของชายหนุ่ม ทำให้ตัวเขาดูเลือนรางขึ้นไปอีก
ลมพัดมาเบา ๆ ดอกไม้ที่อยู่ในสวนหน้าบ้านสั่นไหวผ่านวิญญาณของเขาไป
ใบไม้ใบหนึ่งลอยไปตามลม ก่อนจะร่วงลงบนศีรษะของเขา ทะลุร่างกายโปร่งแสงนี้ไป
ฮั่วเซียวหมิงก้มหน้ามองใบไม้ที่ร่วงตรงเท้าของตนเอง
สักพักหนึ่งเมฆก็บดบังแสงจันทร์ เม็ดฝนปรอยลงมาตามกระแสลม
นี่ก็คือการเป็นผี
ลม ฝน ฤดูกาลทั้งสี่ที่เปลี่ยนแปลงไป ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับเขา
พวกเขาไม่รับรู้ถึงความอบอุ่น ไม่รับรู้ถึงความหนาวเหน็บ
ความรู้สึกและความทรงจำของพวกเขา จะถูกแก้ไขทันทีที่กลายเป็นผี
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวตายมาสิบกว่าปีแล้ว แต่เธอยังคงอยู่ในรูปลักษณ์ของเด็กน้อย
เฉิงยวนตายมาหลายพันปี ทั้งยังบำเพ็ญได้อย่างยอดเยี่ยม แต่จิตใจกลับไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย
เขาเองก็คงจะเป็นเช่นนั้น
วินาทีนั้นเอง มีสายตาอันแหลมคมจ้องมองมา
ฮั่วเซียวหมิงหันหน้าไป ท่ามกลางลมฝน เขาเห็นฉู่ลั่วที่ยืนอยู่ตรงระเบียง
ลมพัดผมของเธอ น้ำฝนหยดลงบนศีรษะประพรมใบหน้างดงาม
แม้จะอยู่ไกลกัน แต่ฮั่วเซียวหมิงก็จินตนาการถึงสายตาอันเย็นชายามเธอจ้องมองเขาได้
เธอต้องกำลังขมวดคิ้วอยู่แน่ ในแววตาก็คงแสดงความไม่พอใจออกมา
ฮั่วเซียวหมิงเม้มริมฝีปาก
ตั้งแต่เด็กจนโต ทุกคนที่ได้เจอเขา ไม่มีใครไม่ชอบเขาเลย
คนที่โตกว่าพอใจ
คนที่อายุเท่ากันต่างก็อิจฉา
คนที่อายุน้อยกว่าต่างก็มีเขาเป็นแบบอย่าง
มีแค่ฉู่ลั่ว…
ครั้งแรกที่เธอเจอกับเขา ก็ไม่พอใจกันซะแล้ว
ไม่พอใจที่ตัวเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายวิญญาณร้าย ไม่พอใจที่เขาไม่เชื่อฟัง
เหมือนตอนนี้ เธอก็ไม่พอใจที่เขามายืนตากลมตากฝน
ในชั่วพริบตา เขาก็ลอยไปอยู่ตรงหน้าเธอ
ไม่รอให้เขาพูด ฉู่ลั่วก็ขมวดคิ้วเอ่ยขึ้นมาก่อน “แสงจันทร์มีพลังหยินเข้มข้น คุณอย่าออกมาในคืนเดือนหงายบ่อย ๆ จะดีกว่า”
ฮั่วเซียวหมิง “…”
ดูสิ เธอไม่พอใจเขาตลอดเวลานั่นแหละ
แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขากลับอยากจะยิ้ม
ฮั่วเซียวหมิงยิ้มออกมา
แต่สีหน้าของฉู่ลั่วกลับดูแย่กว่าเดิมเสียอีก
[1] ตำแหน่งดวงชะตาที่บอกเกี่ยวกับคู่ครอง