เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 103 ใช้ความรู้สึกมาดูถูกเหรอ
บทที่ 103 ใช้ความรู้สึกมาดูถูกเหรอ
ซ่งเชียนหย่าพูดไม่ออก ได้แต่ชี้ไปที่อันเชี่ยนด้วยนิ้วสั่นเทา “ธะ… เธอ…”
อันเชี่ยนกอดอกมองอดีตเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย “ฉู่หร่าน พวกเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายปี เธอเคยพูดอะไรไว้กับฉัน ใจเธอรู้ดี ถ้าไม่อยากให้ฉันเอาคำพูดพวกนั้นมาพูดต่อหน้าป้าซ่งอีก ก็ระวังตัวเอาไว้ให้ดี”
ฉู่หร่านที่ทำหน้าเหมือนกำลังจะร้องไห้ก็แข็งค้างไป เธอเช็ดน้ำตาที่หางตาของตนอย่างประหม่า
ท่าทีเหล่านั้น หากเป็นเมื่อก่อน อันเชี่ยนคงคิดว่าอีกฝ่ายหน้าสงสาร
แต่ตอนนี้ที่พวกเขามาแสดงต่อหน้าฉู่ลั่ว ก็รู้เลยว่าคำพูดเหล่านั้นไร้ค่ามากแค่ไหน?
ยิ้มเยาะเสร็จ อันเชี่ยนก็นั่งลงตรงข้ามคุณหนูฉู่ตัวจริง “ฉู่ลั่ว สิบล้านนั่นเป็นคำขอบคุณที่เธอช่วยให้ฉันเห็นธาตุแท้ผู้ชายสารเลวคนนั้น ส่วนสิบล้านนี้ ฉันหวังว่าเธอจะช่วยเอาดวงชะตาของฉันออกมาได้”
เธอหยิบเช็คอีกใบออกมาจากกระเป๋า แล้วดันไปตรงหน้าฉู่ลั่ว
“ฉันขออธิบายให้เธอฟังชัด ๆ ก่อนนะ พ่อของฉันเคยส่งคนเข้าไปแล้ว แต่ก็เอาดวงชะตาของฉันออกมาไม่ได้ วัดผีนั่นร้ายกาจเกินไป”
“เพราะฉะนั้นสิบล้านนี้เป็นแค่เงินมัดจำ ถ้าเธอเอาดวงชะตาของฉันออกมาได้ ฉันจะให้อีกสิบล้าน”
อันเชี่ยนพูดพลางมองอีกฝ่ายด้วยดวงตาเป็นประกาย
ฉู่ลั่วดื่มนมเสร็จแล้ว ก็หยิบผ้าขึ้นมาเช็ดปาก
ฉู่หร่านที่อยู่ข้าง ๆ พูดเสียงเบาว่า “เชี่ยนเชี่ยน ทำไมเธอถึงใช้เงินดูถูกลั่วลั่วล่ะ? ตระกูลฉู่ของพวกเราไม่ได้ยากจนนะ”
เพิ่งพูดจบ ฉู่ลั่วก็ยื่นมือไปหยิบเช็คยัดลงในกระเป๋าเสื้ออย่างลวก ๆ “ฉันจะเอาดวงชะตาของเธอออกมาให้”
ฉู่หร่านทำหน้าผิดหวัง “ลั่วลั่ว ตระกูลฉู่ของพวกเราไม่ได้ขัดสนเงินทอง ทำไมเธอถึงรับปากเพราะเงินล่ะ?”
อันเชี่ยนแอบด่าแรง ๆ ไปหนึ่งคำ ก่อนลุกขึ้นมาต่อปากต่อคำด้วย “พอฉันมารบกวนแล้วให้เงิน ก็บอกว่าฉันใช้เงินดูถูกฉู่ลั่ว… ทำไมยะ? ต้องปล่อยให้พวกเธอใช้ความรู้สึกดูถูกแทนอย่างนั้นเหรอ?”
ฉู่หร่านตั้งท่าจะพูด ก็ถูกแม่ตัดบทไปเสียก่อน
ซ่งเชียนหย่าเดินเข้ามาหา “ลั่วลั่ว ลูกยอมช่วยอันเชี่ยน ทำไมถึงไม่ยอมช่วยหร่านหร่าน?”
ฉู่ลั่วยกจานชามที่ทานเสร็จแล้วไปยังห้องครัว “พวกคุณไม่ได้ต้องการให้หนูช่วยหร่านหร่านไปเอาดวงชะตาของอันเชี่ยนออกมาเหรอคะ?”
เธอหันไปมองผู้เป็นแม่ “ก่อนหน้านี้พวกคุณพูดแบบนี้ไม่ใช่เหรอ? บอกว่าถ้าไม่เอาดวงชะตาของอันเชี่ยนออกมา คนตระกูลอันจะเอาดวงชะตาของฉู่หร่านไปไว้ในวัดผี ตอนนี้หนูก็รับปากว่าจะช่วยแล้ว ไม่ใช่เหรอ?”
อันเชี่ยนได้ยินแบบนั้นก็แอบหัวเราะเยาะ “ฉู่หร่าน เธอพูดแบบนั้นเหรอ?”
ฉู่หร่านหลบอยู่ข้างหลังแม่ “ฉันไม่ได้พูดอะไรผิดนี่ พวกพี่ชายของเธอขู่ฉันแบบนั้น”
“เหอะ!” อันเชี่ยนพุ่งตัวเข้ามาดึงฉู่หร่านออกจากด้านหลังของซ่งเชียนหย่า “พวกพี่ชายของฉันก็แค่พูดไปเพราะโกรธเท่านั้นเอง เธอกลับเอาคำพูดของพวกเขามาเป็นข้ออ้าง”
“เธอจะให้ฉู่ลั่วไปที่วัดผี เพราะพี่ชายของฉันขู่เธออย่างนั้นเหรอ? เพราะตัวเธอเองต่างหาก เธอเองก็เอาดวงชะตาของตัวเองไปบูชาให้วัดผีเหมือนกัน” อันเชี่ยนครุ่นคิด ก่อนจะยิ้มเย้ยหยันกับตัวเอง “มิน่าล่ะ พวกเราสองคนถึงเป็นลูกคนรวยที่ไม่ได้เรื่องของเมืองเจียง”
ก่อนจะเจอกับหนานฉี เธอได้เปิดบริษัทจิวเวลรี่แห่งหนึ่ง ทั้งยังเป็นแบรนด์ใหญ่มากด้วย
ทว่าตั้งแต่ไปที่วัดผี แบรนด์ก็ประสบปัญหาขึ้นมาทันที มีลูกค้าเกิดอาการแพ้จากการสวมใส่เครื่องประดับ และข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วอินเทอร์เน็ต
แบรนด์ก็ย่ำแย่ บริษัทก็ล่มไปแล้ว
เธอกลายเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอันที่ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง ได้แต่ช็อปปิงแก้เบื่อไปวัน ๆ
แต่ฉู่หร่านน่าขำกว่านั้นมาก
ตระกูลฉู่ทุ่มเททรัพยากรเพื่อผลักดันเธอเข้าสู่วงการบันเทิง เคยแสดงทั้งภาพยนตร์ระดับนานาชาติ ทั้งกับผู้จัดรายใหญ่ แต่ก็ไม่ดัง
ไม่ว่าภาพยนตร์จะประสบความสำเร็จแค่ไหน แต่ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวกับเธอเลย
ที่แท้เหตุผลไม่ได้อยู่ที่ตัวพวกเธอเอง แต่เป็นเพราะไปสักการะวัดผี พอได้ความรัก การงานก็จบสิ้น